วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ความทุกข์โศกเศร้าของแม่พระ

 



แม่พระทรงคร่ำครวญกับนักบุญบริจิตว่า มีน้อยคนนักที่จะปลอบโยนพระนางด้วยการพิจารณาไตร่ตรองถึงความเศร้าโศกของพระนาง และยังตรัสว่ามนุษย์ในโลกส่วนใหญ่หลงลืมเรื่องนี้:
 
หนังสือเล่ม 1 บทที่ 87 
แม่พระตรัส
 
'แม่มองไปทั่วทุกแห่งบนโลก,เพื่อดูว่ามีใครบ้างที่สงสารแม่และพิจารณาใคร่ครวญถึงความเศร้าโศกของแม่,และแม่พบว่ามีน้อยมาก
 
เพราะฉะนั้น,ลูกสาวของแม่,แม้ว่าหลายคนจะลืมแม่ไปแล้ว,อย่างน้อยลูกก็อย่าลืมแม่ จงพิจารณาความปวดร้าวของแม่เถิด,และรำพึงถึงความเศร้าโศกของแม่ให้มากที่สุดเท่าที่ลูกจะสามารถทำได้'
 
“เมื่อลูกชายของแม่เสียชีวิต แม่ก็เป็นเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกหอกห้าเล่มแทงที่หัวใจ
 
หอกเล่มแรกเป็นความเปลือยเปล่าที่น่าอับอายและน่าอัปยศ เพราะแม่เห็นพระบุตรสุดที่รักและยิ่งใหญ่ของแม่ยืนเปลือยกายอยู่ที่เสาโดยไม่มีเสื้อผ้าคลุมไว้เลย
 
หอกเล่มที่สองเป็นข้อกล่าวหาต่อพระองค์,เพราะพวกเขากล่าวหาพระองค์ว่าเป็นคนทรยศหักหลังและเป็นคนมุสา,ผู้ซึ่งแม่รู้ว่าเป็นคนชอบธรรมและองค์ความจริง และไม่เคยขุ่นเคืองใจหรือคิดร้ายหรือทำร้ายใคร
 
หอกเล่มที่สามเป็นมงกุฎหนามที่แทงพระเศียรอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์อย่างรุนแรงจนเลือดไหลลงสู่ปาก,เคราและหูของพระองค์
 
หอกเล่มที่สี่เป็นเสียงอันเศร้าโศกของพระองค์บนไม้กางเขนซึ่งพระองค์ร้องทูลต่อพระบิดาว่า: 'โอ้พระบิดา,เหตุไฉนพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า?' ราวกับว่าพระองค์ต้องการจะตรัสว่า: 'โอ้พระบิดา,ไม่มีใครที่สงสารลูกเลย มีแต่พระองค์เท่านั้น'
 
หอกเล่มที่ห้าที่แทงใจของแม่คือความตายที่ขมขื่นและโหดร้ายที่สุดของพระองค์
 
ดวงใจของแม่ถูกแทงด้วยหอกจำนวนมากเท่ากับจำนวนหลอดเลือดที่ซี่งพระโลหิตอันล้ำค่าที่สุดของพระองค์หลั่งไหลออกมาจากพระองค์ อันที่จริงความเจ็บปวดในเส้นเอ็น,ในหลอดเลือด,ที่เท้า,ที่มือ,และร่างกายที่ถูกแทงทะลุไปยังหัวใจของพระองค์อย่างไร้ความปราณี และความเจ็บปวดจากหัวใจก็กลับไปสู่เส้นเอ็นของพระองค์ เพราะหัวใจของพระองค์แข็งแรง,และมีธรรมชาติที่ดีที่สุด และแล้วชีวิตก็ต่อสู้ดิ้นรนกับความตาย ด้วยเหตุนี้ชีวิตของพระองค์จึงคงอยู่ได้ท่ามกลางความเจ็บปวดอันขมขื่นที่สุด
 
แต่เมื่อความตายของพระองค์ใกล้เข้ามาและหัวใจของพระองค์พองโตจนแทบระเบิดจากความเจ็บปวดที่ไม่อาจทนทานได้ ร่างกายของพระองค์ก็สั่นสะท้านและศีรษะของพระองค์ซึ่งโน้มไปข้างหลังก็ยกขึ้นเล็กน้อย
 
ดวงตาของพระองค์ที่ปิดลงครึ่งหนึ่งก็เปิดขึ้น และในทำนองเดียวกัน,ปากของพระองค์ก็เปิดออกทำให้เห็นลิ้นที่เปื้อนด้วยพระโลหิตของพระองค์ นิ้วและแขนของพระองค์ซึ่งราวกับเป็นอัมพาต,ก็ยืดออก แต่เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว ศีรษะก็ต่ำลงไปที่หน้าอก มือของพระองค์ลดต่ำลงเล็กน้อยจากบริเวณที่เกิดบาดแผล และเท้าของพระองค์ก็ต้องรับน้ำหนักส่วนใหญ่ของร่างกาย
 


แล้วมือของแม่ก็รู้สึกชา,ตามืดลง,และใบหน้าของแม่ซีดเหมือนคนตาย หูของแม่ไม่ได้ยินอะไรเลย,ปากของแม่พูดไม่ออก,เท้าของแม่สั่น,และร่างกายของแม่ล้มลงกับพื้น เมื่อแม่ลุกขึ้นจากพื้นดินและเห็นองค์พระบุตรของแม่ดูเสียโฉมและน่าสังเวชยิ่งกว่าคนโรคเรื้อน แม่ถวายจิตใจทั้งหมดของแม่แด่พระญาณสอดส่องของพระองค์ด้วยความมั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ และจะไม่มีวันเกิดขึ้นเว้นแต่พระองค์จะทรงอนุญาต
 
เพราะฉะนั้น,แม่จึงขอบพระคุณพระองค์สำหรับทุกสิ่ง แม่จึงมีความยินดีผสมกับความโศกเศร้าของแม่อยู่เสมอ เพราะแม่มองเห็นว่าพระองค์ผู้ไม่เคยทำบาป,ในความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์,ทรงประสงค์ที่จะทนทุกข์มากมายเช่นนี้เพื่อไถ่บาปของมนุษยชาติ ดังนั้น,ขอให้ทุกคนในโลกนี้พิจารณาใคร่ครวญว่าแม่ทนทุกข์อย่างไรเมื่อเห็นพระบุตรสิ้นพระชนม์ และให้ความทุกข์ของแม่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขาและในความคิดของพวกเขาเสมอ!”……..
 
............
 
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์กราดยิงที่หนองบัวลำภู โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเด็กเล็กที่เสียชีวิต....ขอแม่พระมหาทุกข์โปรดทรงรับดวงวิญญาณของพวกเขาไว้ในสวรรค์ด้วยเทอญ
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น