ปีนี้เป็นปีที่เรียกว่า“ดวงดาวแห่งคริสต์มาส”
ปีนี้ดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีจะมาอยู่ในแนวเดียวกันหลอมรวมกันเป็นดวงดาวที่ส่องสว่างสวยงาม ภาพที่หาดูได้ยากนี้จะปรากฏบนท้องฟ้ายามค่ำคืนในวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคมซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกมันจัดแนวแบบนี้มาตั้งแต่ยุคกลาง ครั้งสุดท้ายที่ดาวเคราะห์ทั้งสองอยู่ใกล้กันคือวันที่ 4 มีนาคม 1226
ที่น่าสนใจคือ ปีนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่รุนแรงรวมถึงภาวะโลกร้อนตลอดจนความโกลาหลความวุ่นวายทางสังคมและความขัดแย้ง สงครามเกิดขึ้นในหลายส่วนของยุโรปและเจงกีสข่าน(ประเทศจีน)กำลังพิชิตพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชีย
ในขณะเดียวกันวันที่ 21 ธันวาคมยังเป็นวัน Winter Solstice เป็นวันที่สั้นและมืดที่สุดของปี (และเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่บางคนคาดว่าจะเป็นฤดูหนาวที่มืดมิด)
“แต่ในวันที่มืดมนที่สุดของปีนี้, ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์มาบรรจบเป็นแนวเดียวกันทำให้เรามี ดาวคริสต์มาส! ช่างเหมาะเจาะ…เป็นช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่เราได้เห็นสิ่งที่สวยงามนี้…แม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด…แสงสว่างจะเข้ามาและได้ก้าวเข้ามา” ข้อความจากอีเมลหนึ่งที่ส่งมาให้เรา “ในความสับสนวุ่นวายของเรา,พระองค์อยู่ที่นั่น ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเรา,พระองค์อยู่ที่นั่น พระองค์ทรงนำแสงสว่างมาและทรงสร้างทุกสิ่งขึ้นใหม่”
+
“ปี 1226 ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการจัดให้มีการเคารพศีลมหาสนิทในหมู่ฆราวาส (วันที่จัดกิจกรรมของพระศาสนจักรคือ 11 กันยายน 1226)
+
มีโอกาสหรือไม่ที่“ดาวคริสต์มาส” ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สองดวงมาอยู่ในแนวเดียวกันนี้คือดาวแห่งเบธเลเฮม (ด้านล่างนี้เป็นตำแหน่งที่ดาวเคราะห์ทั้งสองอยู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่พวกมันมาอยู่ใกล้กัน)
อาจเป็นดาวแห่งเบธเลเฮมที่แตกต่างกัน แต่ในปีที่พระเยซูเจ้าทรงประสูติ ก็เป็นช่วงเวลาที่เกิดความวุ่นวายโกลาหล, ความไม่สงบทางการเมืองและทางสังคมในอิสราแอลด้วยเช่นกัน
+
ยังมีแสงสว่างบนท้องฟ้าอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ แสงเหนือได้เร่มขึ้นแล้ว มันเกิดขึ้นก่อนการคาดการณ์ของบางคน (เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สามารถมองเห็นแสงเหนือได้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกา) ปี 2020 ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นปีแห่งสัญญาณผิดปกติทั้งในสังคมและธรรมชาติ
+
+
Mary Ellen DeBorซึ่งส่งอีเมล์มาให้เราได้ให้ความเห็นของเธอว่า “ เราเชื่อว่าดาวเบธเลเฮม เป็นการเคลื่อนมาอยู่ในแนวเดียวกันของดาวพฤหัสบดี(ซึ่งเรียกว่าดาวกษัตริย์) และดาวศุกร์(ซึ่งเรียกว่าดาวแห่งความรักVenus) เป็นการประกาศถึงการประสูติของพระเมสสิยาห์(ผู้ทรงเป็นความรักของพระเจ้าที่ส่งมายังโลก) แต่ครั้งนี้เป็นการรวมกันของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์, หากคุณมองดูว่าสัญลักษณ์ของดาวเสาร์คืออะไรคุณจะเห็นว่ามันคือเคียว ดังนั้นการร่วมกันของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์อาจเป็นการประกาศถึงการเก็บเกี่ยวที่จะมาถึง พระคริสต์จะเสด็จมาอีกครั้งเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวโลก แต่สำหรับการพิพากษาในคราวนี้, เป็นสิ่งที่เราควรพิจารณาไตร่ตรอง
นี่จะเป็นเครื่องหมายแห่งกาลเวลาอย่างหนึ่งหรือไม่?
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น