วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า

 


 
ในวันนี้ คริสตชนฉลองพระมหาทรมาน (อาทิตย์ใบลาน) พระคริสตเจ้า “ได้เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มนครศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรับทนทรมาน สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ”
 
การเข้าอย่างผู้ชนะที่เราทำการฉลองในตอนต้นของอาทิตย์พระมหาทรมานเน้นว่า องค์ประกอบสามประการ คือพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนม์ชีพรวมเป็นความจริงเดียว การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้าไม่ใช่เป็นความพ่ายแพ้แต่เป็นชัยชนะ
 
นักบุญอันดรูว์ แห่งครีต ได้กล่าวถึงวันอาทิตย์ใบลานไว้อย่างน่าจับใจว่า:
 
“เราจงออกไปต้อนรับพระคริสตเจ้าพร้อมกัน บนภูเขามะกอก วันนี้พระองค์เสด็จจากเบทานี ด้วยพระทัยอิสระของพระองค์ ดำเนินไปรับพระทรมานศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ธรรมล้ำลึกแห่งความรอดของเราสำเร็จบริบูรณ์ พระองค์ได้เสด็จลงมาจากสวรรค์ เพื่อฉุดเราออกจากขุมบาป และยกขึ้นมากับพระองค์ ตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า “เหนือความยิ่งใหญ่ อำนาจและฤทธิ์เดชทั้งหลาย และเหนือนามทั้งหลายที่อาจตั้งขึ้น” พระองค์เสด็จมาด้วยพระทัยอิสระของพระองค์ สู่นครเยรูซาเล็ม พระองค์เสด็จมาโดยปราศจากความหรูหราและการแสดงตัวให้เด่น ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีกล่าวว่า “พระองค์จะไม่ทรงโต้เถียง ไม่ส่งเสียให้ได้ยินตามทาง” พระองค์ทรงอ่อนโยน และสุภาพและเสด็จเข้ามาอย่างเรียบง่าย 
 
พวกเราจงรีบไปต้อนรับพระองค์เหมือนพระองค์ทรงรีบมารับการทรมาน จงเอาอย่างประชาชนที่ได้มาต้อนรับพระองค์เมื่อครั้งกระโน้น แต่ไม่ใช่โดยการเอาเสื้อผ้ากิ่งมะกอกหรือใบลานปูตามทางที่พระองค์เสด็จ แต่โดยพยายามดำเนินชีวิตอย่างที่พระองค์ทรงปรารถนา โดยวิธีนี้แหละเราจะสามารถต้อนรับพระวจนาตถ์เมื่อพระองค์เสด็จมา พระเจ้าที่ไม่มีขอบเขตใดสามารถบรรจุพระองค์ พระองค์จะสถิตอยู่ในตัวเรา
 
ด้วยความสุภาพถ่อมตัว พระคริสตเจ้าได้เสด็จมายังถิ่นทีมืดมนของโลกที่ตกต่ำ พระองค์ทรงมีความยินดีที่ได้กลับเป็นผู้สุภาพถ่อมตน เพราะเห็นแก่เรา ทรงมีความยินดีที่ได้เสด็จมาเจริญชีวิตอยู่ท่างกลางเรา มีส่วนร่วมในธรรมชาติของเรา เพื่อจะยกเราขึ้นไปหาพระองค์ แม้ว่าพระองค์ได้เสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว แน่นอน,นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่า พระองค์ทรงมีอำนาจและเป็นพระเจ้า แต่ความรักของพระองค์ต่อมนุษย์ไม่หยุดยั้งจนกว่าจะได้ยกธรรมชาติของเราที่ผูกพันอยู่กับโลกให้สูงขึ้นและมีเกียรติขึ้นเป็นลำดับ จนกว่าจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ในสรวงสวรรค์
 
เราจะปูแทบพระบาทของพระองค์ ไม่ใช่เสื้อผ้าหรือกิ่งมะกอกที่ไม่มีชีวิตที่น่าดูอยู่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็เหี่ยวแห้ง แต่เอาตัวของเราเองที่สวมใส่พระหรรษทาน หรือที่ถูกต้องคือ สวมใส่พระองค์ทั้งครบ เราที่ได้รับศีลล้างบาปในพระคริสตเจ้าแล้ว ต้องใช้ตัวเองเป็นเสื้อผ้าปูแทบพระบาทของพระองค์ บัดนี้ความสกปรกของบาปได้รับการชำระล้างแล้วด้วยน้ำซึ่งนำความรอดแห่งศีลล้างบาป และเราได้กลับขาวสะอาดเหมือนขนแกะ ฉะนั้น,เราจะนำอะไรมาถวายแด่พระองค์ผู้ทรงพิชิตความตายเล่า,ใบลานเท่านั้นหรือ? จงถวายสิ่งที่เหมาะสมอย่างแท้จริงแด่ชัยชนะของพระองค์เถิด คือนำวิญญาณของเราไปต้อนรับแทนกิ่งไม้ ให้เราร่วมร้องเพลงกับเด็กที่ออกมาต้อนรับว่า “สาธุการแด่ผู้เสด็จมาในพระนามของพระเจ้า สาธุการแด่กษัตริย์ของอิสราเอล”
 
(บทเทศน์ของนักบุญอันดรูว์ แห่งครีต)
 

************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น