วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2566

บทเทศน์ของพระสันตปาปาฟรังซิส

 


เมื่อปีใหม่เริ่มต้นขึ้น พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า ‘พระนางมารีย์ให้ความหวังแก่เรา’
 
ในการเทศน์ระหว่างพิธีมิสซาสมโภชพระนางมารีย์พระมารดาของพระเจ้า พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเชื้อเชิญให้คริสตชนได้ค้นพบ “ความกระตือรือร้นในการไป” และ “พิศวงในการได้เห็น” อีกครั้ง เช่นเดียวกับที่คนเลี้ยงแกะได้ค้นพบ “ความลับที่สามารถทำให้โลกมีความใหม่อย่างแท้จริง”
 
มารดรภาพของพระนางมารีย์ไม่ได้เป็นแต่เพียง “พื้นฐานของความเชื่อ” เท่านั้นแต่ยังเป็น “ความจริงที่น่าอัศจรรย์” ด้วยนั่นคือ “พระเจ้าทรงมีพระมารดา” พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงอธิบาย “และด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงผูกพันกับมนุษยชาติตลอดไป จนถึงจุดที่มนุษยชาติของเราก็คือมนุษยชาติของพระองค์ ”
 
ในบทเทศน์สำหรับพิธีสมโภชพระนางมารีย์พระมารดาของพระเจ้า พระสันตปาปาทรงให้เราสังเกตว่าความจริงนี้ “ได้เข้าสู่จิตใจและความคิดของประชากรผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า” โดยอาศัยคำวิงวอนในบทภาวนาอันเป็นที่รักยิ่ง,บทวันทานางมารีย์ “การวิงวอนนี้,พระมารดาของพระเจ้าจะตอบสนองเสมอ” พระสันตะปาปาตรัส “พระนางทรงได้ยินคำขอของเรา พระนางทรงอุ้มพระบุตรของพระนางไว้ในอ้อมแขน,ทรงอวยพรเราและนำความรักอันอ่อนโยนของพระเจ้ามาให้เรา”
 
“พระนางมารีย์ทรงประทานความหวังแก่เรา”
 
พระสันตะปาปาตรัสว่า "ปีนี้ซึ่งเริ่มขึ้นด้วยการฉลองพระมารดาของพระเจ้าและของชาวเรา,บอกเราว่ากุญแจแห่งความหวังคือพระนางมารีย์ และการให้ได้มาซึ่งความหวังคือการวิงวอนต่อ 'พระมารดาของพระเจ้า!'"
 
"วันนี้เราขอมอบพระสันตปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 ผู้เป็นที่รักของเรา,ไว้กับพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพื่อที่พระองค์จะได้ติดตามพระนางในการจากโลกนี้ไปเฝ้าพระเจ้า"
 
ภาวนาเพื่อผู้ที่กำลังทนทุกข์
 
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องให้บรรดาคริสตชนสวดภาวนาต่อพระนางมารีย์ “ด้วยวิธีพิเศษสำหรับบุตรชายและบุตรสาวของพระนางที่กำลังทนทุกข์และไม่มีกำลังที่จะสวดภาวนาอีกต่อไป” และสำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากความขัดแย้งและสงคราม
 
“สำหรับคนเหล่านั้นที่ยังไม่มีสันติภาพ ให้เราวิงวอนต่อพระนางมารีย์,ผู้ซึ่งทรงนำเจ้าชายแห่งสันติภาพมาสู่โลก”
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระสันตปาปาทรงเชื้อเชิญให้เรารับการชี้นำจากคนเลี้ยงแกะแห่งเบธเลเฮม “คนกลุ่มแรกที่รู้จักพระเจ้าผู้เสด็จมาประทับอบู่ท่ามกลางเรา พระเจ้าผู้ทรงกลายเป็นคนยากจนและทรงรักที่จะอยู่กับคนยากจน”
 
คนเลี้ยงแกะรีบไป
 
“พระวรสารย้ำเตือนสองอย่างที่คนเลี้ยงแกะทำ” พระสันตะปาปาตรัสว่า “พวกเขาไปและเห็น”
 
คนเลี้ยงแกะไม่รีรอ,แต่รีบไปหาพระกุมาร พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า “หากเราจะต้อนรับพระเจ้าและสันติสุขของพระองค์ เราจะยืนนิ่งเฉยรอให้สิ่งต่างๆดีขึ้นมาเองไม่ได้”
 
พระองค์เชื้อเชิญให้คริสตชนถามตนเองว่าพวกเขาจะช่วยผู้อื่นได้อย่างไร “ในความอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อรับใช้,ในความกล้าหาญเพื่อดูแลผู้อื่น”
 
คนเลี้ยงแกะได้เห็นพระกุมาร
 
จากนั้นพระสันตะปาปาตรัสถึงสิ่งที่คนเลี้ยงแกะเห็นเมื่อพวกเขามาถึงเบธเลเฮม “สิ่งสำคัญคือพวกเขาได้เห็นพระองค์” และตรัสอีกว่า “สิ่งสำคัญคือการได้เห็น,การมองไปรอบๆ และเช่นเดียวกับคนเลี้ยงแกะ,ที่หยุดอยู่เบื้องหน้าพระกุมารที่กำลังอยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระมารดา”
 
ในเริ่มต้นปีใหม่นี้,พระองค์กล่าวว่า “ให้เราอุทิศเวลาส่วนหนึ่งเพื่อการมองเห็น,เพื่อเปิดตาของเรา และมองเห็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ นั่นคือมองเห็นพระเจ้าและพี่น้องชายหญิงของเรา”
 
เลียนแบบคนเลี้ยงแกะ
 
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสรุปบทเทศน์ว่า “วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาท่ามกลางพวกเรา,และพระมารดาของพระเจ้าทรงวางพระกุมารไว้ต่อหน้าพวกเรา” พระสันตปาปาเชื้อเชิญให้เรา “ค้นพบความลับที่จะทำให้ปีนี้ ‘ใหม่’ อย่างแท้จริง ด้วยความกระตือรือร้นที่จะไปและประหลาดใจที่ได้เห็น
 

************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น