วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

นักบุญที่ถุูกกระทำทารุณตั้งแต่เด็ก

 

:
 

 
นักบุญเจอร์เมน คัสซิ่น (1579-1601),พรหมจารีย์
 
นักบุญเจอร์เมน คัสซิ่น(St. Germaine Cousin) เกิดในปี 1579 ที่หมู่บ้าน Pibrac, Germana เธอเป็นนักบุญชาวฝรั่งเศส เธอเกิดมาจากพ่อแม่ที่ต่ำต้อยที่ Pibrac หมู่บ้านห่างจากตูลูสประมาณสิบไมล์ เด็กหญิงผู้อ่อนแอและป่วย เกิดมาด้วยมือขวาที่พิการและเป็นอัมพาต เมื่อแม่ของเจอร์เมนเสียชีวิต,นางฮอร์เทนส์(Hortense)ภรรยาใหม่ของพ่อก็เข้ามาแทนที่
 
เมื่อแม่ของเจอร์เมนเสียชีวิต,พ่อของเธอก็แต่งงานใหม่ แต่ฮอร์เทนส์,ภรรยาคนที่สองของเขาปฏิบัติต่อเจอร์เมนด้วยความโหดร้ายอย่างมาก โดยอ้างว่าเพื่อช่วยเด็กคนอื่นๆจากการติดเชื้อโรค เธอเกลี้ยกล่อมให้พ่อกัน เจอร์เมนออกห่างจากบ้าน ดังนั้น,เจอร์เมนจึงถูกบังคับให้เป็นคนเลี้ยงแกะตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก เมื่อเธอกลับมาในตอนกลางคืน ที่นอนของเธอคือคอกม้าหรือบนแคร่ไวน์ในห้องใต้หลังคา ในสภาพที่ยากลำบากนี้,เจอร์เมนเรียนรู้ตั้งแต่วัยเด็กในการฝึกฝนความอ่อนน้อมถ่อมตนและความอดทน เธอได้รับพระหรรษทานถึงการรับรู้อย่างอัศจรรย์ของการสถิตอยู่ของพระผู้เป็นเจ้าและสิ่งที่เป็นฝ่ายจิต ดังนั้นชีวิตที่อ้างว้างของเธอจึงกลายเป็นแหล่งที่มาของแสงสว่างและพระพรของเธอ
 
เจอร์เมนได้รับอาหารน้อยมาก เธอเรียนรู้ที่จะคลานเพื่อไปที่จานอาหารของสุนัข พ่อของเธอไม่ได้อยู่เพื่อปกป้องเธอตอนที่ฮอร์เทนส์ทิ้งเจอร์เมนไว้ในท่อระบายน้ำขณะที่เธอดูแลไก่ -- และลืมเธอไปนานถึงสามวัน พ่อไม่ได้เข้ามาปกป้องเลยแม้แต่น้อยเมื่อฮอร์เทนส์เทน้ำเดือดใส่ขาของเจอร์เมน
 

ในไม่ช้าเจอร์เมนก็กลายเป็นเด็กดูแลฝูงแกะ ไม่มีใครคิดว่าเธอควรจะได้ไปศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียน ดังนั้นเธอจึงใช้เวลาหลายวันในทุ่งเลี้ยงแกะ แทนที่จะเหงา,เธอได้พบมิตรภาพในพระเจ้า เธอไม่รู้ข้อคำสอนใดๆเลย และรู้เฉพาะหลักความเชื่อเท่านั้นที่เธอเรียนรู้จากพระสงฆ์ประจำโบสถ์ซึ่งได้สอนเธอ แต่เธอมีสายประคำที่เธอทำขึ้นมาเองจากเชือกที่ผูกเป็นเงื่อนปมและเธอสวดบทภาวนาง่ายๆของเธอว่า "ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าให้ลูกหิวหรือกระหายน้ำเกินไป ขอทรงช่วยให้ลูกทำให้แม่ของลูกพอใจและช่วยให้ลูกทำให้พระองค์พอพระทัย” จากความเชื่อที่เรียบง่ายนี้,ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์และความวางใจในพระเจ้าอย่างสุดซึ้งของเธอเติบโตขี้น
 
ความรักที่เธอมีต่อพระเยซูในศีลมหาสนิทและต่อพระมารดาพรหมจารีย์ของพระองค์ดึงดูดจิตใจของเธอ เธอไปร่วมพิธีมิสซาทุกวันที่โบสถ์เมื่อระฆังโบสถ์ดังขึ้น ก่อนไปโบสถ์,เธอจะปักไม้เท้าเลี้ยงแกะลงบนพื้นดิน และปล่อยฝูงแกะของเธอให้อยู่ในความดูแลของพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้าขณะที่เธอร่วมพิธีมิสซา แม้ว่าทุ่งหญ้าเลี้ยแกะจะอยู่บริเวณชายขอบของป่าที่เต็มไปด้วยหมาป่า แต่ฝูงแกะก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ
 
ฮอร์เทนส์โกรธเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของลูกสาว เธอคอยแต่จะจับผิดว่าเจอร์เมนทำผิดอะไรบ้าง วันหนึ่งในฤดูหนาวที่หนาวเย็น,หลังจากไล่ขอทานที่เจอร์เมนปล่อยให้นอนในโรงนา ฮอร์เทนส์จับได้ว่า เจอร์เมนเก็บของบางอย่างรวมอยู่ในผ้ากันเปื้อนของเธอ เมื่อแน่ใจว่าเจอร์เมนขโมยขนมปังไปเลี้ยงคนขอทาน เธอจึงเริ่มไล่ตามและตะโกนใส่เจอร์เมน ขณะที่เธอเงื้อไม้จะเริ่มตี,เจอร์เมนก็เปิดผ้ากันเปื้อนของเธอ นำสิ่งที่เธอซ่อนไว้ในผ้ากันเปื้อนออกมา - มันคือดอกไม้สวยสดใสที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นมานานหลายเดือนแล้ว เธอพบดอกไม้ที่สดใสท่ามกลางน้ำแข็งและหิมะที่ไหนหรือ? มีเพียงคำตอบเดียวและเจอร์เมนก็ยื่นดอกไม้ให้แม่ของเธอและพูดว่า "โปรดรับดอกไม้นี้ด้วยเถิดแม่ พระเจ้าส่งมันมาให้แม่เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการให้อภัย"
 
คนทั้งหมู่บ้านเริ่มพูดถึงเด็กศักดิ์สิทธิ์คนนี้ แม้แต่ฮอร์เทนส์ก็เริ่มใจอ่อนลงต่อเจอร์เมน เธอยังชวน เจอร์เมนกลับเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่เจอร์เมนเริ่มชินกับเตียงฟางของเธอแล้วและยังคงนอนในนั้นต่อไป เช้าวันหนึ่งในต้นฤดูร้อนปี 1601 พ่อของเจอร์เมนพบว่าเธอไม่ตื่นขึ้นมาตามเวลาปกติ จึงไปเรียกเธอ และพบว่าเธอเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนที่ทำด้วยกิ่งไม้เถาวัลย์,ตอนนั้นเธออายุ 22 ปี
 
ด้วยหลักฐานทั้งหมดที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจอร์เมน ชีวิตของเธอเรียบง่ายและซ่อนเร้นซึ่งมีความสำคัญมากเกินกว่าหมู่บ้านเล็กๆของเธอ ดังนั้น,พระเจ้าจึงทรงนำเรื่องราวของเธอให้ปรากฏสู่แสงสว่างอีกครั้ง เมื่อมีการขุดร่างของเธอขึ้นในอีก 40 ปีต่อมา,และพบว่าร่างของเธอยังอยู่ในสภาพเดิม ซึ่งเรียกว่าไม่เน่าเปื่อย,เช่นเดียวกับกรณีของนักบุญหลายองค์ที่ร่างกายไม่เสื่อมสลาย พระเจ้าไม่ทรงเลือกสิ่งที่มนุษย์เห็นว่าสวยงาม แต่ทรงเลือกสิ่งที่มนุษย์ดูแคลนว่าน่าเกลียดและอ่อนแอ ราวกับว่าพระเจ้ากำลังตรัสด้วยอัศจรรย์ว่าความคิดของมนุษย์เรื่องความงามนั้นไม่ใช่ความคิดของพระองค์ สำหรับพระองค์แล้ว ไม่มีใครงดงามไปกว่าหญิงสาวผู้โดดเดี่ยวและต่ำต้อยผู้นี้
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น