St. Pio of Pietrelcina meeting Prime Minister Moro.
From Chapter 25 of Pray, Hope, and Don’t Worry
มีชายคนหนึ่งในอิตาลี,ชื่อว่า เลารีโน คอสตา( Laurino Costa) ในเวลานั้นเขาตกงานเป็นระยะเวลาพอสมควร เขาจึงไม่มีรายได้จุนเจือตนเองต้องอาศัยพ่อแม่อยู่ มีผู้ให้รูปภาพของคุณพ่อปีโอรูปหนึ่งแก่เขา เขารู้สึกประทับใจรูปภาพนี้มาก เขามองดูรูปนี้บ่อยครั้ง, และยังได้ฝันถึงคุณพ่อปีโอในเวลาหลับด้วย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเขียนจดหมายไปยังคุณพ่อปีโอเพื่อขอให้ท่านสวดภาวนาให้เขาได้งานทำ
เลารีโนได้รับจดหมายตอบกลับมาจากคุณพ่อปีโอ ท่านบอกว่า ”ขอให้เลารีโนมาพบกับท่านที่ซานจีโอวานนี โรตอนโด ในทันที”
เลารีโนไม่มีเงินเพื่อใช้ในการเดินทางไปยังซานจีโอวานนี แต่เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำตามที่คุณพ่อปีโอบอก ดังนั้นในวันต่อมาเขาจึงใช้วิธีเดินบ้างขออาศัยขึ้นรถที่ผ่านมาบ้างเพื่อไปที่สถานีรถไฟ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีเงินที่จะซื้อตั๋วรถไฟเลย เมื่อไปถึงสถานีรถไฟ, เขาไปพบกับเพื่อนคนหนึ่งและเล่าให้เพื่อนฟังถึงความตั้งใจของเขาที่จะไปพบกับคุณพ่อปีโอ แต่เขาไม่มีเงินที่จะซื้อตั๋วรถไฟ และด้วยความประหลาดใจ, เลารีโนได้ยินเสียงของชายอีกคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ชายแปลกหน้าคนนี้อาสาที่จะพาเลารีโนไปด้วย เพราะเขาก็กำลังจะไปที่นั่นเช่นกัน ชายแปลกหน้าผู้นี้คือนายแพทย์ยูเซปเป้ กัสโซ่( Dr. Giuseppe Gusso) เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล Padre Pio’s Home ที่ช่วยรักษาคนเจ็บป่วย และเขาเป็นเพื่อนที่ดีของคุณพ่อปีโอ
ปัญหาอย่างแรกของเลารีโนจึงหมดไป เขาได้ไปพบคุณพ่อปีโอ เขาร่วมพิธีมิสซาเช้าของคุณพ่อปีโอ หลังจากนั้น, คุณพ่อปีโอส่งสัญญาณมือให้เขาเข้ามาหาท่าน ในตอนแรก,เช่นเดียวกับหลายคน, เลารีโนคิดว่า “คุณพ่อปีโอคงไม่ได้กวักมือเรียกฉัน, ท่านไม่รู้จักฉันมาก่อน”
เลารีโนคิดว่าคุณพ่อปีโอคงกวักมือเรียกคนอื่น แต่คุณพ่อปีโอพูดว่า “เลารีโน , มาที่นี่ทันที” แล้วนั้น , เลารีโนรู้สึกประหลาดใจจนตัวสั่นด้วยความประหม่ากลัวและเข้าไปหาคุณพ่อปีโอ คุณพ่อปีโอพูดกับเลารีโน “ไปที่โรงพยาบาลนะและจัดเตรียมอาหารสำหรับคนป่วยของพ่อ”
เลารีโนตอบคุณพ่อปีโอว่า เขาไม่สามารถทำงานนี้ได้หรอก เพราะเขาไม่รู้จักวิธีทำอาหาร เลารีโนไม่เคยทำอาหารสำหรับครอบครัวของเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาจะทำอาหารให้กับคนป่วยจำนวนมากในโรงพยาบาลและสำหรับพนักงานในโรงพยาบาลได้อย่างไร? คุณพ่อปีโอพูดซ้ำอีกครั้งแก่เลารีโน หรือจะเรียกว่าสั่งมากกว่า ดังนั้น, เลารีโน, ถึงแม้จะรู้สึกกลัวในการที่จะไปทำงานตามคำสั่งของคุณพ่อปีโอ, แต่เขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าผมไปที่ห้องครัวของโรงพยาบาลและพยายามที่จะปรุงอาหาร, คุณพ่อจะช่วยผมหรือเปล่า?”
คุณพ่อปีโอให้สัญญา “ได้, พ่อจะอยู่ที่นั่นกับลูกและจะช่วยเหลือลูก”
เรื่องราวดำเนินต่อไปดังนี้ :
เลารีโนเดินออกจากโบสถ์และข้ามจัตุรัสไปยังโรงพยาบาลของคุณพ่อปีโอ เวลานั้นเป็นปี 1958 ทันทีที่เขาเข้าไปในโรงพยาบาล, เขาก็ถูกเชิญให้ไปพบกับแม่ชีคนหนึ่งซึ่งทำงานที่นั่น แม่ชีพูดว่า “คุณต้องเป็นพ่อครัวคนใหม่ของโรงพยาบาลแน่ๆ เรากำลังรอคอยคุณด้วยความกระวนกระวายใจ เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่คุณมาถึงเสียที”
เลารีโนตกใจมาก และยังไม่จบเพียงเท่านี้ เขาไปที่โรงครัวของโรงพยาบาลและได้พบคนงานในห้องครัวหลายคนจ้องมองมาที่เขา, ทุกตนกำลังคอยให้เขาออกคำสั่งสำหรับการทำอาหารในวันนี้! รอบๆตัวเขามีเตาอบขนาดใหญ่, เตาไฟ, ตู้เย็น, อ่างน้ำ, และ.......ฯลฯ
ขณะที่เลารีโนกำลังมองดูอุปกรณ์ต่างๆในห้องครัว, เขาก็รู้สึกสั่นกลัวขึ้นมาทันที แต่ในทันใดนั้น, ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนกลายเป็นสิ่งคุ้นเคยสำหรับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยปรุงอาหารมาก่อนเลย เขาเกิดความรู้สึกมั่นใจว่าสามารถทำสิ่งต่างๆสำหรับปรุงอาหารได้ ต่อมา,เขาก็ได้ออกคำสั่งแก่คนงานในห้องครัวให้ปรุงอาหารตามความต้องการของโรงพยาบาล นั่นคืองานวันแรก, เลารีโนปรุงอาหารสำหรับคน 450 คน......ก่อนที่จะมาที่ซานจีโอวานนี, เขาวางแผนว่าจะอยู่ที่อารามแห่งนี้สักวันสองวัน แต่ตอนนี้, เลารีโนได้งานใหม่แล้วและมีรายได้ที่มั่นคง, เขาได้กลายเป็นหัวหน้าห้องครัวของโรงพยาบาลสำหรับผู้เจ็บป่วย และเป็นงานที่ดีสำหรับเขาที่นี่ และถึงแม้เขาจะคิดว่าครอบครัวของเขาคงไม่อยากจะย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่เลารีโนก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณพ่อปีโอที่ให้นำครอบครัวมาอยู่ที่นี่ด้วย และแน่นอนว่า, พ่อแม่ของเลารีโนก็ยินยอมมาอยู่กับเขา
*************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น