กิจศรัทธาที่ถูกลืม

 

 

ในช่วงเทศกาลมหาพรตของปีนี้ มีกิจศรัทธาอย่างหนึ่งที่เราน่าจะปฏิบัติตาม เป็นกิจศรัทธาที่แม่พระแห่งฟาติมาทรงร้องขอ แต่มีผู้ปฏิบัติตามน้อยมากและถูกลืมไปแล้ว
 

นั่นคือการทำเสาร์ต้นเดือนห้าครั้งติดต่อกัน แม่พระตรัสกับเด็กสามคนว่า
 

“ในเวลากลางคืนของวันใด,เมื่อลูกเห็นค่ำคืนที่สว่างไสวด้วยแสงไฟที่ไม่รู้จัก จงรู้ไว้เถิดว่านี่คือสัญญาณอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่ลูกว่า พระองค์กำลังจะลงโทษโลกสำหรับอาชญากรรมของโลกโดยอาศัยสงคราม,การกันดารอาหาร,การเบียดเบียนพระศาสนจักรและ พระสันตปาปา. เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้แม่จึงมาขอให้มีการทำพิธีถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่ และให้ทำการชดเชยใช้โทษบาปด้วยการร่วมพิธีมิสซา,แก้บาปรับศีลทุกวันเสาร์ต้นเดือน ถ้าทำตามที่แม่ร้องขอ,รัสเซียจะกลับใจและจะมีสันติภาพ ถ้าไม่ทำตาม,รัสเซียจะเผยแพร่ความผิดพลาดไปทั่วโลกก่อให้เกิดสงครามและการเบียดเบียนพระศาสนจักร”

แม่พระตรัสเรื่องนี้ในปี 1917 และ”สัญญาณ”ได้เกิดขึ้นในปี 1938 ซึ่งดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว (เพราะไม่มีการปฏิบัติตามคำขอร้องของแม่พระ) สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้น,ลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าได้แพร่กระจายไปทั่วโลกเหมือนเชื้อไวรัส มีการเบียดเบียนพระศาสนจักรอย่างน่าอนาถ
 

ช่วงเวลาวิกฤตอยู่ระหว่างปี 1917 ถึง 1938 คำขอร้องของแม่พระได้รับการอธิบายอย่างเป็นทางการจากสันตสำนักในปี 1929 หลังจากที่พระแม่มารีย์ทรงประจักษ์ต่อซิสเตอร์ลูซีอาอีกครั้ง ไม่แน่ชัดว่าเหตุใดพระสันตปาปาปีโอที่11 จึงไม่พยายามประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ การประจักษ์ที่ฟาติมาได้รับการรับรองจากสันตสำนักอย่างเป็นทางการในปี 1930 พระสันตปาปาปิโอที่ 12 ซึ่งขึ้นครองอาสน์หลังปี 1938 ได้ทำการถวายประเทศรัสเซียโดยมีการเอ่ยคำว่า “ประชาชนรัสเซีย” โดยเฉพาะเจาะจง – แต่ยังขาดข้อกำหนดตามเงื่อนไขอื่นๆ(คือพระสังฆราชทั่วโลกต้องร่วมประกอบพิธีพร้อมกับพระสันตะปาปาด้วย) พระสันตะปาปาอีกสององค์ได้ประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียอีกและดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามคำขอร้องของแม่พระ
 

แล้วการทำวันเสาร์ต้นเดือนล่ะ?
 

ใช่,มีการปฏิบัติตามเช่นกัน มีผู้ที่ปฏิบัติตามทุกเดือนพร้อมกับการทำวันศุกร์ต้นเดือนด้วย
 

แต่มันได้แพร่หลายไปทั่วโลกตามที่แม่พระทรงมีพระประสงค์หรือไม่?
 

ตามที่คุณพ่อโดนัลด์ คัลโลเวย์(Father Donald Calloway ซึ่งเป็นผู้นำในการถวายตัวแด่แม่พระและนักบุญโยเซฟ ได้ชี้ให้เห็นว่า:
 

“พระแม่มารีย์ทรงอธิบายถึง การทำวันเสาร์ต้นเดือนติดต่อกันห้าครั้งแก่ซิสเตอร์ลูซีอา โดสซานโตสเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1925 ดังนี้:
 

ดูเถิด,ลูกสาวของแม่, หัวใจของแม่ถูกล้อมรอบด้วยหนามซึ่งมนุษย์ใจเนรคุณทิ่มแทงตลอดเวลา ด้วยการดูหมิ่นและความอกตัญญูของพวกเขา ดังนั้นลูกรัก,อย่างน้อย,ขอให้ลูกพยายามที่จะปลอบใจแม่ จงบอกพวกเขาว่า แม่สัญญาว่าจะช่วยเหลือในช่วงเวลาแห่งความตายของพวกเขา ด้วยพระหรรษทานที่จำเป็นสำหรับการช่วยให้รอดแก่ทุกคนที่จะชดเชยต่อแม่ ด้วยการทำวันเสาร์ต้นเดือนเป็นระยะเวลาห้าเดือนต่อเนื่องกัน พร้อมด้วยการไปสารภาพบาป,รับศีลมหาสนิทสวดสายประคำหนึ่งสาย, และอยู่กับแม่เป็นเวลาสิบห้านาทีด้วยการรำพึงถึงพระธรรมล้ำลึกในแต่ละทศ ของสายประคำ  
 

“ทำไมการทำเสาร์ต้นเดือนห้าครั้งต่อเนื่องกันจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ? พระเยซูทรงอธิบายเรื่องนี้กับซิสเตอร์ลูซีอาเมื่อวันที่ 29-30 พฤษภาคม ค.ศ. 1930 โดยตรัสว่า:
 

ลูกรัก,เหตุผลของเรื่องนี้นั้นง่ายมาก นั่นคือ มีการกระทำผิดและการพูดดูหมิ่นต่อดวงหทัยนิรมลของพระมารดามารีย์อยู่ห้าประเภ

+

ประการแรก: คือการพูดดูหมิ่นต่อการปฏิสนธินิรมลของพระนาง

+

ประการที่สอง: การพูดดูหมิ่นต่อความเป็นพรหมจารีย์ของพระนาง

+

ประการที่สาม: การดูหมิ่นความเป็นพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์,และในเวลาเดียวกันก็ปฏิเสธที่จะยอมรับพระนางเป็นมารดาของมนุษยชาต

+

ประการที่สี่: การที่มีผู้ที่พยายามปลูกฝังในใจของเด็กๆ,ด้วยการยุยงพวกเขาให้เฉยเมย,ดูหมิ่นและแม้แต่สร้างความเกลียดชังต่อพระมารดาผู้ทรงปฏิสนธินิรมลนี้

+

ประการที่ห้า : การที่มีผู้ที่กระทำการดูหมิ่นพระนางโดยตรงต่อพระรูปศักดิ์สิทธิ์ของพระนาง

+

เพราะเหตุนี้,ลูกที่รัก,นี่คือสาเหตุที่ชักนำให้ดวงพระหฤทัยของพระมารดามารีย์วิงวอนต่อเราขอให้มีการชดเชยใช้โทษบาปด้วยกิจการเล็กๆน้อยๆนี้ โดยมิได้คำนึงถึงพระนางเองเลย, ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องพระเมตตาของเราให้อภัยต่อวิญญาณที่น่าเวทนาเหล่านั้นซึ่งบังอาจทำให้พระนางทรงขุ่นเคืองพระทัย และสำหรับลูกเอง,ขอให้ลูกสวดภาวนาและทำพลีกรรมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด,เพื่อวอนขอพระเมตตาของเราต่อบรรดาวิญญาณที่น่าเวทนาเหล่านี้” 

+

คุณพ่อคัลโลเวย์กล่าวต่อไปว่า :“เวลานี้หลายคนลืมไปแล้วเกี่ยวกับการทำวันเสาร์ต้นเดือนห้าครั้งติดต่อกัน แต่สิ่งนี้ยังคงสามารถทำได้ในทุกวันนี้... เพราะอะไรหรือ? – เพราะสงครามยังคงมีอยู่และดำเนินต่อไป! เรายังไม่เห็นผลลัพท์สุดท้ายตามคำสัญญาของพระแม่มารีย์ที่ว่า "ในที่สุดดวงหท้ยนิรมลของแม่จะได้รับชัยชนะ, พระสันตะปาปาจะถวายประเทศรัสเซียแด่แม่ ,และรัสเซียจะกลับใจ,โลกจะได้รับช่วงเวลาแห่งสันติภาพ '

+

“ตามที่ซิสเตอร์ลูซีอาได้พูดไว้, พระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ได้ถวายประเทศรัสเซียแด่ดวง หทัยนิรมลของแม่พระเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 1984 ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายลงในเวลาต่อมาไม่นาน แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีสันติภาพในโลก..ทำไมหรือ? จงถามตัวเองว่าพวกเราส่วนใหญ่ซื่อสัตย์ต่อคำขอร้องของแม่พระหรือไม่?โดยเฉพาะอย่างยิ่ง,ในเรื่องการทำวันเสาร์ต้นเดือนเพื่อชดเชยใช้โทษบาป” 
 

************************