Donald Trump will cause US power to collapse, says man who correctly predicted fall of USSR
Election of Republican 'speeds up decline'
of America, claims Nobel Prize-nominated professor
บทความวันที่ - Wednesday 07 December 2016 www.independent.co.uk
ศาสตราจารย์ชาวนอร์เวย์, โจฮัน กัลตุง(Johan Galtung) กล่าวว่าจุดจบอำนาจของสหรัฐอเมริกาจะมาถึงในปี 2020 (ข่าว AP)
ศาสตราจารย์โจฮัน ได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มศึกษาด้านสันติภาพในแง่วิทยาศาสตร์ เขาเคยได้รับรางวัลโนเบลมาแล้ว เขาคาดการณ์เหตุการณ์หลายเรื่องได้ถูกต้อง อย่างเช่น เหตุการณ์จัดุรัสเทียนอันเหมิน, การผงาดขึ้นมาของจีน และเหตุการณ์การโจมตีวันที่ 11 ก.ย.
และเขาเป็นข่าวอีกครั้งในปี 2000 เมื่อเขาทำนายว่า อำนาจของสหรัฐทั่วโลกจะล่มสลายในปี 2025
แต่เมื่อบุชได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เขาก็ได้ทบทวนแก้ไขการคาดการณ์ว่า อเมริกาจะล่มสลายในปี 2020 และเหตุการณ์ก็น่าจะเป็นไปได้เมื่อนายทรัมป์ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี ในหนังสือเล่มล่าสุดของศาสตราจารย์ที่พิมพ์ในปี 2003 ชื่อ The Fall of the American Empire—and then What เขาทำนายว่าลัทธิเผด็จการจะเพิ่มมากขึ้นก่อนที่อำนาจของประเทศจะถดถอยลง
ประธานาธิบดีทรัมป์ที่ได้รับเลือกได้สาบานว่าจะเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายสามล้านคนทันทีที่เข้าทำงานและสร้างกำแพงตามแนวชายแดนอเมริกากับเม็กซิโก
โจฮันบอกกับคณะทำงานการเลือกตั้งของนายทรัมป์ว่า "นี่จะเป็นการเร่งการถดถอย"
ทรัมป์ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ด้วยการปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกา ทำลายคู่แข่ง(ทางการค้าและทางทหาร)
โจฮันกล่าวอีกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะส่งผลต่อนาโต้และยังแสดงว่าสหรัฐจะไม่ได้เป็นมหาอำนาจอีกต่อไป
“การล่มสลายมีสองด้าน” ดร.กัลตุงบอกกับทาง tech news site “ประเทศอื่นๆจะไม่ยอมเป็นพันธมิตรที่ดีของสหรัฐ และสหรัฐกำลังจะฆ่าตัวตายโดยการ ใช้ยุทธวิธีรบด้วยการบอมบ์จากความสูง, การบังคับโดรนด้วยคอมพิวเตอร์จากที่ทำงาน, กองกำลังพิเศษที่จะไปสังหารในทุกสถานที่
“เหตุการณ์ทั้งสองกำลังเกิดขึ้นในวันนี้ ยกเว้นยุโรปตอนเหนือ ซึ่งให้การสนับสนุนสงครามเหล่านี้ มันอาจเกิดขึ้นไม่เกินปี 2020 ผมยืนยันในกำหนดเวลานั้น”
แต่ทางนาย Xenia Wickett หัวหน้า US and Americas programme at think-tank Chatham House บอกกับ The Independentว่า “มันไม่มีทางเป็นจริง” เขาเชื่อว่าสหรัฐยังคงมีอำนาจในโลกในปี 2020
"สหรัฐฯเป็นมหาอำนาจระดับโลกด้วยเหตุผลหลายประการ มีกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก, มีมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก [... ] ในแง่ของ บริษัท และในแง่ของการเข้าถึงสื่อ และยังคงมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความคิดที่ว่าสิ่งเหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนไปในอีก 4 ปีข้างหน้านั้นไม่สมจริง"
-------------------------
ที่มา - https://theintercept.com/2017/07/22/donald-trump-and-the-coming-fall-of-american-empire/
Alfred McCoy นักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงคาดการณ์ว่าจีนมีเป้าหมายที่จะก้าวข้ามอิทธิพลของสหรัฐฯทั่วโลก ทั้งทางทหารและทางเศรษฐกิจภายในปี 2030
บทความวันที่ July 22 2017, 9:50 p.m. theintercept.com
หนังสือเล่มใหม่ของอัลเฟรด แมคคอย, นักประวัติศาสตร์ผู้โด่งดัง, คาดการณ์ว่าจีนจะก้าวข้ามอิทธิพลของสหรัฐฯไปทั่วโลก ทั้งทางทหารและทางเศรษฐกิจภายในปี 2030 เมื่อถึงจุดนั้น McCoy ยืนยันว่าจักรวรรดิของสหรัฐอเมริกาจะไม่มีอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น. เขามองว่าตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์เป็นหนึ่งในผลพลอยได้ที่ชัดเจนที่สุดจากการพังทลายของอำนาจการครอบงำทั่วโลกของสหรัฐฯ แต่นี่ยังไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง ในขณะเดียวกันเขายังเชื่อว่าทรัมป์อาจเร่งการเสื่อมถอยของจักรวรรดิ
McCoy ให้เหตุผลว่าการบุกอิรักในปี 2003 เป็นจุดเริ่มต้นของการถดถอยของสหรัฐ McCoy ไม่ใช่คนอ่อนหัด เขาเป็นนักวิชาการที่จริงจัง และเขามีความกล้า
ในช่วงสงครามเวียดนาม, McCoy ถูกซุ่มโจมตีโดยกลุ่มทหารที่ได้รับการสนับสนุนจาก CIA ในขณะที่เขาสอบสวนการลอบค้าเฮโรอีน ตอนนี้, CIA พยายามที่จะหยุดการตีพิมพ์หนังสือของเขาที่ชื่อ “The Politics of Heroin” โทรศัพท์ของเขาถูกดักฟัง, เขาถูกตรวจสอบโดยกรมสรรพากร และเขาถูกตรวจสอบและสอดแนมโดยเอฟบีไอ McCoy ยังเขียนหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดเล่มหนึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นหลังเกิด 9/11, และโครงการทรมานของ CIA เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่สำคัญที่สุดของโลกเกี่ยวกับการกระทำที่แอบแฝงของสหรัฐฯ หนังสือเล่มใหม่ของเขาซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ชื่อว่า “In the Shadows of the American Century: The Rise and Decline of U.S. Global Power”
“ศตวรรษที่อเมริกาซึ่งประกาศอย่างมีชัยเมื่อเริ่มสงครามโลกครั้งที่สองอาจถูกทำลายและจางหายไปภายในปี 2025 และอาจสิ้นสุดภายในปี 2030” McCoy เขียนไว้ เมื่อนึกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ, McCoy เสนอการคาดการณ์ที่มืดมน:
สำหรับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ปี 2020 น่าจะถูกจดจำว่าเป็นทศวรรษที่ตกต่ำของราคาสินค้าที่สูงขึ้น, ค่าจ้างที่ลดลง, และความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศที่ลดลงไป หลังจากหลายปีของการขาดดุลการค้า, ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการทำสงครามที่ไม่หยุดหย่อนในดินแดนอันห่างไกลในปี 2030 ในที่สุดดอลลาร์สหรัฐก็สูญเสียสถานะพิเศษในฐานะสกุลเงินสำรองที่โดดเด่นของโลก
ทันใดนั้น, ก็จะมีการปรับขึ้นราคาสินค้านำเข้าจากอเมริกา ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงคอมพิวเตอร์ และค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมในต่างประเทศก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ทำให้การเดินทางของทั้งนักท่องเที่ยวและกองทัพทหารจะถูกสั่งห้าม ประเทศไม่สามารถจ่ายเงินสำหรับการขาดดุลที่บวมเป่งด้วยการขายพันธบัตร ค่าของเงินที่ลดลง, ในที่สุดวอชิงตันจะถูกบังคับให้ลดงบประมาณทางทหารลง ภายใต้แรงกดดันทั้งในและต่างประเทศ กองทัพทหารเริ่มถอนตัวกลับจากฐานทัพในต่างประเทศหลายร้อยแห่ง อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวที่สิ้นหวังเช่นนี้, จะมาช้าเกินไป
เมื่อต้องเผชิญกับอำนาจที่กำลังเลือนหายไป, ไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายได้ จีน, อินเดีย, อิหร่าน, รัสเซียและประเทศที่มีอำนาจอื่นๆ จะท้าทายอำนาจการปกครองของสหรัฐฯในมหาสมุทร, ในอวกาศและในไซเบอร์สเปซ
Alfred McCoy เป็นศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ที่ University of Wisconsin-Madison เขาเป็นผู้เขียนหนังสือคลาสสิกในตอนนี้ชื่อ “The Politics of Heroin: CIA Complicity in the Global Drug Trade.” หนังสือเล่มใหม่ของเขาออกในเดือนกันยายนคือ “In the Shadows of the American Century: The Rise and Decline of U.S. Global Power”
-------------------------
นี่เป็นคาดการณ์ของนักสังคมวิทยา โดยใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์สังคมและการติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองของรัฐบาลสหรัฐ แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีการเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลไปทั่วโลก และสหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก และเสียชีวิตมากที่สุดในโลกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น