วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2566

การเดินทางของอับราฮัม

 

:

ชื่ออับราฮัมปรากฏในตอนท้ายของปฐมกาล 11 และเริ่มต้นในบทที่ 12 เมื่อพระเจ้าปรากฏแก่อับราฮัม
 
บทที่ 11 ของหนังสือปฐมกาลพูดเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งมวล แต่บทที่ 12 พูดเกี่ยวกับชายคนหนึ่งเท่านั้นที่ชื่ออับรามผู้ซึ่งเป็นชาวฮีบรู ต่อมา,พระเจ้าเปลี่ยนชื่อเขาเป็นอับราฮัม ซึ่งมีความหมายว่าบิดาแห่งชนชาติหลายชนชาติ
 
เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักว่าโมเสสเป็นผู้เขียนหนังสือปฐมกาล และพระเยซูทรงยืนยันว่าโมเสสเป็นผู้เขียน ความจริงข้อนี้ทำให้ผู้อ่านหนังสือปฐมกาลมีความมั่นใจว่าเหตุการณ์,ตำแหน่งสถานที่,และลำดับเหตุการณ์มีความถูกต้อง คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าหลังจากน้ำวินาศ,บุตรชายของโนอาห์สามคนได้เพิ่มจำนวนมนุษย์บนโลก บุตรชายทั้งสามคือ เชม,แฮม,และจาเฟต
 

โนอาห์ได้กล่าวคำทำนายที่น่าสนใจในหนังสือปฐมกาล 9:25-26 ว่า ลูกชายของแฮมที่ชื่อ “คานาอัน”(Canaan)จะถูกสาปแช่งและพระเจ้าหรือพระยาห์เวห์จะเป็นพระเจ้าของเชม
 
อับราฮัมเป็นพงศ์พันธ์ของเชม และในปฐมกาล 12 พระยาห์เวห์มาหาอับราฮัมในบ้านเมืองของเขาที่เมือง อูร์(Ur)แห่งคาล์ดีส์(Chaldees) และพระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงออกจากเมืองของท่าน ละทิ้งญาติพี่น้องของท่าน ละทิ้งบ้านบิดาของท่าน และไปยังดินแดนที่เราจะแสดงต่อท่าน เราจะทำให้ท่านเป็นประชาชาติที่ยิ่งใหญ่ เราจะอวยพรท่าน ทำให้ท่านมีชื่อเสียง เราจะอวยพรผู้ที่อวยพรท่าน และจะสาปแช่งคนที่สาปแช่งท่าน และพงศ์พันธ์ของท่านคนหนึ่งจะอวยพรโลกทั้งโลก”
 
อับราฮัมเชื่อฟังพระเจ้า เวลานั้นเขามีอายุ 75 ปี เขาออกจากเมืองบ้านเกิดของเขาพร้อมทั้งภรรยา,นางซาราห์ และหลานชายของเขา,ล็อต
 
พวกเขาเดินทางไปทางเหนือตามแม่น้ำยูเฟรติสจนมาถึงเมืองฮาราน,ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าเทราห์,บิดาของอับราฮัม,เสียชีวิตเมื่ออับราฮัมอยู่ที่เมืองฮาราน
 
เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่เทราห์,บิดาของอับราฮัมเป็นรุ่นหลานรุ่นที่ 8 ของเชม และเกิดหลังจากน้ำวินาศมากกว่า 250 ปี ซึ่งโนอาห์ยังมีชีวิตอยู่และทันได้เห็นเทราห์ แต่โนอาห์ตายไป 2 ปีก่อนที่อับราฮัมจะเกิด
 

หลานของอาดัม,เอนอส(Enos)มีชีวิตยืนยาวพอที่จะได้เห็นโนอาห์ ซึ่งนั่นเป็นเวลาประมาณ 2000 ปีก่อนที่อับราฮัมจะเดินทางไปสู่คานาอัน และคิดที่จะตั้งรกรากที่นั่น แต่พระเจ้าทรงเปิดเผยต่ออับราฮัมว่าเขาจะเป็นเพียงคนแปลกหน้าและผู้เดินทางผ่านคานาอันเท่านั้น แต่ลูกหลานรุ่นอื่นของเขาที่จะมายึดครองคานาอัน ดังนั้นอับราฮัมจึงเดินทางต่อไป
 

อับราฮัมเดินทางผ่านดามัสคัสซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของดินแดนคานาอัน และมาถึงเมืองเชเคม ที่นี่พระเจ้าปรากฏกับเขาอีกครั้ง พระองค์ยืนยันคำสัญญาของพระองค์ และอับราฮัมได้สร้างพระแท่นแรกถวายแด่พระเจ้าในดินแดนของคานาอัน หลังจากนั้นเขาเดินทางมาถึงเบเทลและได้สร้างพระแท่นที่สองใกล้กับภูเขา คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าได้เกิดความอดหยากครั้งใหญ่ที่นี่ อับราฮัมและครอบครัวจึงเดินทางลงทางใต้ไปสู่อิยิปต์ ในเวลาต่อมา,เขาออกจากอิยิปต์และกลับมาที่เบเทล อับราฮัมกลับมายังพระแท่นที่เขาสร้างไว้ใกล้กับภูเขาอีกครั้งและเรียกหาพระเจ้า อับราฮัมและล็อตหลานชายได้แยกจากกันที่นี่ อับราฮัมพักอาศัยที่เฮบรอน พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมอีกครั้งและบอกเขาให้มองดูรอบๆทุกทิศทางไกลที่สุดเท่าที่เขาทำได้ พระเจ้าตรัสยืนยันว่พระองค์ทรงมอบดินแดนทั้งหมดของคานาอันให้แก่เขาและพงศ์พันธ์ของเขา อับราฮัมสร้างพระแท่นที่สามที่เฮบรอน ที่นี่เองที่พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับอับราฮัม และเปลี่ยนชื่ออับรามให้เป็นอับราฮัม และเขาได้ทำพิธีเข้าสุหนัต
 
ที่เฮบรอนนี้เช่นกันที่อิชมาเอล,บุตรชายคนแรกที่เกิดจากนางฮักการ์,หญิงรับใช้ของนางซาราห์,ได้เกิดมา และเมืองโซดมและโกโมราห์ถูกทำลาย และพระเจ้าทรงเตือนอับราฮัมว่าพงศ์พันธ์ของเขาจะกลายเป็นทาสในดินแดนต่างถิ่นนาน 400 ปี แต่พระเจ้าจะทรงช่วยให้พวกเขาเป็นอิสระและจะนำพวกเขากลับมาที่ดินแดนนี้
 
อับราฮัมเดินทางต่อไปยังเมืองเกราร์(Gerar)และเมืองเบียเชบา(Beersheba) และที่เบียเชบานี้เองที่อิซาอักได้เกิดมา,บุตรชายที่เกิดจากอับราฮัมกับนางซาราห์ในขณะที่ชราแล้ว และอิซาอักคือบุตรแห่งพระสัญญา ที่นี่อีกเช่นกันที่พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมให้นำอิซาอักไปที่ภูเขาในดินแดนของโมริยาห์และให้ถวายอิซาอักเป็นเครื่องบูชา แต่ตามที่ทราบ,พระเจ้าทรงมาห้ามไม่ให้อับราฮัมฆ่าอิซาอัก ทำให้อับราฮัมดีใจมาก
 

อับราฮัมกลับมาที่เบียเชบาและต่อมาก็กลับมาที่เฮบรอนอีก ที่นี่เขาซื้อถ้ำแห่งแมกเพลาห์(Machpelah)เพื่อให้เป็นที่ฝังศพของคนในครอบครัว และเขาฝังศพของนางซาราห์ที่ถ้ำนี้ อับราฮัมเสียชีวิตเมื่อมีอายุ 175 ปีตามที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่าเขาจะมีอายุยืนยาวจนแก่เฒ่า และอับราฮัมก็ถูกฝังไว้ที่ถ้ำนี้ด้วย
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น