วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เจ้าอาวาสแห่งอารส์กับปีศาจ


นรกมีอยู่จริงและเหล่าเทวดากบฏถูกสาปแช่งให้ไปอยู่ในนรก นี่เป็นความสอนของความเชื่อคาทอลิก ปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีตัวตน, ไม่ใช่เป็นเพียงความคิดในจินตนาการเท่านั้น และเป็นความจริงอีกเช่นเดียวกันว่า ปีศาจกำลังทำงานแห่งความชั่วร้ายของมันในโลกอย่างซ่อนเร้นเป็นส่วนใหญ่; แต่ก็มีไม่น้อยที่บางครั้งมันได้รับอนุญาตจากพระเจ้าให้ทำสิ่งชั่วร้ายแก่บุคคลบางคนอย่างเปิดเผย

เป็นเวลานานถึง 35 ปี ตั้งแต่ปี 1824 ถึง 1858 ที่เจ้าอาวาสแห่งอารส์ถูกก่อกวนและถูกทำร้ายจากเจ้าปีศาจ อาทิเช่น มันก่อกวนท่านไม่ให้มีโอกาสรับประทานอาหารและนอนหลับ ด้วยการก่อกวนเช่นนี้, ซาตานคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จในการทำให้ท่านเลิกคิดที่จะสวดภาวนา, ทำพลีกรรมชดเชยใช้โทษบาป, การอภิบาลดูแลประชาชน, และการช่วยวิญญาณของผู้อื่นให้รอด
 
แต่ศัตรูแห่งความรอดของมนุษยชาติก็ต้องผิดหวังและพ่ายแพ้
 
นักบุญถูกโจมตีจากอำนาจแห่งความมืด
 
ความศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่อยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ (เจ้าอาวาสแห่งอารส์) เป็นสัญญาณแห่งชัยชนะของพระศาสนาจักร และนั่นได้ปลุกความโกรธแค้นของนรก พระคัมภีร์บอกเราว่าบางครั้งซาตานปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์แห่งแสงสว่าง ในยุคสมัยของเรานี้, มันใช้ความเจ้าเล่ห์ของมันในการล่อลวงผู้คนได้สำเร็จ, ในการทำให้ทุกคนคิดว่าปีศาจไม่มีตัวตนอยู่จริง ในชีวประวัติของท่านเจ้าอาวาสแห่งอารส์ที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ มีช่วงเวลาถึง 35 ปีที่ท่านถูกก่อกวนและถูกทำร้ายบ่อยๆทางกายภาพและรูปธรรมอย่างเปิดเผยโดยเจ้าปีศาจที่ชั่วร้าย
 
พึงระลึกไว้เสมอว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องถูกประจญล่อลวง เพราะการประจญล่อลวงให้ทำบาปเป็นกิจกรรมหลักของปีศาจ ดังนั้นอาจพูดได้ว่า การประจญล่อลวงนั้นได้รับอนุญาตจากพระเจ้าเพื่อประโยชน์ของเราเอง เจ้าปีศาจจะพยายามทำให้เกิดความกลัวโดยการแสดงตัวมันให้คนเห็น, หรือโดยทำให้เกิดเสียงที่น่ากลัว และยิ่งไปกว่านั้น มันอาจกระทำกับประสาทสัมผัสภายนอกของร่างกาย หรือทำให้เกิดภาพมายา, จินตนาการหรือความทรงจำ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อปีศาจเข้าสิงและยึดครองร่างกายทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น, มันก็ยังไม่สามารถยึดครองจิตวิญญาณและจิดอิสระของมนุษย์ได้ จากประสบการณ์ของท่านเจ้าอาวาสแห่งอารส์ พบว่าการกระทำส่วนใหญ่ของเจ้าปีศาจจะอยู่ในหมวดหมู่แรก ได้แก่

พลังแห่งความมืดโจมตีอย่างเปิดเผย - ในฤดูหนาวปี 1824 ในความเงียบสงัดของคืนที่หนาวเหน็บ, การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวเย็นยะเยือก, ปีศาจทุบประตูบ้านพักพระสงฆ์ และส่งเสียงตะโกนอย่างป่าเถื่อนดังขึ้นมาจากลานเล็กๆหน้าบ้าน ท่านเจ้าอาวาสสงสัยว่าอาจมีขโมยอยู่ด้านนอก ท่านจึงขอให้ Andre Verchere, ชายที่แข็งแรงของหมู่บ้าน ให้มาอยู่ที่บ้านพักพระสงฆ์ในคืนถัดไป มันจะเป็นคืนที่น่าตื่นเต้นสำหรับคู่ต่อสู้ หลังเที่ยงคืนไม่นาน, ทันใดนั้นก็มีเสียงทุบประตูรัวๆหน้าบ้านพักพระสงฆ์ ในขณะที่คนที่อยู่ในบ้านก็ได้ยินเสียงดังราวกับมีรถลากหนักหลายคันถูกขับเข้ามาในห้อง อังเดรคว้าปืนของเขา, มองออกไปนอกหน้าต่าง, แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากแสงสีซีดจางของดวงจันทร์: "ตลอดทั้งชั่วโมงที่บ้านสั่น - และขาของฉันก็เป็นเช่นนั้นด้วย" ผู้พิทักษ์สารภาพในภายหลัง เย็นวันต่อมาเขาได้รับคำเชิญอีกครั้งให้ค้างคืนที่บ้านพักพระสงฆ์ แต่อังเดรก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว
 
การรบกวนเหล่านี้และเหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นเกือบทุกคืน มันเกิดขึ้นแม้ในขณะที่คุณพ่อเวียนเนย์อยู่ห่างไกลจากบ้านพัก ในช่วงปีแรกๆ, ท่านยังสามารถอาศัยความช่วยเหลือจากพระสงฆ์ที่อยุ่ใกล้ๆได้ ดังนั้นในคืนหนึ่งระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่โบสถ์ St Trivier บ้านพักพระสงฆ์เกิดสั่นสะเทือนและมีเสียงที่น่ากลัวซึ่งดูเหมือนจะมาจากห้องนอนคุณพ่อเวียนเนย์ ทุกคนตื่นตระหนกและวิ่งไปที่ห้องของคุณพ่อเวียนเนย์ พระสงฆ์เห็นท่านอยู่บนเตียง, มีมือที่มองไม่เห็นลากท่านไปที่กลางห้อง ในไม่ช้า, ท่านคุณพ่อเวียนเนย์ก็รับรู้ว่าการแสดงตลกโชว์ของซาตานนี้จะมีความดุร้ายมากยิ่งขึ้นทุกทีเมื่อมีการกลับใจครั้งใหญ่เกิดขึ้น หรือที่ท่านเรียกอย่างตลกในบางครั้งว่า ”เมื่อตกปลาตัวใหญ่ได้” เช้าวันหนึ่งปีศาจจุดไฟเผาเตียงของท่าน คุณพ่อเวียนเนย์เพิ่งออกจากที่ฟังสารภาพบาป เพื่อไปประกอบพิธีมิสซา มีเสียงร้องขึ้นว่า "ไฟไหม้! ไฟไหม้!" ท่านเพียงแต่ส่งกุญแจห้องของท่านให้แก่คนที่จะดับไฟ: "เจ้าคนเลว!" (ชื่อเล่นของปีศาจ) "ไม่สามารถจับนกได้ มันจึงจุดไฟเผากรงแทน!" คุณพ่อเวียนเนย์คิด จนถึงทุกวันนี้ผู้แสวงบุญสามารถมองเห็นหัวเตียงแข็งที่มีรอยไหม้ กรอบรูปภาพที่มีเศษแก้วแตกเนื่องจากความร้อนของเปลวไฟ ต้องจำไว้ว่า ไม่มีโอกาสที่ไฟจะติดได้เองในเตาไฟและไม่มีไม้ขีดไฟในบ้านพักพระสงฆ์เลย
 
การก่อกวนเหล่านี้มีทั้งที่น่ากลัวและน่าหัวเราะ คุณพ่อเวียนเนย์รู้สึกขบขันในการแสดงตัวตนของปีศาจในสภาพที่แย่มากๆของมันเช่นนี้ ครั้งหนึ่งคุณพ่อเวียนเนย์กล่าวว่า "เจ้าปีศาจและตัวพ่อเอง - เราเกือบจะสนิทกัน" ตัวอย่างของอารมณ์ขันของซาตานต่อไปนี้ เป็นลักษณะที่บางคนเรียกว่า "ลิงของพระเจ้า" ปีศาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสร้างเสียงคล้ายกับเสียงที่เกิดจากการกรีดกระจกด้วยใบมีดเหล็กกล้า หรือบางครั้งมันจะร้องเพลง "ด้วยเสียงที่แตกมาก" คุณพ่อเวียนเนย์เล่า หรือมันจะส่งเสียงเป่านกหวีดเป็นเวลาหลายชั่วโมง; หรือมันทำให้เกิดเสียงดังเหมือนม้าวิ่งควบเข้ามาในห้อง หรือมันจะส่งเสียงร้องเหมือนแกะ, หรือเสียงแมวเหมียว, หรือร้องตะโกนอยู่ใต้หน้าต่างห้องของท่านว่า "เวียนเนย์ ! เวียนเนย์! เจ้าคนกินมันฝรั่ง" วัตถุประสงค์ของการแสดงที่น่ากลัวหรือพิลึกเหล่านี้คือต้องการกิดกันคุณพ่อเวียนเนย์ไม่ให้ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอและจำเป็นสำหรับร่างกาย อันจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายของท่านและทำให้ท่านไม่สามารถทำงานที่น่าอัศจรรย์ของท่านในการฟังสารภาพบาปได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้ท่านช่วยประชาชนจำนวนมากให้พ้นจากเงื้อมมือของปีศาจ แต่หลังจากปี 1845 การโจมตีภายนอกเหล่านี้ของปีศาจก็หยุดไปเกือบทั้งหมด

ความมั่นคงของนักบุญท่ามกลางการทดลองเช่นนี้ได้รับรางวัลจากพระพรพิเศษที่พระเจ้าทรงประทานแก่ท่าน เพื่อใช้ขับไล่ผีปีศาจออกจากผู้มันครอบครอง อย่างไรก็ตาม, สิ่งที่น่าสพรึงกลัวทึ่สุดซึ่งไม่มีอะไรเทียบได้, ของการที่ร่างกายซึ่งถูกปีศาจครอบครอง ก็คือการที่วิญญาณตกอยู่ในบาปหนักและยอมขายวิญญาณให้กับซาตาน คุณพ่อเวียนเนย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้ใช้เวลาการอภิบาลดูแลประชาชนส่วนที่ดีที่สุดของท่านในการฟังสารภาพบาปของผู้คนจากทุกหนทุกแห่ง การฟังสารภาพบาปของคุณพ่อเวียนเนย์เป็นปาฏิหาริย์ที่แท้จริง ซึ่งไม่ได้เป็นความมหัศจรรย์เพียงแค่สองสามสัปดาห์ แต่มันเป็นเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุด คุณพ่อเวียนเนย์อยู่ในอาณาบริเวณที่จำกัดของที่ฟังสารภาพบาป ซึ่งไม่มีความสะดวกสบาย, ไม่มีการระบายความร้อน ปาฏิหาริย์นี้ดำเนินไปเป็นเวลาสี่สิบปี สิ่งที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับคุณพ่อเวียนเนย์ ก็คือตัวท่านเอง ท่านกลายเป็นผู้ศักิ์สิทธิ์แห่งการแสวงบุญ ผู้คนจากทุกหนแห่งแห่กันไปที่อารส์ คนหลายแสนคนไปเพื่อที่จะได้เห็น, ได้ฟังและพูดคุยกับท่านเพียงไม่กี่คำ และเหนือสิ่งอื่นใด, เพื่อไปสารภาพบาปกับท่าน
 
ว่ากันว่า ครั้งหนึ่งปีศาจบอกกับคุณพ่อเวียนเนย์ว่า "ถ้ามีพระสงฆ์เพียงสามองค์เหมือนกับแก อาณาจักรของข้าก็จะถูกทำลายไปหมดสิ้นแล้ว" คุณพ่อเวียนเนย์มีอารมณ์ขันเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าปีศาจโดยกล่าวว่า “โอ้! เจ้าตัวเขมือบ " เป็นชื่อเล่นที่ท่านตั้งให้กับเจ้าปีศาจ "และตัวพ่อเอง เราเกือบจะสนิทกันแล้ว”

เราคงไม่ต้องต่อสู้กับซาตานในแบบเดียงกับที่คุณพ่อเวียนเนย์ได้ทำ แต่เราควรรู้และเข้าใจในสิ่งที่ปีศาจเป็นและสิ่งที่มันทำ และเราจำเป็นต้องต่อสู้ต่อต้านมัน เริ่มต้นด้วยการยอมรับว่ามันมีอยู่จริงและตระหนักว่ามันต้องการทำลายเรา และเราต้องรู้ว่าถึงแม้มันจะแข็งแกร่งมีอำนาจ แต่ซาตานก็มีข้อจำกัด และพ่ายแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว (CCC 2852, 2864)

St. John Vianney - Incorrupt Relic (1786-1859)
 
นักบุญยอหน์ มารีย์ เวียนเนย์ องค์อุปถัมภ์ของพระสงฆ์
โปรดภาวนาเพื่อพระสงฆ์ทั้งมวลเทอญ
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น