แม่พระร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด

จะเกิดการละทิ้งความเชื่อและตามมาด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3

 

2 มิถุนายน 2020 (LifeSiteNews) – อาร์คบิชอปคาร์โล มาเรีย วิกาโน ในการให้สัมภาษณ์กับ LifeSiteNews อธิบายเรื่องราวของการประจักษ์ของพระแม่มารีย์ในชิวิตาเวคเคีย Civitavecchia, อิตาลีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีก่อน ในช่วงเหตุการณ์อัศจรรย์นี้พระแม่มารีย์ได้อ้างถึงการประจักษ์และสาส์นของพระนางที่ฟาติมา และทรงเตือนว่าซาตานกำลังออกไปเพื่อทำลายครอบครัว
 

นอกจากนี้พระแม่มารีย์ยังพูดถึงการละทิ้งความเชื่อในพระศาสนจักรด้วย ซึ่งจะเป็นความมืดมนที่ครอบคลุมเหนือกรุงโรม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องประกอบพิธีถวายประเทศอิตาลีแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ พระนางยังกล่าวอีกว่า “โลกยิ่งทียิ่งกลายเป็นนักโทษของความมืดมิดและความชั่วร้ายของซาตาน ไม่ยกเว้นแม้แต่ผู้รับใช้หลายคนของพระศาสนจักร” พระนางยังตรัสถึงความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามที่จะตามมาหลังจากการละทิ้งความเชื่อ
 

พระแม่มารีย์ตรัสกับครอบครัวเกรกอรี (Gregori family) หลังจากที่รูปปั้นพระแม่มารีย์ได้หลั่งน้ำตาเป็นเลือดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1995 พระนางตรัสอย่างชัดเจนว่าการประจักษ์นี้เชื่อมโยงกับการประจักษ์ของพระนางที่ฟาติมา ทรงกล่าวว่า:“ลูกทั้งหลายของแม่, ในเวลานี้, ความมืดของซาตานกำลังทำให้โลกทั้งโลกมืดมิดและมันก็ครอบคลุมพระศาสนจักรของพระผู้เป็นเจ้าด้วย จงเตรียมตัวที่จะดำเนินชีวิตตามสิ่งที่แม่ได้เปิดเผยต่อลูกสาวน้อยๆแห่งฟาติมาของแม่เถิด”
 

 

ท่านอัครสังฆราชกล่าวว่า “คำทำนายนี้เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของพระศาสนจักรคาทอลิกซึ่งเป็นผลงานของซาตานโดยผ่านทางลัทธิเมซอนนิกในความพยายามทำให้โรมันคาทอลิกกลายเป็นโปรแตสแตนต์ และกลายเป็นเพียงศาสนาหนึ่งในหลายศาสนาที่เป็นส่วนหนึ่งของศาสนาโลกศาสนาเดียว”
 

เกี่ยวกับอิทธิพลของลัทธิเมซอนนิกในพระศาสนจักรและในโลก, ท่านกล่าวเสริมว่า: "หนวดปลาหมึกยักษ์แห่งลัทธิเมซอนนิกเข้าเกาะกุมพระศาสนจักรคาทอลิก,ไม่ใช่ข่าวลือและเป็นความลับ ถูกแล้ว,ที่วาติกันซึ่งเป็นที่ตั้งของพระศาสนจักรคาทอลิก ลัทธิเมซอนนิกมีความอดทนและรอจนกว่ามันจะสามารถขึ้นไปมีอำนาจและสามารถบังคับบัญชา หัวใจของคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก, ซึ่งโดยคำสั่งจากพระเจ้าจะต้องเป็นแสงสว่างของโลก, เป็นเวลานานแล้วที่ได้กลายเป็นบ้านอันเอิกเกริกและการเสแสร้งที่ทำให้เกิดความเสื่อมสลายในตัวเอง”
 

แต่ก็ยังมีสาส์นแห่งความหวัง, พระแม่มารีย์ตรัสในช่วงการประจักษ์ที่ชิวิตาเวคเคียว่า: “หลังจากหลายปีแห่งความเจ็บปวดจากความมืดมนของซาตาน, ปีแห่งชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่เวลานี้ก็ได้เริ่มต้นแล้ว” และพระนางทรงขอให้เราสวดสายประคำซึ่งเป็นอาวุธอันทรงพลังแข็งแกร่งที่ต่อต้านกองกำลังแห่งความชั่วร้าย
 

ตามที่อาร์คบิชอปวิกาโนกล่าวไว้, การประจักษ์นี้ได้รับการรับรองจากสังฆมณฑลแห่ง Civitavecchia และแม้แต่พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ก็ยังทรงอวยพรรูปปั้นอันน่าอัศจรรย์นั้นเป็นการส่วนพระองค์ นอกจากนี้ท่านสังฆราชยังแจ้งให้เราทราบว่าคุณพ่อกาเบรียล เอม็อท(Gabriele Amorth) หัวหน้าพระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจแห่งโรมผู้มีชื่อเสียง (เสียชีวิตแล้วในกรุงโรม) เชื่ออย่างยิ่งในการประจักษ์นี้และยังขอให้ครอบครัวเกรกอรีสวดภาวนาให้ท่านเมื่ออยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต อาร์คบิชอปวิกาโนเคยไปเยี่ยมชมครอบครัวเกรกอรีและได้เห็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเมื่อกำลังสวดภาวนาต่อหน้ารูปปั้นมหัศจรรย์
 

LifeSite ขอเสนอการสัมภาษณ์ อาร์คบิชอปวิกาโน หลังจากที่ท่านได้กล่าวถึงการประจักษ์ที่ Civitavecchia ในการพูดคุยกับทางเว็บไซต์โปรตุเกสในเรื่องที่เกี่ยวกับสาส์นแห่งฟาติมา ท่านบอกว่าความลับที่สามของฟาติมายังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ ท่านกล่าวว่า "เป็น [Cardinal Tarcisio] Bertone เองที่พยายามอย่างหนักที่จะดิสเครดิตและเซนเซอร์ Madonnina delle Lacrime (Madonna of Tears แม่พระทรงร้องไห้เป็นเลือด) แห่ง Civitavecchia ซึ่งสาส์นของแม่พระนั้นเหมือนกับสิ่งที่พระนางตรัสที่ฟาติมาอย่างสมบูรณ์”
 

สำหรับอาร์คบิชอปวิกาโนแล้ว, คำเตือนของพระแม่มารีย์ที่ Civitavecchia ที่อยู่ชานเมืองสังฆมณฑลแห่งโรม, กำลังเกิดขึ้นจริงในยุคสมัยของเรา เมื่อพูดถึงพระดำรัสของแม่พระเกี่ยวกับการโจมตีของซาตานต่อครอบครัว, เป็นสิ่งที่ซิสเตอร์ลูซีอาแห่งฟาติมาเคยพูดถึงในจดหมายถึงพระคาร์ดินัล Carlo Caffarra - อาร์คบิชอปวิกาโนอธิบายว่า:
 

“การสู้รบขั้นแตกหักระหว่างอาณาจักรของพระคริสต์กับอาณาจักรของซาตานเกี่ยวข้องกับการแต่งงานและครอบครัว การโจมตีครอบครัวหมายถึงการทำลายเซลล์พื้นฐานของสังคม ซึ่งเป็นพื้นฐานของพระศาสนจักรด้วย ความก้าวร้าวต่อครอบครัวได้เปิดเผยตัวมันเองภายในพระศษสนจักร ดังที่กล่าวในพระสมณสาส์น Amoris Laetitia มีความเป็นไปได้ที่จะปฏิเสธความมั่นคงของการสมรส, โดยการทำให้การแต่งงานของกลุ่มรักร่วมเพศนั้นถูกกฏหมายและการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ
 

Civitavecchia เหมือนกับที่ฟาติมา, มีคำเตือนต่อพระศาสนจักรและการพิพากษาลงโทษในประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งเสนอวิธีรักษาที่เด็ดขาดเพียงอย่างเดียวนั่นคือ ความช่วยเหลือจากสวรรค์ที่จะเยียวยารักษาความชั่วร้ายและการสาปแช่งของประวัติศาสตร์และมนุษย์”
 

เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ว่าเจสสิกา เกรโกรี่(Jessica Gregori) ลูกสาวของครอบครัวที่เห็นแม่พระและเห็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ, ได้รับสาส์นจากพระแม่ของเราในเนื้อหาของความลับขอที่สามแห่งฟาติมาและสาส์นนี้ถูกส่งไปยังพระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ทันที เจสสิกาเองก็ได้พบกันซิสเตอร์ลูซีอาในปี 1996 และได้เปรียบเทียบข้อความในสาส์นที่พวกเขาได้รับเกี่ยวกับความลับข้อที่สาม ปรากฏว่าตรงกัน
 

การประจักษ์ของแม่พระที่ Civitavecchia ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ LifeSite ขอขอบคุณ Daily Compass ที่มีการรายงานอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการประจักษ์ครั้งนี้และได้ทำการสัมภาษณ์กับคุณพ่อฟลาวิโอ อูโบดิ รองประธานคณะกรรมาธิการสังฆมณฑลซึ่งรับรองการประจักษ์ และอนุญาตให้ตั้งพระรูปแม่พระไว้ในโบสถ์เพื่อให้ประชาชนเคารพ คุณพ่ออูโบดิ เพิ่งตีพิมพ์หนังสือภาษาอิตาลีชื่อ Civitavecchia. 25 years with Mary.เพื่อตอบข้อสงสัยต่างๆ
 

ดูเหมือนว่าพระญาณสอดส่องจะใช้อาร์คบิชอปวิกาโน ให้เป็นผู้เผยแพร่สาส์นคำเตือนและความหวังที่พระแม่มารีย์แห่ง Civitavecchia ทรงมอบให้กับโลกนี้แก่ประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ ท่ามกลางความวุ่นวายและการทำลายล้างที่เรากำลังเป็นพยานรู้เห็นในขณะนี้, ขอให้เราระลึกว่าเรามีพระแม่มารีย์ในสวรรค์ที่คอยดูแลเราซึ่งเราสามารถพึ่งได้และผู้ที่สัญญาว่าจะช่วยเหลือเรา
 

หรือตามที่อาร์คบิชอปวิกาโนกล่าวไว้: “หากเวลาของชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่พระอยู่ไม่ไกล, ขณะนี้ก็เป็นเวลาของยุทธสงคราม, และพระนางทรงเป็นผู้นำและเป็นผู้ร่วมการไถ่กู้ของพระคริสต์ พระนางทรงประสงค์ให้เราร่วมต่อสู้, ร่วมทนทุกข์และสวดภาวนาวอนขอชัยชนะของพระนางซึ่งตอนนี้อยู่ที่ประตูแล้ว” อาร์คบิชอปวิกาโนได้อ้างถึงสาส์นของพระแม่มารีย์:“โดยอาศัยพวกลูกและแม่, ให้เราแพร่กระจายแสงสว่างแห่งความเชื่อในยุคสมัยแห่งการละทิ้งความเชื่อครั้งใหญ่นี้ พวกลูกเป็นแสงสว่างของพระเจ้า เพราะลูกได้ถวายตัวลูกแก่แม่อย่างสมบูรณ์แล้ว จงยอมให้แม่เป็นผู้แนะนำลูกเถิด...ถ้าลูกฟังแม่ด้วยความรักที่แท้จริงและตอบสนองการร้องขอของแม่โดยการเดินไปบนเส้นทางที่แม่ชี้ให้แก่ลูกในจิตใจและหัวใจของลูก โดยอาศัยพวกลูก, แม่จะสามารถรู้ถึงการออกแบบอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าสำหรับ ชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลแม่” (สาส์นวันที่ 8 กันยายน 1995)
 

***
 

สาส์นสำคัญที่แม่พระทรงมอบแก่ครอบครัวเกรโกรี่เพื่อชาวโลก
 

เมื่อคนถามเจสสิกาว่า สาส์นจากแม่พระที่สำคัญมากๆคืออะไร เธอตอบว่า หลักๆคือ 1. ฝ่ายศัตรูต้องการทำลายครอบครัว แล้วนั้นสังคมก็จะถูกทำลายและพระศาสนจักรก็จะอ่อนแอลง 2. จะมีการแยกตัวออกจากพระศาสนจักร (การละทิ้งความเชื่อครั้งใหญ่) ประชาชนไม่ยึดถือคำสอนดั้งเดิมของพระคริสตเจ้า เกิดลัทธิใหม่ๆตั้งศาสนาที่ตัวเองพอใจ เห็นผิดเป็นชอบ 3. เสี่ยงที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ต่อจากการละทิ้งความเชื่อ เพราะมนุษย์ขาดความรักและไม่ยำเกรงพระเจ้า
 

“ลูกทั้งหลายของแม่, ในเวลานี้, ความมืดของซาตานกำลังทำให้โลกทั้งโลกมืดมิดและมันก็ครอบคลุมพระศาสนจักรของพระผู้เป็นเจ้าด้วย จงเตรียมตัวที่จะดำเนินชีวิตตามสิ่งที่แม่ได้เปิดเผยต่อลูกสาวน้อยๆแห่งฟาติมาของแม่เถิด”
 

วันที่ 30 มิ.ย. 1995 “แม่กำลังให้สาส์นที่เจ็บปวด ซาตานกำลังมีอำนาจเหนือมวลมนุษย์ มันกำลังทำลายพระศาสนจักรของพระเจ้าโดยผ่านทางพระสงฆ์หลายคน มันรู้ว่าเวลาของมันเหลือน้อยแล้ว เพราะพระบุตรของแม่ พระเยซูคริสตเจ้ากำลังจะเข้าแทรกแซง แม่ขอร้องลูก, ขอให้ช่วยแม่, อย่าปล่อยให้พระบุตรของแม่เข้าแทรกแซงตอนนี้ เพราะแม่อยากช่วยเหลือวิญญาณทั้งหลายเพื่อนำพวกเขาไปมอบให้พระเยซู และไม่ยกพวกเขาให้ซาตาน จงสวดภาวนาเพื่อพระบิดาเจ้าจะทรงให้เวลาแก่แม่อีก เพราะนี่คือช่วงเวลาสุดท้ายแล้ว เสื้อคลุมของแม่เต็มไปด้วยพระหรรษทานต่างๆ ขณะนี้เปิดออกให้แก่ลูกทุกคน เพื่อให้ใกล้ดวงหทัยของแม่ เสื้อคลุมกำลังจะปิด จากนั้นพระบุตรของแม่จะทรงเริ่มกระทำตามพระยุติธรรม แม่เห็นเค้าลางของอันตรายรอบๆพระสันตะปาปา เป็นการโจมตีที่ร้ายกาจของปีศาจ”
 

แม่พระกำลังพยายามช่วยมนุษยชาติให้ได้รับความรอด แม่พระทรงมาเตือนเราล่วงหน้าและทรงขอร้องพวกเราให้ช่วยพระนางด้วย, เพื่อที่เหตุการณ์ที่เลวร้ายนี้จะไม่เกิดขึ้นหรือถ้าเกิดขึ้นก็ให้บรรเทาเบาลง, เราช่วยแม่พระได้ด้วยการทำตามคำแนะนำของพระนาง  ด้วยการสวดภาวนามากๆ, ทำพลีกรรมอดอาหาร, แก้บาปรับศีลมหาสนิท, ให้อภัยแก่ผู้อื่นและทำกิจการดี  ช่วยกันเผยแพร่บอกต่อสาส์นสำคัญของแม่พระนี้ไปให้มากที่สุดด้วย

อ่านประวัติ พระรูปแม่พระร้องไห้ในมือพระสังฆราช
 

*****************************************************