วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

สวดภาวนา,จำศีลอดอาหาร,และความเมตตา

 



บทเทศน์ของนักบุญปีเตอร์ คริสโซโลกัส(Saint Peter Chrysologus) 
ในเทศกาลมหาพรต
 
สวดภาวนาเป็นการเคาะ,จำศีลอดอาหารเป็นการได้,ความเมตตาเป็นการรับ
 
พี่น้องทั้งหลาย,มีอยู่สามสิ่งซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นคง,ความศรัทธายั่งยืน,และคุณธรรมคงอยู่ สิ่งนั้นคือการสวดภาวนา,การจำศีลอดอาหาร,และความเมตตา การสวดภาวนาเป็นการเคาะประตู การจำศีลอดอาหารเป็นการได้ ความเมตตาเป็นการรับ การสวดภาวนา,ความเมตตาและการอดอาหาร: ทั้งสามสิ่งนี้รวมเป็นหนึ่งเดียว และแต่ละสิ่งให้ชีวิตแก่กันและกัน
 
การจำศีลอดอาหารเป็นจิตวิญญาณแห่งการสวดภาวนา ความเมตตาเป็นโลหิตแห่งชีวิตของการจำศีลอดอาหาร อย่าให้ใครพยายามแยกสิ่งเหล่านี้ออกจากกัน เพราะไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ถ้าท่านมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ได้มีทั้งหมด ท่านก็ไม่มีอะไรเลย ดังนั้นหากท่านสวดภาวนา,จงจำศีลอดอาหารด้วย ถ้าท่านจำศีลอดอาหาร,จงแสดงความเมตตาด้วย หากท่านต้องการให้คำวอนของท่านได้รับการรับฟัง จงฟังคำวอนขอของผู้อื่น ถ้าท่านไม่ปิดหูของท่านต่อการวอนขอของคนอื่น ท่านก็เปิดพระกรรณของพระเจ้าสำหรับตัวท่านเอง
 
เมื่อท่านจำศีลอดอาหาร,จงดูการจำศีลอดอาหารของผู้อื่น หากท่านต้องการให้พระเจ้ารู้ว่าท่านกำลังหิว,จงรู้ว่าคนอื่นกำลังหิว หากท่านหวังความเมตตา,จงแสดงความเมตตา ถ้าท่านมองหาความเมตตากรุณา,จงแสดงความเมตตากรุณา ถ้าท่านต้องการรับ,ก็จงให้ ถ้าท่านวอนขอสำหรับตัวเองในสิ่งที่ท่านปฏิเสธคนอื่น การวอนขอของท่านเท่ากับเป็นการเยาะเย้ย
 
ขอให้คำแนะนำนี้เป็นแบบอย่างสำหรับมนุษย์ทุกคนเมื่อพวกเขาแสดงความเมตตา นั่นคือ จงแสดงความเมตตาต่อผู้อื่นในลักษณะเดียวกันกับที่ท่านต้องการได้รับความเมตตา ด้วยความเอื้ออาทรอย่างเดียวกัน ด้วยความรวดเร็วเช่นเดียวกันกับที่ท่านต้องการให้ผู้อื่นแสดงความเมตตาต่อท่าน
 
เพราะฉะนั้น,ขอให้การสวดภาวนา,ความเมตตา,และการจำศีลอดอาหารเป็นการวิงวอนต่อพระเจ้า เป็นคำพูดหนึ่งเดียวเพื่อการปกป้องคุ้มครอง สามสิ่งรวมกันเป็นหนึ่งแห่งบทภาวนาของเรา
 
ให้เราใช้การจำศีลอดอาหารเพื่อชดเชยสิ่งที่เราสูญเสียไปจากการดูหมิ่นผู้อื่น ให้เราถวายวิญญาณเป็นยัญบูชาด้วยการจำศีลอดอาหาร ไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่าการที่เราสามารถถวายแด่พระเจ้าได้ ดังที่ผู้เขียนบทสดุดีกล่าวไว้ในคำพยากรณ์ว่า เครื่องบูชาแด่พระเจ้าคือจิตวิญญาณที่ชอกช้ำ พระเจ้าไม่ทรงดูหมิ่นจิตใจที่ชอกช้ำและถ่อมตน
 
จงถวายวิญญาณของท่านแด่พระเจ้า ถวายการจำศีลอดอาหารของท่านเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์ เพื่อที่วิญญาณของท่านจะเป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์ เป็นยัญบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้ยอมรับทุกข์ที่มีชีวิต จงเป็นตัวท่านเองและในขณะเดียวกันก็มอบถวายแด่พระเจ้า ใครก็ตามที่ไม่ถวายสิ่งนี้แด่พระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัย เพราะถ้าท่านมอบถวายตัวท่านแด่พระองค์,ท่านก็จะได้รับจากพระองค์
 
เพื่อให้สิ่งเหล่านี้เป็นที่ยอมรับ,ต้องเพิ่มความเมตตาด้วย การจำศีลอดอาหารจะไม่เกิดผลใดๆเว้นแต่จะได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยน้ำพุแห่งความเมตตา การจำศีลอดอาหารเหือดแห้งเมื่อความเมตตาเหือดแห้ง ความเมตตาคือการอดอาหารที่เป็นเสมือนฝนตกลงมายังโลก ไม่ว่าท่านจะเพาะปลูกจิตใจของท่าน,แผ้วถางดินแห่งธรรมชาติของท่าน,ถอนรากความชั่วร้าย,หว่านคุณธรรมความดีมากสักเพียงใด แต่ถ้าท่านไม่รดด้วยน้ำพุแห่งความเมตตา,การจำศีลอดอาหารของท่านก็จะไม่เกิดผล
 
เมื่อท่านอดอาหาร,หากความเมตตาของท่านลดน้อยลง การเก็บเกี่ยวของท่านก็จะลดน้อยลงด้วย เมื่อท่านอดอาหาร สิ่งที่ท่านกระทำออกมาด้วยความเมตตาจะล้นเข้าไปยุ้งฉางของท่าน ดังนั้นอย่าสูญเสียด้วยการประหยัด แต่รวบรวมโดยการกระจายให้กับคนยากจนและท่านจะให้กับตัวท่านเอง ท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บรวบรวมในสิ่งที่ท่านปฏิเสธที่จะให้แก่ผู้อื่น
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น