วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565

การถวายประเทศรัสเซียและยูเครน

 


พระสันตปาปาฟรังซิสจะทรงประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียและยูเครนแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ
 
นั่นคือพาดหัวข่าว ครั้งสุดท้ายที่มีข่าวเช่นนี้สำหรับฟาติมาคือปี 2000 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม และพระสันตปาปายอห์น ปอลที่ 2 ทรงประกาศว่าความลับข้อที่ 3 แห่งฟาติมากำลังจะถูกเปิดเผย
 
และอีกหนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ 26 มิถุนายน 2000 ความลับข้อที่สามแห่งฟาติมาก็ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ
 

เมื่อวานนี้,15 มี.ค. 2022 ก็มีพาดหัวข่าวที่ใหญ่กว่าเพราะในการแถลงข่าวของวาติกัน ได้ประกาศว่าวันที่ 25 มีนาคม 2022 นี้พระสันตปาปาฟรังซิสจะทรงประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียและยูเครนแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ
 
“ในเดือนมิถุนายน 2000 สันตะสำนักได้เปิดเผยความลับข้อที่สามของฟาติมา” อย่างเป็นทางการ “ในขณะนั้น อาร์คบิชอป Tarcisio Bertone เลขาธิการสภาคำสอนแห่งความเชื่อ( Congregation for the Doctrine of the Faith) ชี้ให้เห็นว่าซิสเตอร์ลูซีอา,ในจดหมายของปี 1989 ได้ยืนยันเป็นการส่วนตัวว่าการประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระที่กระทำในระดับสากลนี้สอดคล้องกับสิ่งที่แม่พระทรงมีพระประสงค์ ลูซีอาเขียนว่า: 'ใช่ มันได้ทำแล้ว' 'ตามที่แม่พระทรงขอไว้เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 1984'”
 
คำกล่าวอ้างของซิสเตอร์ลูซีอาในปี 1990 (และดูเหมือนก่อนหน้านั้นด้วย) ว่าพระสันตะปาปานักบุญยอห์น ปอลที่ 2 ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสวรรค์สำหรับการถวายประเทศรัสเซียในปี 1984 และเป็นสาเหตุของการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและสหภาพโซเวียต (ซึ่งรวมถึงยูเครน)
 
คำพูดเหล่านั้นมีค่าควรแก่การครุ่นคิด
 
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1993 มีการบันทึกการพบปะระหว่างพระคาร์ดินัลริคาร์โด วิดัลแห่งฟิลิปปินส์กับ ซิสเตอร์ลูซีอา และ
 
ซิสเตอร์ลูซีอาพูดในอารามที่โคอิมบรา (ต่อหน้าแขกอีกแปดคน)ว่า “การถวายประเทศรัสเซียในปี 1984 ได้ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามปรมาณูซึ่งควรจะเกิดขึ้นในปี 1985
 
“'ยุคแห่งสันติภาพ'(The Era of Peace) ไม่ได้หมายถึงสันติภาพของประชาชนและประเทศต่างๆแต่หมายถึงสันติภาพที่เรากำลังมีชีวิตอยู่ด้วยการสิ้นสุดของการแพร่กระจายความผิดพลาดของคอมมิวนิสต์รัสเซีย”
 
นี่เป็นคำพูดประวัติศาสตร์ที่น่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับ “สงครามนิวเคลียร์” อย่างไรก็ตาม,สื่อคาทอลิกและสื่อกระแสหลักทั่วไปต่างเพิกเฉยในคำกล่าวนี้โดยสิ้นเชิง
 
ที่จริง การแปลข้อความในปี 1917 ที่ดีกว่าคือ “ช่วงเวลาแห่งสันติภาพ”( period of peace) (คำว่า "ช่วงเวลา"( period) สั้นกว่าคำว่า "ยุค"(era))
 
เห็นได้ชัดว่า "ช่วงเวลาแห่งสันติภาพ" ที่พระแม่มารีย์ทรงสัญญาไว้หากมีการประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียได้กระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ได้เกิดขึ้นแล้วตามที่ทรงสัญญา นั่นคือการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในรัสเซียและในยุโรปตะวันออก
 
แต่ตอนนี้รัสเซียบังเกิดจิตใจที่เย็นชาขึ้นซึ่งอาจจะทำให้เกิดภัยพิบัติแห่งการลงโทษอีกครั้ง ดังนั้นตอนนี้เรากำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในพระศาสนจักรในช่วงหลายปีตามสาส์นความลับข้อที่สามแห่งฟาติมา: พระสันตะปาปา ("บาทหลวงในชุดขาว") ยืนทอดพระเนตรเห็นเมืองที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งจากการกระทำของกองกำลังแห่งความตาย
 
(ดูข่าวเมือง Mariupol ที่กองทัพรัสเซียทำลาย ชื่อของเมืองนี้แปลว่าเมืองของแม่พระ)
 

พระแม่แห่งฟาติมาทรงใช้ นายเลค วาเลซา(ผู้นำโปแลนด์) และนายโรนัลด์ เรแกน (ประธานาธิบดีสหรัฐ) และนักบุญพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ในการโค่นล้มลัทธิคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย แล้วประเทศคอมมิวนิสต์ในรัสเซียและยุโรปตะวันออกต่างก็ล้มลงเหมือนโดมิโน: ภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากการถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลในปี 1984
 
- การล่มสลายเริ่มต้นตามลำดับคือ - คอมมิวนิสต์ล่มสลายในโปแลนด์ (1989), เยอรมนีตะวันออก (1989), เชโกสโลวะเกีย (1989), ฮังการี (1988-1990), โรมาเนีย (1989) , บัลแกเรีย (1990) และสหภาพโซเวียต (1991) อย่างไม่น่าเชื่อ
 
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียปัจจุบันจะนำเอาลักษณะเผด็จการสไตล์โซเวียตสมัยก่อนให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งแล้วหรือ?
 
ดังนั้นจึงน่าจะเป็นเวลาที่จะประกอบพิธีถวายอีกครั้งหรือไม่?
 
ก่อนหน้านี้,พระอัครสังฆราชคาทอลิกแห่งยูเครนได้ส่งคำขอร้องมายังพระสันตปาปาฟรังซิส ขอให้พระองค์ประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียและยูเครนแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระเพื่อทำให้บังเกิดสันติภาพในยูเครน
 
พระสันตะปาปาฟรังซิส,ซึ่งเป็นพระสันตะปาปาที่หลายคนคิดว่าทรงมีแนวคิดแบบเสรีนิยมและดูเหมือนมีแนวโน้มน้อยที่สุดที่พระสันตะปาปาจะทรงประกอบพิธีถวายเช่นนี้ (เป็นปัญหาในหมู่นักอนุรักษนิยมมานานแล้ว) ได้ทรงตอบรับคำข้อร้องที่จะประกอบพิธีนี้ในทันที,โดยจะทรงถวายทั้งประเทศรัสเซียและยูเครนพร้อมกันในวันที่ 25 มีนาคม 2022 เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (ห้าทุ่มที่ประเทศไทย) และมีพิธีสมโภชพระนางมารีย์รับสารที่ฟาติมาด้วยเช่นกัน โดยจะมีการแพร่ภาพทางสื่อมวลชน
 
หลายคนไม่ได้ตระหนักถึงความศรัทธาที่พระองค์ทรงมีต่อพระแม่มารีย์ บ่อยครั้งที่พระองค์เสด็จไปที่วิหารหลักในกรุงโรม,วิหารพระแม่มารีย์แห่งโรม พระองค์จะทรงไปเยี่ยมที่นี่ก่อนและหลังการเดินทางทุกครั้ง โดยสวดอ้อนวอนต่อหน้าพระรูปพระแม่มารีย์
 
นอกจากนี้ พระองค์ยังเป็นพระสันตปาปาที่ทรงอนุมัติอย่างเป็นทางการให้มีการจาริกแสวงบุญไปยังเมดจูกอเรจ์ได้เป็นครั้งแรก
 
แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าในการประกอบพิธีครั้งนี้จะเป็นการถวายที่กระทำร่วมกับพระสังฆราชทั่วโลกหรือไม่? ถ้าหากไม่,มันก็จะไม่ตรงกับเงื่อนไขตามพระประสงค์ของแม่พระที่ประกาศไว้เมื่อ 105 ปีที่แล้ว และจะได้รับผลลัพท์ตามที่ได้วอนขอให้มีสันติภาพในยูเครนหรือไม่?
 
คำถามยังคงอยู่
 
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะรู้ว่าการถวายประเทศรัสเซียและยูเครนในวันที่ 25 มีนาคม 2022 นี้จะส่งผลอย่างไร? ไม่ใช่แค่รัสเซีย แต่ยังรวมถึงยูเครนด้วย
 
สงครามจะพลิกกลับเป็นสันติภาพหรือไม่?
 
ย้อนกลับไปดูผลลัพท์ในปี 2000
 
คงต้องคอยติดตามต่อไป
 
- MHB
 

หมายเหตุ – บิชอปคาทอลิกในละตินอเมริกาและแคริบเบียนจะเข้าร่วมพิธีการถวายประเทศรัสเซียและยูเครนแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ,ของพระสันตะปาปาฟรังซิสในวันที่ 25 มีนาคม 2022
 
การประชุมสภาแพร่ธรรมแห่งละตินอเมริกา (CELAM) กล่าวเมื่อวันที่ 15 มีนาคมว่าได้เชิญชาวคาทอลิก,องค์กรคริสตจักร,และสภาพระสังฆราช 22 แห่งเพื่อ "เข้าร่วมในพระประสงค์ของพระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์" การประชุมกล่าวว่าได้รับข่าวการประกอบพิธีถวายแด่แม่พระ“ด้วยความยินดีและความหวังอย่างยิ่ง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความจำเป็น “ต้องเพิ่มการอธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพและภราดรภาพสากลเป็นสองเท่า”
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น