แม่พระทรงขอให้เราปฏิเสธ “ลัทธิสมัยใหม่” (Modernism) แม่พระทรงเตือนเราว่าซาตานกำลังล่อลวงมนุษย์ด้วยแผนการณ์ที่ชั่วร้ายโดยผ่านทางลัทธิสมัยใหม่
ในสาส์นของแม่พระแห่งเมดจูกอเรจ์ แม่พระตรัสในวันที่ 25 พ.ค. 2010 ว่า
“ลูกที่รักทั้งหลาย
พระเจ้าทรงประทานพระหรรษทานแก่ลูกให้มีชีวิตและให้รักษาความดีทั้งปวงที่มีอยู่ในตัวลูกและอยู่รอบๆลูก ให้ลูกเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นเพื่อนำไปสู่ชีวิตที่ดีและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น แต่ซาตาน, มันไม่นอนหลับ, โดยอาศัยลัทธิสมัยใหม่, ได้หันเหลูกและนำลูกไปสู่ทางของมัน เพราะฉะนั้น, ลูกน้อยทั้งหลาย, ในความรักต่อดวงหทัยนิรมลของแม่, ลูกจงรักพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใดทั้งสิ้นและจงปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ ด้วยหนทางนี้, ชีวิตของลูกจะมีความหมายและสันติภาพจะปกครองโลก
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
สาส์นวันที่ 25 มี.ค. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้เช่นกันที่องค์พระผู้สูงสุดทรงอนุญาตให้แม่มาอยู่กับลูกและนำลูกไปสู่หนทางแห่งการกลับใจ หัวใจหลายดวงได้ปิดไม่ยอมรับพระหรรษทานและหูหนวกต่อเสียงเรียกของแม่ ส่วนลูก, ลูกน้อยทั้งหลาย, จงสวดภาวนาและต่อสู้กับการประจญล่อลวง ต่อสู้กับแผ่นการณ์ชั่วร้ายทั้งสิ้นที่ปีศาจมันนำเสนอต่อลูกโดยผ่านทางลัทธิสมัยใหม่ จงเข้มแข็งในการสวดภาวนาและด้วยไม้กางเขนที่อยู่ในมือของลูก, จงสวดภาวนาเพื่อความชั่วร้ายจะได้ไม่ใช้ลูกและมีชัยชนะต่อลูก แม่มาอยู่กับลูกและสวดภาวนาเพื่อลูก
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
สาส์นวันที่ 25 ม.ค. 2017
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่กำลังเรียกลูกให้สวดภาวนาเพื่อสันติภาพ สันติภาพในหัวใจของมนุษย์ สันติภาพในครอบครัวและสันติภาพในโลก ซาตานมันเข็มแข็งและต้องการทำให้พวกลูกหันมาต่อสู้กับพระเจ้า และทำให้พวกลูกตกต่ำลง มันต้องการทำลายสิ่งที่ดีในหัวใจของลูกที่มีต่อพระเจ้าและสิ่งที่เป็นของพระเจ้า ส่วนลูก, ลูกน้อยทั้งหลาย, จงสวดภาวนาและต่อสู้กับลัทธิวัตถุนิยม, ลัทธิสมัยใหม่ และความเห็นแก่ตัว ซึ่งโลกเสนอแก่ลูก ลูกน้อยทั้งหลาย, ลูกได้ตัดสินใจที่จะมาสู่ชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ และแม่พร้อมกับองค์พระบุตรของแม่ได้เข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือลูก
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
---------------------------------
ความเป็นมาของลัทธิสมัยใหม่ Modernism
การเคลื่อนไหวทั่วไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และ 20 ที่พยายามประนีประนอมคริสตศาสนาให้ไปได้กับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และปรัชญาสมัยใหม่ ลัทธิสมัยใหม่ส่วนใหญ่เกิดจากการประยุกต์วิธีการเชิงวิพากษ์สมัยใหม่มาใช้ในการศึกษาพระคัมภีร์และประวัติศาสตร์แห่งความเชื่อ ส่งผลให้มีการเน้นความเชื่อและคำสอนน้อยลง และมีมุมมองของศาสนาแบบมนุษยนิยม นั่นคือมีมุมมองไปที่พระเจ้าที่อยู่ในธรรมชาติมากกว่าพระเจ้าที่อยู่เหนือธรรมชาติ การเคลื่อนไหวโดยรวมได้รับอิทธิพลอย่างมากจากแนวปฏิบัติของวิลเลียม เจมส์, อองรี เบิร์กสันและปรัชญาการกระทำของมอริซ บลอนเดล แนวความคิดสมัยใหม่ได้รับการยอมรับจากนิกายโปรเตสแตนต์ทั้งหมดหรือบางส่วน แต่ก็มีปฏิกิริยาต่อต้านพวกเขาในขบวนการที่เรียกว่า fundamentalism
ในศาสนายิวที่ได้รับการปฏิรูปโดยเฉพาะในหมู่ชาวอเมริกันมีการพัฒนาขบวนการสมัยใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับลัทธิโปรเตสแตนต์สมัยใหม่ ภายในนิกายโรมันคาทอลิกมีการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า Modernism พระสันตปาปาปีโอที่ 10 (Pius X) ทรงประณามมันว่าเป็นการสังเคราะห์ของความเชื่อที่หลงผิดทั้งหมดของเฮเรติก โดยทรงเขียนไว้ในพระสมณสาส์น Pascendi (1907)ของพระองค์ ในบรรดาผู้นำของลัทธิสมัยใหม่คาทอลิกนั้นมี A.F.Louisy ในฝรั่งเศสและ George Tyrrell ในอังกฤษ สิ่งสำคัญสำหรับขบวนการคาทอลิกแนวคิดสมัยใหม่ คือการนำหลักสำคัญจากข้อความในพระคัมภีร์มาใช้ซึ่งในเวลานั้นได้รับการยอมรับจากโปรเตสแตนต์ส่วนใหญ่ และปฏิเสธลัทธิปัญญานิยมของนักเทววิทยาที่มีคำสอนที่สอดคล้องกันในการปฏิบัติ นักสมัยใหม่นิยมหลายคนใช้วิธีการเชิงปฏิบัติกับ ศีลศักดิ์สิทธิ์, คำสอนและการสวดภาวนา พวกเขาถือว่าศีลศักดิ์สิทธิ์ไม่มีความเป็นจริงในฐานะที่เป็นพระหรรษทานที่พระเจ้าทรงประทานให้ แต่มีคุณค่าต่อผลทางจิตใจเท่านั้น แนวโน้มเหล่านี้ทำให้พวกเขาปฏิเสธอำนาจของพระศาสนจักรและธรรมประเพณีคริสตชนที่เกี่ยวกับเรื่องของพระเจ้า
ที่มา - The Columbia Electronic Encyclopedia, 6th ed. Copyright © 2012, Columbia University Press. All rights reserved.
*************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น