วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สาส์นแม่พระแห่งซานนิโคลัส (1983-1990)



วันที่ 25 กันยายน 1983 Gladys Quiroga de Motta (อายุ 46 ) กำลังคิดถึงสภาพอากาศในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง แล้วเธอก็สังเกตเห็นสายประคำของเธอ “เปล่งแสงสว่างเหมือนเหล็กหลอมเหลว” ทันใดนั้นเธอก็วิ่งไปพาเพื่อนบ้านมาดู และพวกเขาก็เห็นสายประคำที่เปล่งแสงด้วย! ข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ผู้คนเริ่มสวดภาวนาทุกวันที่นั้น มีอยู่วันหนึ่ง, กลาดิสคุกเข่าสวดภาวนาในห้องส่วนตัวของเธอ แม่พระทรงประจักษ์มาต่อหน้าเธอ พระพักตร์ของพระนางสวยงามกระจายรังสีความสว่าง ร่างของพระนางส่องสว่างเจิดจรัส พระนางทรงอาภรณ์สีขาวและทรงสวมผ้าคลุมสีน้ำเงิน ทรงอุ้มพระกุมารเยซูในอ้อมแขนและทรงถือสายประคำขนาดใหญ่ พระนางมารีย์ทรงยิ้ม, ไม่ได้ตรัสอะไร และในทันใดนั้น, พระนางก็ทรงหายไปในทันทีเหมือนที่ทรงประจักษ์มา กลาดิสตกตะลึง, ตื่นเต้นและสั่นศีรษะเพื่อให้แน่ใจว่าเธอตื่นอยู่จริงๆ
 
Gladys Quiroga de Motta, in San Nicolas, Argentina
เมื่อพระแม่มารีย์ทรงประจักษ์แก่กลาดิสในวันที่ 7 ตุลาคม 1983, กลาดิสถามแม่พระว่า พระนางทรงประสงค์ให้เธอทำอะไร ภาพประจักษ์ของแม่พระจางหายไปและภาพของโบสถ์น้อยโบสถ์หนึ่งก็ปรากฏขึ้น “ฉันเข้าใจว่าแม่พระทรงประสงค์ที่จะอยู่ท่ามกลางพวกเรา”
 
การประจักษ์ดำเนินไปอย่างเงียบๆอยู่หลายสัปดาห์ แม่พระทรงประจักษ์มาเป็นครั้งที่หกในวันที่ 13 ตุลาคม 1983 และวันนี้แม่พระก็ทรงเริ่มตรัสกับกลาดิส
 
“ลูกผู้มีความเชื่อ อย่ากลัวเลย. มาหาแม่เถิด ลูกจะเดินไปและจับมือแม่ ลูกจะเดินไปตามถนนที่ยาวไกล "
 
กลางเดือนพฤศจิกายน, แม่พระทรงประจักษ์มาทุกวัน กลาดิสพยายามจดบันทึกคำพูดทุกคำที่เธอได้ยินจากแม่พระ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน, กลาดิสได้ประพรมน้ำเสกไปที่ภาพประจักษ์ของแม่พระ และแม่พระตรัสว่า
 
“วันอันรุ่งโรจน์กำลังรอลูกอยู่ ลูกจะมีความยินดีในแม่, ลูกที่รักของแม่”
 
แม่พระทรงขอให้สร้างโบสถ์ ในตอนเย็นของวันที่ 24 พฤศจิกายน, กลาดิสและผู้คนกลุ่มเล็กๆ เดินไปยังสถานที่ที่แม่พระทรงบอกว่าพระนางต้องการให้สร้างโบสถ์ขึ้น ขณะที่พวกเขายืนอยู่ที่นั่น, ลำแสงที่เจิดจ้าได้แทงทะลุผ่านความมืดพุ่งไปยังพื้นดิน พยานที่เห็นเพียงคนเดียวในกลุ่มนี้คือเด็กหญิงอายุ 9 ปี
 
ในวันที่ 26 พฤศจิกายน, กลาดิสถามแม่พระว่า จะเป็นอะไรหรือไม่ถ้าเธอจะเรียกแม่พระว่า "พระแม่มารีย์แห่งสายประคำแห่งซานนิโคลัส" แม่พระทรงตอบว่า
 
“จงเป็นเช่นนั้น แม่ปรารถนาที่จะอยู่ท่ามกลางพวกลูกพร้อมด้วยการอวยพร, พร้อมด้วยสันติภาพ, พร้อมด้วยความชื่นชมยินดี และนำพวกลูกให้ใกล้ชิดกับพระเจ้าของเรา จงอ่านบทจดหมาย โคโลสี 3:15, 4:15, 2 โครินธ์ 4”
 
การประจักษ์วันที่ 27 พฤศจิกายน แม่พระทรงอ้างถึงพระคัมภีร์ อพยพ 25: 8 - ซึ่งเขียนว่า
 
“เขาทั้งหลายจะสร้างสักการสถานให้เรา เพื่อเราจะอยู่ในหมู่พวกเขา”
 
ความหมายของข้อความนี้ก็คือ พระเจ้าทรงประทานคำแนะนำแก่ชาวอิสราเอลในการสร้างหีบพันธสัญญา เพื่อที่พระยาห์เวห์จะได้ทรงสถิตอยู่กับพวกเขา พันธสัญญาใหม่และพระศาสนจักรยุคแรกมีความเข้าใจเสมอมาว่า พระนางมารีย์ทรงเป็นหีบพันธสัญญาใหม่, ซึ่งเป็นที่พำนักของพระจิตเจ้าและทรงเป็นผู้อุ้มพระบุตรไว้ในพระครรภ์ของพระนาง แม่พระทรงกล่าวถึงคำสอนนี้ที่มีมาตั้งสมัยก่อน
 
สาส์นวันที่ 12 ธันวาคม 1983:
 
“ข้าแต่พระบิดา, โปรดช่วยเราให้พ้นจากความชั่วร้ายทั้งหมดเถิด ด้วยพระปรีชาญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระเจ้าข้า, โปรดช่วยเราให้พ้นจากบาปทั้งมวล ในนามของทุกคนที่รักพระองค์ พระเจ้าข้า, โปรดนำพวกเราไปบนถนนแห่งความชอบธรรม อาแมน, จงอ่าน สุภาษิต 2: 1-11 ผู้ที่สวดภาวนานี้ในช่วงเก้าวันติดต่อกัน, พร้อมกับสวดสายประคำ, จะได้รับพระหรรษทานพิเศษจากแม่”
 
สาส์นวันที่ 27 ธันวาคม 1983
 
“มนุษย์ทุกคนแปดเปื้อนด้วยบาป, ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร, และมันเปิดโอกาสให้กับเจ้าปีศาจชั่วร้าย แต่มันจะไม่เป็นผู้ชนะ พระเยซูคริสต์จะชนะในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ลูกสาวของแม่, ลูกต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองประหลาดใจ, ลูกต้องตื่นตัว ด้วยเหตุนี้, ลูกเอ๋ย, แม่ขอให้ลูกสวดภาวนามากๆ เชื่อฟังพระเจ้ามากๆ แม่พูดเช่นนี้กับคนทั้งโลก”
 
สาส์นวันที่ 29 ธันวาคม 1983
 
“จงประกาศสาส์นของแม่, ลูกไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้! นี่คือพระประสงค์ของพระบิดาของลูก! พระองค์จะไม่ทรงขอสิ่งใดที่ไม่สามารถทำได้, หรือไม่ทรงตรัสถึงเรื่องใดที่ไม่สามารถพูดถึงได้ จงอ่าน มัทธิว 10: 26-28, 32-33, มาระโก 7: 14-16”
 

แม่พระประจักษ์แก่กลาดิสในลักษณะตามพระรูปนี้
สาส์นวันที่ 8 มกราคม 1984
 
“ในช่วงเวลาเหล่านี้, มนุษยชาติทั้งหมดถูกแขวนไว้ด้วยเส้นด้าย ถ้าหากเส้นด้ายขาด, จะมีหลายคนที่ไม่ได้รับความรอด…เร็วเข้าเถิด, เพราะเวลากำลังจะหมดแล้ว”
 
สาส์นวันที่ 15 มกราคม 1984
 
“ลูกทั้งหลายของแม่, จงอย่าดื้อดึงไม่เชื่อฟังพระเยซูคริสต์, เพราะดวงพระทัยอันบริสุทธิ์ของพระองค์จะทรงทนทุกข์, ถ้าหากพระองค์ทรงเห็นว่าลูกได้ทำบาป พระเจ้าทรงปรารถนาให้ลูกดีพร้อมสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พระองค์ไม่ประสงค์ให้ใครตกอยู่ในการล่อลวงของโลก ลูกสาวของแม่, วันนี้จงเปิดใจของลูกแก่เพื่อนบ้านของลูก จงทำให้สิ่งนี้ เพราะนี่เป็นน้ำพระทัยของแม่และของพระบิดาของลูก จงอ่าน 1 ยอห์น 2: 3-6, 17. ”
 
สาส์นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1984
 
“พระเจ้าจะทรงตอบแก่ผู้ที่สำนึกผิดกลับใจในพฤติกรรมที่ไม่ดีของพวกเขา พระเจ้าตรัสว่า “จงสำนึกผิดกลับใจแล้วเราจะให้อภัยลูก” ศัตรูจะไม่ก้าวหน้า, พระหัตถ์ของพระเจ้าพระบิดาของเราจะทรงหยุดมัน เมื่อเวลานั้นมาถึง, พระองค์จะทรงกำจัดความชั่วร้ายทั้งหมด, จะทรงชำระลูกให้บริสุทธิ์และลูกจะกลายเป็นคริสตชนที่ดี พระสิริรุ่งโรจน์พึงมีในสวรรค์”
 
สาส์นวันที่ 12 เมษายน 1984
 
“ในสถานที่อื่นๆ ที่แม่ประจักษ์มา, พระเจ้าทรงสถิตอยู่ด้วย, ลูกทั้งหลายของแม่, หากปราศจากพระหัตถ์ของพระเจ้า, ทุกสิ่งก็ไม่อาจเป็นไปได้ แม่ได้ลูกฟังสิ่งที่ลูกเคยได้ยินมาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม เวลานี้พระเจ้าทรงประทานโอกาสใหม่ให้แก่ลูก คำตอบอยู่ที่ตัวลูก อาแมน, อาแมน จงอ่าน 1 พงศาวดาร 22:19”
 
สาส์นวันที่ 7 พฤษภาคม 1984
 
“เป็นบุญของผู้ที่รักสันติ, เพราะสงครามก็นำมาซึ่งความหายนะทั้งสิ้น, เป็นสิ่งที่น่าหวั่นกลัวที่เห็นว่ามนุษย์ไม่สามารถยับยั้งแรงกระตุ้นจากความทะเยอทะยานและอำนาจของพวกเขาได้ พวกเขาไม่รู้วิธีที่จะรู้ได้ว่าแก่นแท้ของชีวิตคืออะไร, ซึ่งสามารถนำพวกเขาไปสู่ความสุขอย่างสมบูรณ์ พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำให้พวกเขาทำได้ และพระเจ้าเท่านั้นที่มีอำนาจในการทำให้สิ่งนั้นเป็นไปได้”
 
สาส์นวันที่ 18 มิถุนายน 1984
 
“คนที่กระทำผิดต่อพระเยซูคริสต์ก็เหมือนกับคนที่โบยตีพระองค์และตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขน นั่นคือสิ่งที่พระองค์ทรงรู้สึก พระองค์ทรงเป็นทุกข์อย่างยิ่งเพราะการกระทำผิดและความอยุติธรรมต่อพระองค์ โปรดจำไว้ว่าพระเจ้าผู้ทรงประทานชีวิต, ทรงเป็นผู้เดียวกับผู้ที่จะปลอบประโลมความเศร้าโศกของลูก และจะทรงประทานความปิติยินดีแห่งชีวิตนิรันดร์แก่ลูก อาเมนอาเมน”

Our Lady of the Rosary in San Nicolas, Argentina
 
ระหว่างปี 1984, ในบางวันของสัปดาห์, กลาดิสเจ็บปวดทรมานจากการได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ที่(stigmata) หรือจากแผลที่มีเลือดไหลที่ข้อมือของเธอ, ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการถูกตรึงกางเขน, ในเดือนพฤศจิกายนปี 1984 กลาดิสได้พบกับพระสังฆราชองค์ใหม่แห่งซานนิโคลัส, พระคุณเจ้าโดมิงโก ซัลวาดอร์ คัสตาญ่า, และท่านได้ไปเข้าเฝ้าพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เพื่อหารือเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ วันที่ 2 ธันวาคมแม่พระทรงบอกเธอว่า
 
“แม่ต้องการให้ประชาชนรู้ว่าแม่กำลังเข้ามาในโลก ลูกต้องทำเหรียญพร้อมด้วยรูปภาพและคำพูดของแม่ - พระนางมารีย์แห่งสายประคำแห่งซานนิโคลัส และด้านตรงข้ามของเหรียญให้ทำรูปภาพของพระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์ ล้อมรอบด้วยดาว 7 ดวง ซึ่งเป็นตัวแทนของพระหรรษทานทั้งเจ็ดที่พระเยซูจะทรงประทานแก่ผู้ที่สวมใส่เหรียญนี้”

สาส์นวันที่ 20 ธันวาคม 1984
 
“ประชาชนไม่ระวังตัวต่อยาพิษที่ปีศาจมันใส่ในพวกเขา และพวกเขายอมให้ตนเองถูกประจญล่อลวง ทุกวันนี้, พวกเขายังคงตรึงกางเขนพระคริสต์ด้วยพฤติกรรมของพวกเขา ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงกำลังสั่งสอนบรรดาลูกทั้งหลายของพระองค์”
 
สาส์นวันที่ 11 มกราคม 1985
 
“น้ำตาเผาไหม้ดวงตาของแม่, เมื่อแม่มองเห็นความเย็นชาเช่นนั้นในคนเหล่านั้นที่แม่พยายามช่วยเหลือ เพราะแม่รู้ว่าถ้าหากพวกเขาไม่ยอมกลับใจ, พวกเขาจะต้องตาย”
 
สาส์นวันที่ 13 มิถุนายน 1985
 
“การสวดภาวนามีคุณค่าอะไรสำหรับพระเจ้า, พวกลูกไม่สามารถจิตนาการได้หรอก ! ลูกทั้งหลายของแม่, ด้วยเหตุนี้แม่จึงขอให้ลูกสวดภาวนามากๆ! จงสวดสายประคำและรำพึง! แม่ขอให้ความมั่นใจแก่ลูกว่าคำภาวนาของลูกจะขึ้นไปสู่พระเจ้าเหมือนบทเพลงแห่งความรักที่แท้จริง”
 
สาส์นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1986
 
“ลูกอาจถามตัวเองว่า ‘พระเจ้าจะทรงให้อภัยบุคคลที่ลืมคิดถึงการมีอยู่ของพระองค์หรือไม่?’ แม่ขอบอกลูกว่า ‘ได้’ , ลูกทั้งหลายของแม่, พระเจ้าสามารถทำได้, เพราะพระองค์มีพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ แต่จงอย่าเอาเปรียบพระเจ้าเพราะความใจดีมีเมตตาของพระองค์ จงเกาะกุมเสื้อคลุมของแม่ไว้ให้แน่น, เพราะมันจะชำระล้างลูกให้สะอาดบริสุทธิ์เบื้องหน้าพระเจ้า พระสิริรุ่งโรจน์พึงมีแด่พระผู้สูงสุดในสวรรค์และบนแผ่นดิน จงอ่าน อิสยาห์ 29:18-19, 30:18, 21.”

การฉลองเทิดเกียรติการประจักษ์มาของแม่พระในอาร์เจนตินา
 
สาส์นวันที่ 7 มีนาคม 1986
 
“ลูกสาวของแม่, เจ้าชายแห่งปีศาจได้เทยาพิษของมันออกมาแล้วในทุกวันนี้ด้วยอำนาจทั้งหมดของมัน เพราะมันมองเห็นว่าการครองราชย์ที่น่าเศร้าของมันกำลังสิ้นสุดลง มันมีเวลาเหลือยู่เพียงเล็กน้อย การจบสิ้นของมันอยู่ใกล้แล้ว อาแมน อาแมน”
 
วันที่ 25 พฤษภาคม 1986 เหรียญที่แม่พระตรัสให้สร้างนั้น, ในที่สุดก็ถูกสร้างขึ้นและผลิตออกมาแล้ว และเวลานี้ได้ถูกแจกจ่ายไปทั่วทุกแห่งตามที่แม่พระทรงร้องขอ
 
สาส์นวันที่ 11 ตุลาคม 1986
 
“ลูกสาวของแม่, เจ้าปีศาจตนหนึ่งได้รับชัยชนะในเวลานี้ นี่เป็นความจริง, แต่มันเป็นชัยชนะที่จะสิ้นสุดลงในเวลาอันสั้น พระเจ้าเพียงแต่ทรงประทานเวลาแก่มันเท่านั้น เป็นเวลาเดียวกันกับที่พระองค์ทรงประทานแก่มนุษย์เพื่อให้เขาหันกลับมาหาพระเจ้า เพราะเหตุนี้ความชั่วและความบ้าคลั่งประสาโลกจึงได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ความอ่อนแอจะกลายเป็นความแข็งแกร่ง และด้วยวิธีนี้จะทำให้สามารถกำจัดความชั่วได้ เพราะหัวใจของมนุษย์ยังไม่ได้ถูกรุกรานไปทั้งหมด พระสิริรุ่งโรจน์พึงมีแด่พระเจ้า”
 
สาส์นวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1987
 
“ลูกสาวของแม่, ในช่วงเวลานี้, แม่เป็นนาวาสำหรับพี่น้องทั้งหมดของลูก! แม่เป็นนาวาแห่งสันติภาพ, นาวาแห่งความรอด, นาวาที่ลูกทั้งหลายของแม่ต้องเข้ามาอยู่, ถ้าพวกเขาปรารถนาที่จะอยู่ในพระอาณาจักรของพระเจ้า ไม่มีอุปสรรคใดๆสำหรับแม่คนนี้, และจะไม่มีอุปสรรคสำหรับบรรดาลูกทั้งหลายด้วย”
 
วันที่ 11 เมษายน 1987 พระสังฆราช คาสตาญ่า ได้พบกับพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 อีกครั้งและได้สัญญาว่าท่านจะทำการศึกษาปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ซานนิโคลัส, อาร์เจนติน่า
 
สาส์นวันที่ 10 พฤษภาคม 1987
 
“จงอย่าหวังสิ่งใดจากพระเจ้าถ้าหากลูกไม่ได้ทำอะไรเพื่อพระองค์ จงตื่นขึ้นและกลับมาหาพระเจ้าเถิด”
 
สาส์นวันที่ 21 กันยายน 1987
 
“ลูกสาวสุดที่รักของแม่, ช่างน่าเศร้ายิ่งนักสำหรับเยาวชนที่สูญเสียไป! ยาเสพติดและชีวิตแบบง่ายๆเป็นรูปแบบที่ปีศาจตนหนึ่งได้วางไว้สำหรับเยาวชน! บาปถูกกระทำด้วยวิธ๊ที่แตกต่างกันไปทุกวิถีทาง ทำให้พวกเขาหลงผิดมากยิ่งขึ้นและออกห่างจากพระเจ้า! ถ้าเพียงแต่พวกเขาจะหันมามองพระมารดาของพระเจ้า, พระมารดาจะทำให้พวกเขาได้พบกับพระเจ้าอีกครั้ง ถ้าเพียงแต่พวกเขาจะแทรกเข้าสู่ดวงหทัยของพระมารดา, พวกเขาจะสามารถได้ยินเสียงของพระเจ้า”
 
วันที่ 13 ตุลาคม 1987 – เริ่มการสร้างโบสถ์ตามที่แม่พระทรงประสงค์
 
วันที่ 21 มีนาคม 1988, กลาดิสได้รายงานว่าได้รับนิมิตซึ่งเธอเห็นโลกถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกมีสองในสามของโลก และส่วนที่สองมีขนาดหนึ่งในสามของโลก เธอเห็นแม่พระทรงอยู่ในส่วนที่เล็กกว่า แม่พระทรงตอบกลาดิสว่า
 
“ลูกได้เห็นโลกถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง รังสีแสงเหล่านี้ส่องออกมาจากดวงหทัยของแม่, ซึ่งต้องการจะช่วยหัวใจทั้งหลายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดวงหทัยของแม่เป็นพลังอำนาจทั้งหมด, แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าหากหัวใจเหล่านั้นไม่เต็มใจรับ วิธีที่จะช่วยวิญญาณให้รอดได้คือการสวดภาวนาและการกลับใจ วิญญาณทุกดวงต้องเตรียมตัวเพื่อที่จะไม่ต้องถูกจำคุกอยู่ในความมืดมิดชั่วนิรันดร”
 
สาส์นวันที่ 1 เมษายน 1988 ตรงกับวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
 
“ลูกสาวของแม่, มันเป็นการเริ่มต้นของการเฆี่ยนตี การเริ่มต้นของพระมหาทรมานของพระองค์, ต่อมาก็เป็นมงกุฎหนาม, การตอกตะปู, การถูกแทงด้วยหอก แม่เจ็บปวดยิ่งนักที่เห็นพระองค์ทรงรับทุกข์ทรมาน! ทุกวันนี้, มันเป็นบาป, คำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจ, ความไม่เชื่อในพระเจ้า ใช่แล้ว, พวกเขาตรึงกางเขาพระองค์อีกครั้ง, หัวใจของแม่หลั่งโลหิตอีกครั้ง”
 
Our Lady of the Rosary”
 
สาส์นวันที่ 8 ธันวาคม 1988
 
“ในช่วงเวลาที่มีความสับสนมากมายเหล่านี้และมีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยในวิญญาณ, แสงสว่างอันบริสุทธิ์ของแม่จะนำทางลูกในท่ามกลางความมืดมิดมากมายเช่นนี้ หลายคนเป็นลูกที่ไม่ยอมรับว่าพระมารดาทรงเป็นคนกลางเบื้องหน้าองค์พระบุตร แต่ก็มีหลายคนที่ไปหาองค์พระบุตรโดยผ่านทางพระมารดา แม่ขอบอกต่อมนุษยชาติทั้งหมดว่า แม่จะช่วยพวกลูกให้เอาชนะสิ่งที่ไม่แน่นอนทั้งหมด พระมารดาผู้นี้จะทำให้ลูกได้พบกับองค์พระบุตรให้ได้ เพื่อที่สิ่งนี้จะเป็นไปได้, จำเป็นต้องมีความถ่อมตน, เป็นคนเล็กน้อยและละทิ้งตัวลูกเองมาสู่ดวงหทัยของแม่ แม่ขอให้ความมั่นใจแก่ลูก, อย่าสงสัยเลย จงประกาศไปเช่นนี้, ลูกสาวของแม่ พระสิริรุ่งโรจน์พึงมีในสวรรค์”
 
สาส์นวันที่ 10 ธันวาคม 1988
 
“ไม่ใช่พระเจ้าที่ทอดทิ้งมนุษยชาติ, แต่เป็นมนุษยชาติที่ทอดทิ้งพระเจ้า”
 
สาส์นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1989
 
“เวลานี้โลกต้องรู้ว่าพระมารดาของพระคริสตเจ้าจะมีชัยชนะเหนือซาตาน, เพราะที่อยู่เคียงข้างพระนางคือองค์พระบุตรผู้ทรงถ่อมพระองค์ของพระนาง”
 
สาส์นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1989
 
“สำหรับช่วงเวลาเหล่านี้, พระเจ้าทรงประทานเครื่องหมายคือ สตรีผู้มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ พระนางทรงเป็นความหวังที่บรรดาลูกทั้งหลายต้องยึดกุมไว้ให้มั่น พระมารดาทรงจับจ้องสายตาที่พวกลูก จงเพ่งสายตาของพวกลูกและเพ่งหัวใจของลูกไปที่พระเจ้า”
 
สาส์นวันที่ 13 พฤษภาคม 1989
 
“ลูกสาวของแม่, ดังเช่นที่ฟาติมาในอดีต, ทุกวันนี้แม่ได้มาเยี่ยมแผ่นดินโลกอีกหลายครั้ง และมันจะบ่อยขึ้นและยาวนานมากขึ้น เพราะมนุษยชาติกำลังเดินผ่านช่วงเวลาอันน่าระทึกขวัญ มนุษยชาติไม่เข้าใจเลยหรือว่าพวกเขาต้องรับใช้พระเจ้าเท่านั้น? ถ้าพวกเขาปฏิเสธ, วิญญาณของพวกเขาจะต้องพินาศ หัวใจของหลายคนไม่ยอมรับการเชื้อเชิญของแม่ให้สวดภาวนาและกลับใจ เพราะเหตุนี้ผลงานของปีศาจจึงเติบโตและขยายตัวออกไป ลูกทั้งหลายสุดที่รักของแม่, โดยอาศัยการสวดภาวนาและการกลับใจเท่านั้นที่ลูกจะหันกลับมาหาพระเจ้าได้ ขอให้พระองค์ไม่พบกับหัวใจที่แห้งแล้งของลูก”
 
สาส์นวันที่ 24 พฤษภาคม 1989
 
“ลูกทั้งหลายของแม่, แม่คือประตูสวรรค์และผู้คอยช่วยเหลือบนโลก”
 
สาส์นวันที่ 7 ธันวาคม 1989
 
“ลูกทั้งหลายของแม่, องค์พระบุตรของแม่ทรงมอบหมายภารกิจให้แม่คือ ให้เป็นผู้นำทางวิญญาณซึ่งต้องการจะมาหาพระองค์ จงประกาศเช่นนี้”
 
กลาดิสยังได้รับสาส์นอีก 68 สาส์นจากพระเยซูด้วย นี่เป็นสาส์นวันที่ 30 ธันวาคม 1989
 
“ก่อนหน้านี้, โลกได้รับความรอดโดยอาศัยสำเภาของโนอาห์ ทุกวันนี้สำเภาคือพระมารดาของเรา โดยอาศัยพระนาง, วิญญาณจะได้รับความรอด, เพราะพระนางจะนำพวกเขามาหาเรา คนที่ปฏิเสธพระมารดาของเรา ก็ปฏิเสธิเรา! มีหลายคนที่ปล่อยให้พระหรรษทานของพระเจ้าผ่านเลยไปในวันเหล่านี้”

Getting ready for Mass with Our Lady of the Rosary
 
กลาดิสได้เขียนบันทึกสาส์นของแม่พระไว้ทั้งหมดจำนวน 1,816 สาส์น กลาดิสเขียนและอ่านหนังสือไม่ค่อยได้ก่อนที่การประจักษ์เริ่มต้น แต่เธอก็สามารถเขียนบันทึกสาส์นเป็นจำนวนมากได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง
 
“ลูกทั้งหลายของแม่, แม่ขอร้องพวกลุกให้สวดภาวนาสำหรับวิญญาณที่ไม่สวดภาวนาและมีความรักต่อพระเจ้าน้อยลง อย่าให้ใครแสร้งทำเป็นเชื่อพระเจ้า, ถ้าเขายังอยู่ห่างไกลจากพระเจ้า แม่ขอให้มีการสวดภาวนาและการกลับใจด้วยใจจริง กลาดิส, ลูกจงสวดภาวนาเพื่อบรรดาลูกที่ดื้อดึงของแม่ด้วย จงสวดภาวนาเพื่อที่หัวใจแต่ละดวงจะยอมให้ความรักขององค์พระบุตรของแม่เข้าไป, เพื่อที่การกบฏจะได้สิ้นสุดลง”
 
มีข่าวของอัศจรรย์การเยียวยารักษาโรคของเด็กชายอายุ 7 ขวบที่ใกล้ตาย รายงานบอกว่า แม่ของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ได้สวดภาวนาด้วยความสิ้นหวังเพื่อเขา และเธอก็ได้รับการตอบสนอง อาการอัมพาตของเขาได้หยุดลงและเนื้องอกในสมองรูปไข่เริ่มหดตัวลงไม่มีเหลือภายใน 3 สัปดาห์ เขาได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกในช่วงเวลาก่อนที่อัศจรรย์การเยียวยารักษาเริ่มต้นขึ้น
 
สาส์นและการประจักษ์ได้สิ้นสุดลงในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1990 คณะพระสงฆ์ที่ทำงานตรวจสอบ, นักจิตวิทยา, นักเทววิทยา, และนายแพทย์ประกาศว่า กลาดิสและสาส์นที่เธอได้รับนั้น เชื่อถือได้ การหายจากโรคเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติและเป็นจริง, และสภาวะทางจิตของกลาดิสมีความสมดุล, มีสุขภาพดี, และปราศจากภาพหลอน พระสังฆราช คาสตาญ่า ได้รับรองการประจักษ์และได้เริ่มอนุญาติให้มีการแห่ในวันที่ 25 ของแต่ละเดือน ซึ่งปกติจะมีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 100,000 คน
 
ปี 2008, โบสถ์ที่สวยงามก็เสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 25 ครบรอบการประจักษ์ครั้งแรก และมีประชาชน 200,000 คนมาร่วมในพิธีตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อชมและโบสถ์และพระรูปแม่แห่งสายประคำที่ทำด้วยไม้

***************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น