วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563

คุณพ่อปีโอกับเลารีโน


St. Pio of Pietrelcina meeting Prime Minister Moro.
 
From Chapter 25 of Pray, Hope, and Don’t Worry
 
มีชายคนหนึ่งในอิตาลี,ชื่อว่า เลารีโน คอสตา( Laurino Costa) ในเวลานั้นเขาตกงานเป็นระยะเวลาพอสมควร เขาจึงไม่มีรายได้จุนเจือตนเองต้องอาศัยพ่อแม่อยู่ มีผู้ให้รูปภาพของคุณพ่อปีโอรูปหนึ่งแก่เขา เขารู้สึกประทับใจรูปภาพนี้มาก เขามองดูรูปนี้บ่อยครั้ง, และยังได้ฝันถึงคุณพ่อปีโอในเวลาหลับด้วย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเขียนจดหมายไปยังคุณพ่อปีโอเพื่อขอให้ท่านสวดภาวนาให้เขาได้งานทำ
 
เลารีโนได้รับจดหมายตอบกลับมาจากคุณพ่อปีโอ ท่านบอกว่า ”ขอให้เลารีโนมาพบกับท่านที่ซานจีโอวานนี โรตอนโด ในทันที”
 
เลารีโนไม่มีเงินเพื่อใช้ในการเดินทางไปยังซานจีโอวานนี แต่เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำตามที่คุณพ่อปีโอบอก ดังนั้นในวันต่อมาเขาจึงใช้วิธีเดินบ้างขออาศัยขึ้นรถที่ผ่านมาบ้างเพื่อไปที่สถานีรถไฟ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีเงินที่จะซื้อตั๋วรถไฟเลย เมื่อไปถึงสถานีรถไฟ, เขาไปพบกับเพื่อนคนหนึ่งและเล่าให้เพื่อนฟังถึงความตั้งใจของเขาที่จะไปพบกับคุณพ่อปีโอ แต่เขาไม่มีเงินที่จะซื้อตั๋วรถไฟ และด้วยความประหลาดใจ, เลารีโนได้ยินเสียงของชายอีกคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ชายแปลกหน้าคนนี้อาสาที่จะพาเลารีโนไปด้วย เพราะเขาก็กำลังจะไปที่นั่นเช่นกัน ชายแปลกหน้าผู้นี้คือนายแพทย์ยูเซปเป้ กัสโซ่( Dr. Giuseppe Gusso) เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล Padre Pio’s Home ที่ช่วยรักษาคนเจ็บป่วย และเขาเป็นเพื่อนที่ดีของคุณพ่อปีโอ
 
ปัญหาอย่างแรกของเลารีโนจึงหมดไป เขาได้ไปพบคุณพ่อปีโอ เขาร่วมพิธีมิสซาเช้าของคุณพ่อปีโอ หลังจากนั้น, คุณพ่อปีโอส่งสัญญาณมือให้เขาเข้ามาหาท่าน ในตอนแรก,เช่นเดียวกับหลายคน, เลารีโนคิดว่า “คุณพ่อปีโอคงไม่ได้กวักมือเรียกฉัน, ท่านไม่รู้จักฉันมาก่อน”
 
เลารีโนคิดว่าคุณพ่อปีโอคงกวักมือเรียกคนอื่น แต่คุณพ่อปีโอพูดว่า “เลารีโน , มาที่นี่ทันที” แล้วนั้น , เลารีโนรู้สึกประหลาดใจจนตัวสั่นด้วยความประหม่ากลัวและเข้าไปหาคุณพ่อปีโอ คุณพ่อปีโอพูดกับเลารีโน “ไปที่โรงพยาบาลนะและจัดเตรียมอาหารสำหรับคนป่วยของพ่อ”
 
เลารีโนตอบคุณพ่อปีโอว่า เขาไม่สามารถทำงานนี้ได้หรอก เพราะเขาไม่รู้จักวิธีทำอาหาร เลารีโนไม่เคยทำอาหารสำหรับครอบครัวของเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาจะทำอาหารให้กับคนป่วยจำนวนมากในโรงพยาบาลและสำหรับพนักงานในโรงพยาบาลได้อย่างไร? คุณพ่อปีโอพูดซ้ำอีกครั้งแก่เลารีโน หรือจะเรียกว่าสั่งมากกว่า ดังนั้น, เลารีโน, ถึงแม้จะรู้สึกกลัวในการที่จะไปทำงานตามคำสั่งของคุณพ่อปีโอ, แต่เขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าผมไปที่ห้องครัวของโรงพยาบาลและพยายามที่จะปรุงอาหาร, คุณพ่อจะช่วยผมหรือเปล่า?”
 
คุณพ่อปีโอให้สัญญา “ได้, พ่อจะอยู่ที่นั่นกับลูกและจะช่วยเหลือลูก”
 
เรื่องราวดำเนินต่อไปดังนี้ :
 
เลารีโนเดินออกจากโบสถ์และข้ามจัตุรัสไปยังโรงพยาบาลของคุณพ่อปีโอ เวลานั้นเป็นปี 1958 ทันทีที่เขาเข้าไปในโรงพยาบาล, เขาก็ถูกเชิญให้ไปพบกับแม่ชีคนหนึ่งซึ่งทำงานที่นั่น แม่ชีพูดว่า “คุณต้องเป็นพ่อครัวคนใหม่ของโรงพยาบาลแน่ๆ เรากำลังรอคอยคุณด้วยความกระวนกระวายใจ เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่คุณมาถึงเสียที”
 
เลารีโนตกใจมาก และยังไม่จบเพียงเท่านี้ เขาไปที่โรงครัวของโรงพยาบาลและได้พบคนงานในห้องครัวหลายคนจ้องมองมาที่เขา, ทุกตนกำลังคอยให้เขาออกคำสั่งสำหรับการทำอาหารในวันนี้! รอบๆตัวเขามีเตาอบขนาดใหญ่, เตาไฟ, ตู้เย็น, อ่างน้ำ, และ.......ฯลฯ
 
ขณะที่เลารีโนกำลังมองดูอุปกรณ์ต่างๆในห้องครัว, เขาก็รู้สึกสั่นกลัวขึ้นมาทันที แต่ในทันใดนั้น, ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนกลายเป็นสิ่งคุ้นเคยสำหรับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยปรุงอาหารมาก่อนเลย เขาเกิดความรู้สึกมั่นใจว่าสามารถทำสิ่งต่างๆสำหรับปรุงอาหารได้ ต่อมา,เขาก็ได้ออกคำสั่งแก่คนงานในห้องครัวให้ปรุงอาหารตามความต้องการของโรงพยาบาล นั่นคืองานวันแรก, เลารีโนปรุงอาหารสำหรับคน 450 คน......ก่อนที่จะมาที่ซานจีโอวานนี, เขาวางแผนว่าจะอยู่ที่อารามแห่งนี้สักวันสองวัน แต่ตอนนี้, เลารีโนได้งานใหม่แล้วและมีรายได้ที่มั่นคง, เขาได้กลายเป็นหัวหน้าห้องครัวของโรงพยาบาลสำหรับผู้เจ็บป่วย และเป็นงานที่ดีสำหรับเขาที่นี่ และถึงแม้เขาจะคิดว่าครอบครัวของเขาคงไม่อยากจะย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่เลารีโนก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณพ่อปีโอที่ให้นำครอบครัวมาอยู่ที่นี่ด้วย และแน่นอนว่า, พ่อแม่ของเลารีโนก็ยินยอมมาอยู่กับเขา

*************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น