วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564

ทารกผู้วิมล

 


 
เด็กทุกคนที่เสียชีวิตได้ไปสวรรค์หรือไม่?
 
เมื่อมีข่าวเด็กคนหนึ่งเสียชีวิต,ผู้เป็นพ่อและแม่(และแม้แต่ตัวเราเอง)มักตั้งคำถามกับตัวเองว่า เด็กคนนั้นจะได้ไปสวรรค์หรือไม่? พระคัมภีร์ไม่ได้ให้คำตอบในเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ก็พอจะพบจุดที่แนะนำอะไรบางอย่างในเรื่องนี้ได้บ้าง
 
ไม่มีใครเกิดมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
 
กษัตริย์ดาวิดกล่าวไว้ในเพลงสดุดี 51:5 ว่า “ใช่แล้ว,ข้าพเจ้ามีความผิดตั้งแต่เกิด เป็นคนบาปตั้งแต่มารดาตั้งครรภ์”
 
อย่างไรก็ตามเด็กๆและผู้พิการทางสมอง(ที่เสียชีวิต)ย่อมไม่รู้ถึงบาปกำเนิดของตนและเมื่อวิญญาณของพวกเขาไปพบกับพระเยซูเจ้า พวกเขาเลือกที่จะหันมาหาพระเยซูอย่างแน่อนน พระเจ้าจะไม่ทรงกรุณาและเมตตาอนุญาตให้พวกเขาเข้าสู่สวรรค์หรือ? เราเชื่อว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะตอบว่าใช่สำหรับคำถามนี้
 
สถานการณ์ของดาวิด
 
ดาวิดได้ทำบาปล่วงประเวณีกับบัทเชบา ดาวิดส่งสามีของนางไปในสนามรบและทำให้เขาตายในสนามรบนั่นเอง หลังจากนั้นดาวิดก็รับบัทเชบามาเป็นภรรยาของตน นางบัทเชบาตั้งครรภ์และคลอดทารก เมื่อทารกป่วยดาวิดร้องทูลพระเจ้าด้วยความหวังว่าพระองค์จะได้ยินและปล่อยให้เด็กมีชีวิต แต่เมื่อทารกเสียชีวิต,ดาวิดก็ลุกขึ้นและกินอาหาร ทำให้คนรับใช้ของเขาตกตะลึง พวกเขาไม่เข้าใจว่าดาวิดทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรเมื่อเด็กเสียชีวิต และนี่คือคำตอบของดาวิด:“เมื่อเด็กยังมีชีวิตอยู่,เราอดอาหารและร่ำไห้,เพราะคิดว่า ‘ใครจะรู้,พระยาห์เวห์อาจจะทรงเมตตาข้าพเจ้า, ให้เด็กมีชีวิตต่อไป’ บัดนี้เขาตายแล้ว เราจะอดอาหารไปทำไม? เราจะทำให้เขากลับคืนชีวิตมาได้หรือ? สักวันหนึ่งเราจะต้องตามเขาไป แต่เขาจะไม่มีวันกลับมาหาเราอีก” (2 ซามูเอล 12: 22,23) ดาวิดเชื่อว่าเด็กคนนั้นอยู่บนสวรรค์และวันหนึ่งพระองค์จะไปอยู่ในสวรรค์ร่วมกับเขาที่นั่น
 
น้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีต่อเด็ก
 
พระคัมภีร์ยังช่วยให้เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ในน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเด็กๆ เราจะเห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงแสดงท่าทีอย่างไรต่อบรรดาเด็กๆ ในมัทธิว 18: 1-9 ความรักของพระเยซูที่มีต่อบรรดาเด็กๆนั้นชัดเจนมาก พระองค์ทรงสอนให้เรากลับเป็นเหมือนเด็กๆเล็กๆด้วยซ้ำหากเราต้องการเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ (มัทธิว 18: 3) ต่อมาในบทที่ 19: 13-15 พระเยซูแสดงให้เห็นถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อเด็กๆอีกครั้ง เมื่อพระองค์ทรงอนุญาตให้นำเด็กๆเข้ามาหาพระองค์ และพระองค์ทรงอวยพรเด็กๆเหล่านั้น อัครสาวกได้รับคำตำหนิอย่างรุนแรงจากพระองค์เมื่อพวกเขาพยายามป้องกันไม่ให้เด็กๆเข้าไปพบกับพระเยซูเจ้า พระองค์ตรัสกับอัครสาวกว่า:“ปล่อยให้เด็กเล็กๆมาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้” (มัทธิว 19:14) .
 
พระเจ้าเท่านั้นที่จะทรงใช้พระเมตตาและพระฤทธานุภาพแห่งการไถ่บาปของพระคริสต์กับบุคคลที่พระองค์ทรงปรารถนา พระเยซูคริสตเจ้าทรงเที่ยงธรรม “พระองค์ทรงเป็นเครื่องบูชาชดเชยบาปของเรา และไม่เพียงแต่ชดเชยเฉพาะบาปของเราเท่านั้น แต่ชดเชยบาปของมนุษย์ทั้งโลกด้วย” (1 ยอห์น 2: 2) พระเจ้าทรงเป็นผู้ปกครอง (กิจการ 4:24) พระองค์ทรงพระทัยดี (สดุดี 103: 8) และพระองค์ทรงรักเรา (ยอห์น 3:16) เราสามารถวางใจในพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์ว่าพระองค์ทรงพิพากษาด้วยความยุติธรรมและเต็มไปด้วยความเมตตาและความรัก นั่นคือพระลักษณะของพระองค์ ถึงแม้ว่าพระคัมภีร์จะไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าเด็กๆที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยจะได้ไปสวรรค์หรือไม่? ทั้งที่พวกเขายังไม่ถึงวัยที่ต้องรับผิดชอบ แต่เราก็มั่นใจได้ถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเด็กๆและต่อมนุษยชาติ
 
สรุป
 
หลายคนสงสัยว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กน้อยที่เสียชีวิตไป ถึงแม้ว่าพระคัมภีร์จะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่เราสามารถรับรู้ได้ว่า พระเยซูเจ้าจะทรงต้อนรับเด็กๆเข้าสู่อาณาจักรของพระองค์ เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรักและความเมตตา ดังนั้นแม้ว่าพระองค์จะเป็นผู้พิพากษาอย่างเข้มงวดว่าใครจะมีชีวิตนิรันดร์,แต่เราก็วางใจได้อย่างเต็มที่ว่าการพิพากษาของพระองค์จะเป็นไปด้วยความรักและความชอบธรรม เพราะแม้แต่คนบาปที่กลับใจ,ดังเช่นโจรกลับใจที่ถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระเยซูเจ้า พระองค์ยังทรงให้อภัยบาปของเขาและยังตรัสกับเขาว่า “ในวันนี้,ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์” ( ลูกา 23:43)
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น