ในอดีตมีบางคนประกาศถึงวันสิ้นโลกในช่วงเวลาหนึ่งและสถานที่หนึ่ง แต่เขาก็เสียชีวิตไปโดยที่โลกก็ยังคงหมุนตามปกติ
1. นักบุญเปาโลเองคิดว่า พระคริสตเจ้าจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งในช่วงชีวิตของท่าน
2. นักบุญฮิปโปลิส นักปรัชญาเรืองนาม ทํานายว่า พระคริสตเจ้าจะกลับมาใน ปี 500
3. Bernard of Thuringia นักเทววิทยา ชาวเยอรมัน บอกว่าจะสิ้นโลกในปี 992
4. ก่อนปี 1000 มีข่าวลือเรื่องสิ้นโลก เกิดขึ้นทั่วไปหมด จนผู้คนในยุโรปไม่ยอม ทําสวนไร่นา รอความตาย
5. Johann Stoeffer นักดาราศาสตร์บอกว่า จะเกิดน้ำท่วมโลกจนคนตายหมด ในวันที่ 20 ก.พ. 1524
6. Solomon Eccles ในปี 1665 วิ่งไปตามถนนในลอนดอนพร้อมคบเพลิง ประกาศว่า โลกจะ ลุกเป็นไฟในปีนั้น
7. Nostradamus ทํานายว่า โลกจะถึงจุดจบ เมื่อวันปัสกาที่ตรงกับวันที่ 25 เม.ย. นั่นคือ ในปี 1666,1734,1886,1943 ผ่านมาหมดแล้ว ครั้งต่อไปที่ปัสกาตรงกับ วันที่ 25 เมษายน ก็คือ ปี 2038
8. นักบุญ Vincent Ferrer ชาวสเปนทํานายว่า โลกจะสิ้นสุดในปี 3936 อีก นานเลยครับ
9. William Miler ชาวนา ทํานายว่า โลกจะดับในปี 1843 คนนับพันเชื่อเขา เป็นทุกข์กลับใจกันใหญ่ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
10. Charles Taze Russell ผู้ก่อตั้งลัทธิพยานพระยาโฮวาห์ ทํานายว่า สิ้นโลก ปี 1914 เขาตายปี 1916 ผู้สืบต่อจากเขาขยายเวลาออกไปเป็น ปี 1925 แต่เขาเองก็ตายปี 1942
11. Herbert Armstrong ทํานายว่าวันสิ้นโลกคือ 7 ม.ค. 1972
12. ใกล้ปี 2000 ผู้คนกลัวกันมากว่าเป็นวันสิ้นโลก ปรากฏการณ์ Y2K จะสร้าง ปัญหาจนแก้ไขไม่ได้
13. แม้แต่ Martin Luther เองยังเคยทํานายไว้ว่า โลกจะสิ้นสุดใน ศต.ที่ 16
14. Jim Jones ผู้ก่อตั้งลัทธิแปลกๆ พร้อมทั้งลูกศิษย์หนีตายก่อนโลกแตก ด้วยการฆ่าตัวตายโดยการดื่มยาพิษ พร้อมลูกศิษย์อีก 911 คน เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 1978
15. ในปี 1975, 1988, 2000 มีกลุ่มชนที่รวมตัวกันรอคอยวันสิ้นโลก บางกลุ่มรอถึง 10 เดือนโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
16. ปฏิทินของชนเผ่ามายาในดินแดนอารยธรรมเติมที่อยู่ในประเทศเม็กซิโก ปฏิทินนี้โบราณมากและทํานายไว้ว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันสิ้นโลก ตอนนั้นที่บริเวณที่ตั้งของเผ่ามายา เขาทํานาฬิกานับถอยหลังไปจนถึง วันที่ 21 ธันวาคม 2012
17. เซอร์ไอแซก นิวตัน ได้ “ฟันธง” ว่าวันสิ้นโลกจะมาถึงในปี 2060 นี้ โดยมีเอกสารอายุกว่า 300 ปีที่เขียนด้วยลายมือของเขา(ใกล้เคียงกับวันสิ้นโลกของนอสตราดามุส 2038)
----------------
เราได้รู้จากการประจักษ์มาของแม่พระในหลายแห่ง เช่นที่ ลาซาแล็ต, การาบังดัล, ฟาติมา, เมดจูกอเรจ์ ฯลฯ พระนางทรงเตือนมนุษย์ถึงหายนะภัยที่จะเกิดขึ้นถ้าหากมนุษย์ยังคงทำบาปผิดต่อพระเจ้า แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นยังไม่ใช่การสิ้นสุดของโลก แต่เป็นการสิ้นสุดของยุคสมัย
ยุคของเราเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์ได้หันหลังให้กับพระเจ้า มนุษย์สนใจแต่สิ่งที่เป็นของโลก ไม่สนใจสิ่งที่เป็นของสวรรค์ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ซาตานได้โลกทั้งหมดไว้ในครอบครองของมัน มันทำให้มนุษย์หลงเพลิดเพลินกับสิ่งของของโลก ทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน ทำลายความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเด็กเล็ก ล่อลวงมนุษย์ด้วยความลุ่มหลงต่างๆมากมาย และมันพยายามทำลายพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้าด้วย ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงส่งแม่พระมาเตือนมนุษย์ แม่พระทรงประจักษ์มาบ่อยครั้งในหลายแห่ง,ทรงเตือนให้มนุษย์รู้ถึงหายนะภัยถ้าหากมนุษย์ยังคงไม่หันมาหาพระเจ้า หายนะภัยเหล่านี้จำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อทำให้มนุษย์ตื่นขึ้นมาจากความหลับไหล
หลังจากหายนะภัยต่างๆเหล่านั้นแล้ว, โลกจะเข้าสู่ยุคใหม่จะเป็นยุคแห่งสันติภาพ มนุษย์จะเชื่อฟังพระเจ้า พระศาสนจักรจะรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ดวงหทัยนิรมลของแม่พระจะได้รับชัยชนะเหนืออำนาจของซาตาน ปีศาจจะถูกโยนทิ้งลงไปในขุมนรกและถูกขังไว้ตลอดไป
วันที่ 25 สิงหาคม 1987 ที่เมดจูกอเรจ์ แม่พระประทานสาส์นดังนี้
“ลูกที่รัก ในวันนี้แม่ขอเชื้อเชิญให้พวกลุกสวดภาวนา เวลานี้แผนการณ์ของแม่เริ่มเห็นชัดขึ้นแล้วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซาตานนั้นแข็งแรงและต้องการทำลายแผนการณ์แห่งสันติภาพของแม่ มันพยายามทำให้พวกลูกคิดว่าองค์พระบุตรของแม่มิได้ตั้งพระทัยที่จะทำตามที่พระองค์ทรงคิดไว้ เพราะฉะนั้น, แม่จึงขอให้พวกลูกทุกคนสวดภาวนาและทำพลีกรรมอดอาหารมากขึ้น แม่ขอให้ลูกตระหนักว่าความลับที่แม่ให้ไว้ที่ฟาติมาจะต้องสำเร็จไป แม่ขอให้ลูกตระหนักถึงความสำคัญของการมาของแม่และความร้ายแรงของสถานการณ์ แม่ต้องการให้วิญญาณทุกดวงได้รอดและนำวิญญาณไปถวายแด่พระเจ้า เพราะฉะนั้น ให้เราสวดภาวนาเพื่อที่ทุกสิ่งที่แม่ได้เริ่มต้นไว้จะได้เป็นที่ตระหนักอย่างครบถ้วน ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่”
**************************
ข้อมูลบางส่วนจาก เฟสบุ๊คคุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น