วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563

คนบาปในเวลาใกล้ตาย

 

 

 
โดยนักบุญ อัลฟองโซ ลิกัวรี
 
คนบาปที่กำลังจะตายที่น่าสงสาร, เขาจะถูกโจมตี ไม่ใช่เพียงเรื่องเดียว, แต่โดยหลายสาเหตุที่ทุกข์ทรมานและปวดร้าว ในด้านหนึ่ง, ปีศาจจะทรมานเขา....ในเวลาใกล้ตาย, ศัตรูที่น่าสยดสยองเหล่านี้ใช้พลังอำนาจทั้งหมดของมันเพื่อทำให้วิญญาณไปสู่ความหายนะ นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่วิญญาณกำลังจะจากโลกนี้ไป พวกมันรู้ว่าพวกมันมีเวลาเพียงเล็กน้อยที่จะจับวิญญาณดวงนี้ และถ้าพวกมันสูญเสียวิญญาณดวงนี้ในช่วงเวลาแห่งความตาย, พวกมันก็จะสูญเสียวิญญาณนี้ไปตลอดกาล คนที่กำลังจะตายจะถูกล่อลวง, ไม่ใช่จากปีศาจตนเดียว แต่จากปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนที่จะทำสุดความสามารถของมันเพื่อความพินาศของวิญญาณคนบาป บางคนอาจพูดปลอบใจเขาว่า: “อย่ากลัวเลย คุณจะหายดีในไม่ช้า” แต่เขาจะได้ยินอีกคำพูดหนึ่ง:“แกหูหนวกตาบอดต่อการดลใจของพระเจ้ามานานหลายปี และตอนนี้แกยังหวังว่าพระองค์จะทรงเมตตาต่อแกอีกหรือ?”
 
ปีศาจอีกตนหนึ่งจะบอกว่า:“แกจะชดใช้สิ่งที่แกทำต่อทรัพย์สินของเพื่อนบ้านและความเดือดร้อนของเขาได้อย่างไร?” มันจะพูดอีกว่า:“แกไม่เห็นหรือว่าการสารภาพบาปของแกนั้นเป็นโมฆะ เพราะไม่มีการเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างสมบูรณ์ หรือไม่มีความตั้งใจจริงที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ดีขึ้น? ตอนนี้แกจะทำกิจชดเชยใช้โทษบาปได้อย่างไร?”
 
อีกด้านหนึ่ง, คนที่กำลังจะตายจะเห็นว่าตัวเองถูกล้อมรอบด้วยบาปต่างๆของเขา บาปเหล่านี้,นักบุญเบอร์นาร์ดกล่าวว่า เป็นเหมือนบริวารติดตามจำนวนมากที่จะเอาโซ่มัดเขาไว้ และจะพูดกับเขาว่า: "พวกเราเป็นผลงานของแก; เราจะไม่จากแกไป เราเป็นลูกหลานของแก เราจะไม่ทิ้งแก เราจะติดตามแกไปยังอีกโลกหนึ่งและจะอยู่กับแกเบื้องพระพักตร์องค์พระตุลาการนิรันดร”
 
คนที่กำลังจะตายปรารถนาที่จะสลัดศัตรูเช่นนี้ออกไป แต่เพื่อกำจัดพวกมัน, เขาต้องเกลียดชังพวกมันก่อน, เขาต้องกลับมาหาพระเจ้าด้วยจริงใจ “ผู้มีใจดื้อดึงจะได้รับผลร้ายในบั้นปลาย ผู้ที่ชอบเสี่ยงอันตรายก็ย่อมพินาศในอันตรายนั้น” - (บุตรสิรา 3:26) นักบุญเบอร์นาร์ดกล่าวว่าคนที่ดื้อรั้นในบาปตลอดชีวิตจะพยายามเพื่อให้พ้นจากสถานะของการถูกสาปแช่ง, แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และโดยการถูกครอบงำด้วยความชั่วร้ายของเขาเอง, เขาจะจบชีวิตลงในสภาพที่ไม่มีความสุข
 
ในเมื่อเขารักบาปจนถึงเวลาแห่งความตาย, เขาก็รักอันตรายจากการถูกสาปแช่งด้วย ดังนั้นพระเจ้าจะทรงอนุญาตให้เขาพินาศในอันตรายที่เขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยความสมัครใจของเขาเองจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตนี้ นักบุญออกัสตินกล่าวว่า, “ผู้ที่ไม่ละทิ้งบาปในเวลาใกล้ตายก็จะถูกละทิ้ง” เพราะแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรังเกียจบาปดังที่ควรกระทำ เพราะสิ่งที่เขาจะทำนั้น(คือการละทิ้งบาป) ถูกกระทำด้วยความจำเป็น
 
น่าอนาถนักที่คนบาปยังมีหัวใจแข็งกระด้างและต่อต้านการเรียกของพระเจ้า: หัวใจของเขาแข็งเหมือนหินและมั่นคงเหมือนทั่งของช่างตีเหล็ก แทนที่จะยอมจำนนต่อพระหรรษทานและการดลใจของพระเจ้า, และทำให้ใจอ่อนลงโดยพระหรรษทานเหล่านั้น คนบาปจะกระวนกระวายทำตัวไม่ถูกมากขึ้น เหมือนทั่งที่แข็งกระด้างมากขึ้นเมื่อถูกค้อนทุบซ้ำๆ เป็นการลงโทษที่เขาต่อต้านการเรียกของพระเจ้า เขาจะพบว่าหัวใจของเขาอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชในช่วงเวลาแห่งความตาย ในช่วงเวลาแห่งการผ่านเข้าสู่นิรันดร “ผู้มีใจดื้อดึงจะได้รับผลร้ายในบั้นปลาย” “เจ้าคนบาป” พระเจ้าตรัสว่า “เพราะความรักต่อสิ่งของและคนของโลก, เจ้าจึงหันหลังให้เรา”
 
พวกเขาจะวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในเวลาใกล้ตาย แต่พระองค์จะตรัสกับพวกเขาว่า “ทำไมเจ้าถึงวิงวอนต่อเราในตอนนี้? เรียกคนของโลกมาช่วยเจ้าสิ เพราะพวกเขาเป็นพระเจ้าของเจ้า” พระเจ้าจะตรัสกับพวกเขาในลักษณะนี้ เพราะในการแสวงหาพระองค์, พวกเขาไม่ปรารถนาที่จะกลับใจอย่างจริงใจ นักบุญเจอโรมกล่าวว่า ท่านได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่าคนที่พบจุดจบในชีวิตที่เลวทราม, จะไม่ตายดี
 

 
********************* 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น