วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ผู้เห็นแม่พระในบราซิลเสียชีวิตแล้ว

 

SpiritDaily : มีข่าวที่น่าเศร้าอย่างที่สุดซึ่งเราขอแจ้งให้ทราบถึงการจากไปของผู้เห็นแม่พระแห่งบราซิลท่านหนึ่งคือ เอ็ดสัน กลาวเบอร์(EDSON GLAUBER) หลังจากที่เจ็บป่วยได้ไม่นาน,เขาก็ได้เเสียชีวิต
 
เราเคยเสนอเรื่องราวของการประจักษ์ของ พระเยซูเจ้า,แม่พระและนักบุญโยเซฟ แก่เอ็ดสันแล้ว คุณสามารถดูได้ที่นี่ (>http://freewill14.blogspot.com/2017/11/blog-post_12.html)
 
โดยอาศัยพระเมตตาของพระเจ้า,การเสนอวิงวอนของพระแม่มารีย์,ขอให้วิญญาณของเขาได้รับการพักผ่อนตลอดนิรันดรด้วยเทอญ
 
—————
 
ที่เมืองอิตาปิแรงกา(Itapiranga) ประเทศบราซิล,ซึ่งเป็นที่ที่พระสังฆราช - อาร์คบิชอปได้ประกาศเหตุการณ์ที่ "เหนือธรรมชาติ" (เฉพาะการประจักษ์ปี 1994 ถึงปี 1998 ที่พระสังฆราชมีความเห็นในทางที่ดี อย่างไรก็ตามทางวาติกันไม่ได้รับรองการประจักษ์นี้ จึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละคน)?
 
เขาได้เห็นแม่พระที่บริเวณชายป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นคืออเมซอนจริงหรือไม่? มีเรื่องใดที่ส่งผลกระทบต่อโลกหรือไม่? (เขาเคยบอกถึงการเกิดสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2004 ที่อาเชี่ยนด้วย)
 
ในตอนเริ่มต้น,พระแม่มารีย์ทรงบอกกับหนึ่งในผู้เห็นแม่พระว่าพระนางจะเริ่มประจักษ์ต่อเขาในวันอาทิตย์ที่บ้านของเขาหลังจากที่เขาสวดสายประคำ ในการประจักษ์,แม่พระทรงวอนขอให้ทุกคนสวดภาวนาเพื่อขอการบรรเทาโทษจากการลงทัณฑ์ที่กำลังจะมาถึงแทนที่จะรอด้วยความหวังให้มีการกลับใจของผู้ที่ตกอยู่ในความมืดมิด
 
สาส์นล่าสุดที่ส่งมาถึงเราในวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค.2013 มีความว่า
 
“สันติภาพ,ลูกที่รักทั้หลายของแม่! วันนี้,แม่มาจากสวรรค์เพื่อมอบสันติภาพให้แก่ลูก จงสวดภาวนาเถิดลูกทั้งหลาย,สวดภาวนาด้วยความเชื่อและด้วยความวางใจ,แล้วพระหรรษทานของพระเจ้าจะดำรงอยู่กับลูกเสมอ ลูกควรต้อนรับสาส์นของแม่ด้วยความรัก พระเจ้าทรงประทานพระหรรษทานอันยิ่งใหญ่โดยทรงให้แม่มาประจักษ์ที่อเมซอน การประจักษ์ของแม่คือพระหรรษทานที่มาจากสวรรค์,มาจากดวงพระหฤทัยขององค์พระบุตรของแม่,พระเยซูเจ้า,เพื่อความรอดของลูก ทุกสิ่งที่แม่กำลังทำที่นี่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของโลกและเพื่อความรอดของจิตวิญญาณของลูก จงสวดภาวนาเถิด,สวดสายประคำมากๆ,แล้วลูกจะเอาชนะปีศาจ,หลุมพรางของมันและความชั่วร้ายทั้งหมดของมันได้ พระเจ้าทรงให้เวลาสำหรับการกลับใจ,จงอย่าดูหมิ่นช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานนี้ เพราะลูกจะไม่มีโอกาสอีก เพราะสิ่งที่พระเจ้ากำลังทำในโลกนี้เป็นสิ่งที่พิเศษอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จงเปิดใจของลูกและกลับมาหาพระเจ้าเถิด แม่ขออวยพรลูกทุกคนในพระนามของพระบิดาพระบุตรและพระจิต อาแมน!”
 
ในวันที่ 17 ธันวาคม 2012 แม่พระทรงประทานสาส์นที่ดูจะรุนแรงไม่น้อย
 
“ลูกทั้งหลายของแม่, ลูกอาศัยอยู่ในโลกที่ได้เลือกแล้วว่าจะไม่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอีกต่อไป หลายคนไม่สนใจเรื่องของสวรรค์อีกต่อไปแล้ว แต่มีชีวิตอยู่เพื่อโลกและอาณาจักรแห่งความมืดเท่านั้น จงละทิ้งสิ่งที่ไม่ถูกต้องเสีย! อย่าปล่อยให้ซาตานทำลายทุกสิ่งที่ดีที่อยู่ในตัวลูก นี่คือช่วงเวลาแห่งพระหรรษทาน, สวรรค์ได้มายังโลกเพื่อเรียกมนุษย์ให้กลับมาสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต แม่เคยไปหลายที่ในโลกเพื่อเชิญพวกเขาให้กลับใจ แต่มีใครบ้างต้องการได้ยินเสียงร้องอ้อนวอนของแม่? มีใครบ้างต้องการเดินไปบนถนนสายนี้ที่มุ่งสู่สวรรค์? ถนนที่แม่เรียกร้องการเสียสละและการปลดปล่อยตนเองจากพันธะของโลกอย่างสิ้นเชิง เป็นถนนของผู้ที่ต้องการรับใช้พระเจ้าผู้ซึ่งไม่คิดถึงแต่ตัวเอง แต่หวังดีต่อเพื่อนบ้าน,รู้จักช่วยเหลือและรับใช้พวกเขา”
 
“มันเป็นถนนแห่งการให้และการรับใช้,ไม่ใช่ถนนที่ลูกต้องการได้รับการรับใช้…เป็นทางหลวงศักดิ์สิทธิ์,ที่ช่วยให้ผู้ที่อยู่บนเส้นทางนี้เอาชนะการหลอกลวงและความไร้สาระของโลกได้
 
“ทุกสิ่งที่ซาตานเสนอให้นั้นเป็นเพียงภาพลวงตาและการหลอกลวง ลูกทั้งหลายของแม่,จงจำไว้เสมอว่า การหลอกลวงและภาพลวงตาของมันจะนำไปสู่ความตายชั่วนิรันดร ผู้ที่ยอมให้ตัวเองถูกมันล่อลวงก็ตกอยู่ในอันตรายที่จะไม่ได้เห็นพระพักตร์พระเจ้าที่ทรงพระเมตตาไปตลอดกาลเพราะศัตรูกำลังแสดงความโกรธเกรี้ยวและอาฆาตพยาบาทต่อบุตรของพระเจ้าในช่วงเวลานี้
 
“จงอย่ายอมแพ้! อย่ายอมให้ปีศาจมันทำให้ตาบอด จงต่อสู้อย่างสุดกำลังกับอาณาจักรแห่งความมืดและต่อต้านความชั่วร้ายทั้งหมด จงต้อนรับสาสน์ของแม่ในหัวใจของลูก แล้วพระเยซูพระบุตรของแม่,จะทรงประทานพละกำลังและพระหรรษทานแห่งพระจิตแก่ลูก องค์พระบุตรของแม่จะทรงให้คนเหล่านั้น [คือผู้ที่เดินตามเส้นทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์] ดื่มน้ำทรงชีวิตซึ่งดับความต้องการทั้งหมดของจิตวิญญาณและพระองค์จะทรงให้พวกเขากินปังแห่งชีวิตที่สนองตอบความหิวฝ่ายวิญญาณที่เคยต้องการ [ทำร้าย] พวกเขาและ ทำให้พวกเขาตกอยู่ในบาป
 
“แม่รักลูกทุกคนและบอกกับลูกทุกคนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยพระพรและพระหรรษทานของพระเจ้า: จงรักพวกเขาด้วย,เพราะคนที่รักไม่มีความกลัวในอนาคตและจะได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า,เมื่อพระองค์ทรงเปิดเผยพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาต่อโลก.
 
“ในความรักไม่มีความกลัวหรือความตายนิรันดร มีแต่สันติสุขและความหวังสำหรับหัวใจทั้งหลาย ในความรักคือองค์พระบุตรอันศักดิ์สิทธิ์ของแม่และชัยชนะเหนือความตายและบาป ในความรักลูกจะพบความหมายที่แท้จริงสำหรับชีวิตของลูกและพระประสงค์ทั้งหมดของพระเจ้า แม่ขออวยพรลูก: ในนามของพระบิดาพระบุตรและพระจิต อาแมน!”
 
สาส์นเปิดเผยสิ่งที่กำลังจะมาถึง?
 
ในวันคริสต์มาสมีรายงานว่าแม่พระทรงเสด็จมาพร้อมกับนักบุญโยเซฟและพระกุมารเยซู,ทรงเน้นถึงเรื่องสันติภาพ แม่พระตรัสในฐานะราชินีแห่งสายประคำและสันติภาพ
 
“ลูกทั้งหลายของแม่,นี่เป็นเวลาแห่งการกลับมาหาพระเจ้า หลังจากช่วงเวลาแห่งการทดลองครั้งนี้,จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในโลก อย่าปล่อยให้พระหรรษทานของพระเจ้าสูญเปล่าไปโดยเปล่าประโยชน์ จงต้อนรับสาส์นของแม่ในชีวิตของพวกเขาและจะมีอัศจรรย์ยิ่งใหญ่แห่งการกลับใจ,สันติภาพ,และความรักในพวกเขา แม่ขออวยพรลูกทุกคนในพระนามของพระบิดาพระบุตรและพระจิต อาแมน!”
 
ผู้เห็นแม่พระหลักสองคนคือเอ็ดสัน กลาวเบอร์และแม่ของเขานาง มาเรีย โด คาร์โม (Edson Glauber and Maria do Carmo)ได้รับคำสัญญาว่าพวกเขาจะได้รับการประจักษ์จนถึงเวลาที่พวกเขาเสียชีวิต ทั้งสองได้รายงานสาส์นของแม่พระตั้งแต่ปี 1994 บางครั้งแม่พระประจักษ์แก่ทั้งสองพร้อมกัน แต่ส่วนใหญ่จะทรงประจักษ์แก่แต่ละคนแยกกัน ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2012 ซึ่งวันนัน,แม่พระประทานสาส์นว่า
 
"สันติภาพ,ลูกรักทั้งหลายของแม่! วันนี้แม่มาจากสวรรค์เพื่อจะบอกลูกว่าอย่ากลัวอะไรเลย! พระมารดาของพระองค์อยู่ที่นี่เพื่อนำลูกไปสู่ดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า,ซึ่งเป็นแหล่งแห่งความรักและสันติสุข ให้พระเจ้าเสด็จมาและจะไม่มีความทุกข์ จงต้อนรับการขอร้องของแม่ด้วยความรักเพราะพระเจ้าจะทรงประทานพระหรรษทานอันยิ่งใหญ่แก่ผู้ที่ต้อนรับสาส์นของแม่และนำทุกคำสอนที่พระมารดานิรมลทินของลูกแจ้งให้พวกลูกรู้ไปปฏิบัติ
 
“ลูกเอ๋ย,อย่ากลัวถึงอนาคตและวันพรุ่งนี้ ทุกสิ่งเป็นของพระเจ้า! จงดำเนินชีวิตในช่วงเวลาปัจจุบัน,จงเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และอย่ากลัวสิ่งใด,เพราะพระองค์คือผู้ประทานกำลังและชัยชนะเหนือความชั่วร้ายทั้งปวงและพระองค์คือผู้ทรงปกป้องพวกเขาด้วยพระพลานุภาพของพระองค์
 
“ใครเล่าจะยืนหยัดต่อสู้องค์พระผู้เป็นเจ้าได้? ใครจะยืนหยัดต่อสู้กับความรักและอำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้? …จงต่อสู้,ต่อสู้เพื่อไปให้ถึงอาณาจักรแห่งสวรรค์,เพราะพระองค์ทรงอยู่ใกล้คุณมากที่สุด, ในช่วงเวลานี้,อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ แม่ขอขอบใจสำหรับการมาอยู่ที่นี่ในคืนนี้ จงกลับไปบ้านของพวกลูกด้วยสันติสุขของพระเจ้า แม่ขออวยพรทุกคนในพระนามของพระบิดาพระบุตรและพระจิต อาแมน!”
 
เอ็ดสันกล่าวว่า “วันนี้,พระแม่มารีย์ทรงสวยงามมาก พระนางทรงสวมผ้าคลุมสีขาวและมีเสื้อคลุมสีขาวยาวมาก พระนางทรงถือลูกโลกไว้ในพระหัตถ์ซึ่งเป็นตัวแทนของโลก พระแม่มารีย์ทรงทอดพระเนตรเราด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเมตตา ทันใดนั้นก็บุคคลหนึ่งเริ่มปรากฏขึ้นทางด้านขวาและด้านซ้ายของพระแม่มารีย์ – เป็นภาพนิมิตสองภาพ, ภาพทางด้านขวา,ท้องฟ้าปรากฏขึ้น ส่วนทางด้านซ้ายมีแสงสว่างจากนรก จากแสงทั้งสองนี้,เริ่มมีผู้คนปรากฏออกมาและเดินไปยังสองทิศทางของแสงนี้ [สวรรค์และนรก] แสงเป็นตัวแทนของผู้คนที่กำลังจะตายในขณะนั้น,หลายคนตกนรก แต่ในขณะที่พระแม่มารีย์ทรงสถิตย์อยู่ท่ามกลางพวกเราโดยการประจักษ์ของพระนาง,ภาพนิมิตนี้ก็เปลี่ยนไปและผู้คนก็เริ่มทะยานสู่ท้องฟ้า ผมตระหนักว่าในระหว่างการประจักษ์ของพระแม่มารีย์ในส่วนต่างๆของโลกและด้วยอำนาจแห่งการเสนอวิงวอนอันยิ่งใหญ่ของพระนางในโลก,ทำให้ คนจำนวนมากที่ถึงวาระ,แทนที่จะต้องตกนรก,ก่อนที่พวกเขาจะตาย,พวกเขาได้กลับใจอย่างจริงใจและขอการอภัยบาปของพวกเขาและขอรับ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ส่วนคนอื่นๆที่ตายทางจิตวิญญาณไปแล้วนั้น,เท้าของพวกเขาเกือบจะถึงประตูนรกอยู่แล้ว,แต่ได้รับพระหรรษทานของการกลับใจและการอัศจรรย์ครั้งยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพของเขา,ทำให้เขากลับมีชีวิตเพื่อเผยแผ่ความจริงนิรันดร์ของสวรรค์ให้ผู้อื่นได้รู้,เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเหล่านั้นให้กลับมาเป็นของพระเจ้าโดยผ่านทางคำพูดและการเป็นพยานของพวกเขา
 
“เมื่อพระแม่มารีย์ตรัสว่าอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้เรามากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ผมเข้าใจว่าพระนางทรงหมายถึงการประจักษ์ของพระนางซึ่งเกิดขึ้นทุกวันในหลายส่วนของโลก การประจักษ์ของพระแม่มารีย์เป็นพระหรรษทานอันยิ่งใหญ่ของพระเมตตาและพระพร เมื่อพระแม่มารีย์เสด็จมาในโลกเพื่อพูดคุยกับลูกๆของพระนาง,เป็นช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานที่เยียวยาและช่วยชีวิตหลายๆคน เพราะพระเยซูเจ้า,โดยทางพระมารดาของพระองค์,ทรงเริ่มเปลี่ยนแปลงจิตใจและชีวิตของผู้คนมากมาย”
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น