วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564

วันฉลองพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์

 


 
ในวันฉลองพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์, นักบุญเยอร์ทรูดกำลังจัดเตรียมพิธีมิสซาภายในคอนแวนต์ของเธอที่อยู่ในเมือง เฮลฟตา(Helfta), ประเทศเยอรมนี เธอสวดภาวนาวิงวอนต่อพระเยซูเจ้าว่า เธอจะทำอย่างไรจึงจะถวายพระเกียรติแด่พระองค์ได้มากที่สุดในวันนี้ซึ่งเป็นเดือนสิงหาคม อันเป็นวันฉลองพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ เพื่อประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้า,พระบิดา พระเยซูเจ้าตรัสกับเยอร์ทรูดว่า เมื่อเวลาที่เธอรับศีลมหาสนิท, เธอจะต้องถวายจิตใจ,ความปรารถนาทั้งหมดของเธอแด่พระองค์โดยไม่ยกเว้นสิ่งใดเลย เพื่อที่เธอจะได้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์เท่านั้น เพราะพระประสงค์ของพระองค์ต่อเธอนั้นย่อมเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเธออย่างแน่นอน นอกจากนี้พระเยซูยังทรงขอให้เธอเป็นทุกข์เสียใจอย่างสมบูรณ์สำหรับ "หลายครั้ง" ที่เธอได้ทำตามความปรารถนาของเธอเองไม่ใช่ของพระองค์ และในอนาคตเธอจะต้องตั้งใจแน่วแน่ที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์ในทุกสิ่งตลอดเวลา นี่เป็นแนวทางเฉพาะสำหรับเยอร์ทรูดในขณะนั้นซึ่งอยู่ในศตวรรษที่ 13 และเยอร์ทรูดเป็นแม่ชีในคณะเบเนดิกตินที่สาบานตนแล้วว่าจะนบนอบเชื่อฟัง ตามชีวประวัติของเยอร์ทรูด,มีบางครั้งที่เธอใช้อุบายเพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการของเธอเอง แม้ว่าจะขัดกับพระประสงค์ของพระเยซูก็ตาม และในวันนี้ซึ่งเป็นฉลองการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้า,พระเยซูทรงนำเธอไปสู่การสำนึกผิดกลับใจจากการที่เธอทำตามใจตนเองแทนที่จะทำตามพระประสงค์ของพระองค์
 
ขณะที่เยอร์ทรูดรับศีลมหาสนิท พระเยซูเจ้าตรัสกับเธอว่า "ดูเถิด เรามาหาเธอผู้เป็นเจ้าสาวของเรา...เพื่อพาเธอไปกับเรา และมอบเธอให้พระเจ้า,พระบิดาของเรา" เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยอร์ทรูดมีความเข้าใจอย่างแจ่มชัดที่สุดว่า เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาในดวงวิญญาณที่ได้รับพระกายและพระโลหิตของพระองค์, พระองค์จะทรงนำความปรารถนาและความตั้งใจดีของวิญญาณนั้นมาสู่พระองค์เอง แล้วทรงแสดงความปรารถนาของวิญญาณเหล่านั้นต่อพระบิดาสวรรค์ ความปรารถนาและความตั้งใจที่ดีของเราเป็นเหมือนเครื่องบูชา มันเป็นเหมือน "ตราประทับบนขี้ผึ้ง" ที่พระเยซูเจ้าทรงมอบแด่พระบิดาของพระองค์แทนเรา เยอร์ทรูดเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จไปหาพระบิดาของพระองค์ และพระเยซูทรงประดับพระองค์ด้วยคำอธิษฐานภาวนาของบรรดาผู้มีความเชื่อทั้งหลายที่ได้รับศีลมหาสนิท และการอธิษฐานภาวนาแต่ละครั้งก็เหมือนกับอัญมณีล้ำค่า พระเจ้าพระบิดาทรงรับเครื่องบูชาทั้งหมดของบรรดาผู้สัตย์ซื่อมาสู่พระองค์เองโดยใช้ฤทธานุภาพสูงสุดของพระองค์
 
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาในวันฉลองการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้า, เยอร์ทรูดเห็นพระเยซูเจ้าทรงงดงามยิ่งกว่าบุตรทั้งหลายของมนุษย์ และพระองค์ทรงสวมพระภูษาชั้นในสีเขียวและเสื้อคลุมนอกสีแดงสดใส สีเขียวแสดงถึงผลงานอันมหัศจรรย์และการฟื้นคืนชีวิตมนุษย์ขึ้นมาใหม่ของพระองค์ ส่วนสีแดงที่เจิดจ้าหมายถึงความรักสูงสุดของพระองค์ซึ่งผลักดันพระองค์ผ่านทางความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานอันเลวร้ายของพระองค์ เยอร์ทรูดได้รับสิทธิพิเศษอย่างยิ่งที่ได้เห็นพระองค์พร้อมกับเหล่าทูตสวรรค์ และพระองค์ประทานความรักเป็นพิเศษแก่ดวงวิญญาณที่ได้รับพระองค์ในศีลมหาสนิทในวันนั้น พระเยซูตรัสให้ความมั่นใจแก่พวกเขาว่า "เราจะอยู่กับท่านจนถึงที่สุดแห่งชีวิตของท่าน”
 
มีวิญญาณที่ได้รับเลือกสรรจำนวนหนึ่ง, แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน พระองค์ทรงประทานแหวนทองคำที่ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าแก่วิญญาณของพวกเขา และพระองค์สัญญากับพวกเขาว่า "เราจะไม่ปล่อยให้ท่านเป็นกำพร้า เราจะมาหาท่าน" นิมิตของกลุ่มวิญญาณที่ได้รับรางวัลแหวนพิเศษนี้ ทำให้เยอร์ทรูดถามพระเยซูว่า ที่พวกเขาได้รับแหวนนี้เป็นเพราะพวกเขามีบุญมากกว่าวิญญาณอื่นๆใช่ไหม? พระเยซูเจ้าไม่ทรงเห็นด้วย พระองค์อธิบายว่า แหวนถูกมอบให้แก่พวกเขาเพราะว่า “พวกเขาพินิจใคร่ครวญถึงความดีของเราที่มีต่อบรรดาศิษย์ของเรา ในการที่เรากินและดื่มกับพวกเขาก่อนที่เราจะขึ้นสู่สวรรค์ และสำหรับอาหารวิญญาณแต่ละครั้งที่พวกเขารับไปนั้น พวกเขาสวดภาวนาว่า “โอ้ พระเยซูผู้ทรงน่ารักยิ่ง ขอความรักอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้รวมข้าพเจ้าไว้ในพระองค์ด้วยเถิด!”
 
เมื่อเยอร์ทรูดสวดภาวนาในเวลาเย็นว่า "พระองค์ทรงยกพระหัตถ์และอวยพรพวกเขา และทรงถูกรับขึ้นสู่สวรรค์" เธอได้เห็นนิมิตของพระเยซูเสด็จขึ้นสู่เบื้องบนด้วยพระฤทธานุภาพของพระองค์และทรงอวยพรแก่พวกเขา พระองค์ตรัสว่า "เราขอมอบสันติสุขแก่ท่าน สันติสุขของเรา,เรามอบแก่ท่าน" ความเข้าใจที่ให้แก่เยอร์ทรูดก็คือ..พระเยซูเจ้าทรงประทานสายธารแห่งพระหรรษทานอันทรงประสิทธิภาพแก่วิญญาณทุกดวงที่ได้สรรเสริญให้เกียรติแด่พระองค์ในวันฉลองการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระองค์ด้วยความศรัทธาอย่างแท้จริง และไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆเกิดกับพวกเขา พระองค์จะทรงให้สันติสุขของพระองค์ดำรงอยู่ในจิตใจของพวกเขา ประดุจดังเปลวไฟที่ถูกปกคลุมด้วยขี้เถ้า
 
และสำหรับท่าน,ผู้อ่านที่รัก, ซึ่งกำลังคิดว่านิมิตนี้ที่เยอร์ทรูดได้รับนั้นจะนำมาประยุกต์ใช้กับตัวท่านเองได้อย่างไร ท่านอาจทำตามแบบเดียวกับที่เยอร์ทรูดทำโดยการละทิ้งความปรารถนาของตัวเองและทำตามพระประสงค์ของพระเยซูเจ้าที่ทรงมีต่อท่าน สิ่งนี้เป็นเรื่องยากสำหรับเยอร์ทรูด แต่เธอเป็นสตรีชาวเยอรมันที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ในวันฉลองพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสู่สวรรค์, พระองค์ทรงเรียกพวกเราให้สละเจตจำนงของเราแบบเดียวกันเพื่อว่าน้ำพระทัยของพระองค์จะเข้ามาแทนที่ความปรารถนาแบบมนุษย์ของเรา เพื่อที่ความคิด คำพูด และการกระทำของเราจะเป็นไปตามแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
 
หลังจากที่พระเยซูเจ้าทรงขอให้เยอร์ทรูดละทิ้งความปรารถนาของเธอเอง, พระองค์ทรงแสดงให้เธอเห็นว่าพระองค์ทรงนำคำภาวนาและความปรารถนาดีของผู้ที่ได้รับศีลมหาสนิทไปแสดงต่อพระบิดาในสวรรค์ ความปรารถนาของพวกเราจะเป็นสิ่งที่ดีและสวยงามเมื่อมันสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเยซูเจ้า และยิ่งความปรารถนาของพวกเราสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์มากเท่าใด, พระองค์ก็จะสามารถนำเสนอต่อพระบิดาบนสวรรค์ของพระองค์ได้มากเท่านั้น
 
จากการเปิดเผยนี้,จะเป็นสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดเมื่อเรารับศีลมหาสนิทในสถานะพระหรรษทาน คำภาวนาและความปรารถนาที่ดีของเราจะถูกนำเสนอเหมือนตราประทับบนเทียนที่ถวายแด่พระเจ้าพระบิดา และเราควรสวดภาวนาตามแบบอย่างที่กล่าวมาแล้วในขณะที่เรารับศีลมหาสนิท อันจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเมื่อเราไปรับศีลมหาสนิท,คำภาวนาและความปรารถนาที่ดีของเราจะถูกนำเสนอโดยพระเยซูเจ้าต่อพระบิดานิรันดร จากนั้นพระบิดาจะทรงรับคำภาวนาและความปรารถนาดีของเราไว้ในดวงพระทัยของพระองค์
 
และแล้วก็จะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งจิตวิญญาณของท่านจากการได้รับแหวนทองที่ประดับด้วยอัญมณีที่สดใส ขอให้ท่านสวดภาวนาดังนี้ “โอ้ พระเยซูผู้ทรงน่ารักยิ่ง ขอความรักอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้รวมข้าพเจ้าไว้ในพระองค์ด้วยเถิด!”ในขณะที่ท่านใคร่ครวญถึงความเอื้ออาทรของพระเยซูที่มีต่อบรรดาศิษย์ของพระองค์ในการกินและดื่มกับพวกเขาในวันก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์
 
มีความชื่นชมยินดีและความสงบเมื่อเราได้รับสันติสุขเหมือนเวลาที่เยอร์ทรูดเห็นพระเยซูเจ้าทรงประทานแก่วิญญาณที่ฉลองพระองค์เสด็จสู่สวรรค์ด้วยความศรัทธาและด้วยความรักต่อพระองค์ สันติสุขของพระคริสต์ที่คงอยู่ แม้จะอยู่ท่ามกลางความทุกข์ยาก เหมือนกับเปลวไฟ ซึ่งลุกอยู่ภายใต้เถ้าถ่านแห่งชีวิตซึ่งปลอบประโลมท่านให้อบอุ่น สันติสุขขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเท่านั้นที่ทำได้
 
บทความนำมาจาก The Life and Revelations of St Gertrude the Great
 


 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น