วันนี้เราสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ซึ่งเกิดขึ้นสี่สิบวันหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ผู้มาเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มักจะมองหาโบสถ์หรือโบสถ์น้อยที่สร้างขึ้นบริเวณเกิดเหตุการณ์สำคัญนี้ แต่ไม่มีเลย การเสด็จสู่สวรรค์เกิดขึ้นที่ไหน? เฉพาะในพระวรสารของมัทธิวเท่านั้นที่บอกเราว่า "บรรดาศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนได้ไปยังแคว้นกาลิลี ถึงภูเขาที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดไว้ " (มธ.28.16).
ไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่พระเยซูถูกปีศาจประจญ,หรือภูเขาที่พระเยซูทรงเทศนา,หรือภูเขาที่พระเยซูทรงจำแลงพระกาย ภูเขาเหล่านี้ยังไม่สามารถระบุในเชิงภูมิศาสตร์ว่าอยู่ที่ใดแน่ แต่มันไม่สำคัญว่าพระเยซูจะเสด็จสู่สวรรค์ที่ไหน, เมื่อไร, หรืออย่างไร และอัครสาวกทั้งสิบเอ็ดคนพร้อมกับพระมารดามารีย์และศิษย์คนอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปด้านล่างต่างก็ยืนแหงนหน้ามองท้องฟ้า สิ่งที่สำคัญคือในฐานะที่เราเป็นผู้มีความเชื่อ เราให้ความสำคัญกับคำสั่งสุดท้ายของพระเยซูเป็นอันดับแรกนั่นคือ: "จงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน”(มธ 28:19-20)
คำเชื้อเชิญของพระเยซูให้ไปประกาศข่าวดีต่อมนุษย์ทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องมากขึ้นในโลกปัจจุบัน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามและข่าวลือเรื่องความขัดแย้ง การกันดารอาหาร ความวุ่นวาย ภัยพิบัติ และการทำลายล้าง การสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ถือเป็นการแยกจากฝ่ายกายของพระเยซูเจ้าจากประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แต่ก่อนที่จะจากไป พระองค์ทรงประกาศ "พระประสงค์" ของพระองค์ “จงไปทั่วโลกและประกาศข่าวดีแก่มวลมนุษย์”
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในหนังสือของพระองค์,อธิบายว่าพระเยซูถูกนำขึ้นไปสู่สภาวะพระเจ้า มีส่วนร่วมในการแสดงพระฤทธานุภาพของพระเจ้าในโลก พระองค์ได้เปิดช่องภายในพระเจ้าสำหรับมนุษยชาติชั่วนิรันดร์ และในเวลานี้,พระองค์ได้เรียกโลกทั้งโลกให้เข้ามาอยู่ในพระเจ้า การเสด็จสู่สวรรค์เป็นการระลึกถึงการส่งอัครสาวกไปยังทุกประเทศเพื่อเชิญมนุษยชาติทั้งหมดให้เข้ามาสู่พระเจ้า ทุกวันนี้, เราไม่สามารถพูดถึงโลกของผู้ชายและผู้หญิงได้โดยปราศจากการเข้าสู่โลกดิจิตอลอินเตอร์เน็ต
ในคริสต์ศาสนายุคแรก,อัครสาวกและผู้ประกาศข่าวดีเดินทางไปไกลสุดปลายแผ่นดินเพื่อเผชิญกับพายุทะเลทราย, ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่อันตราย, แม่น้ำที่มีแอ่งน้ำลึก, และทะเลที่เชี่ยวกรากเพื่อนำข่าวดีมาสู่ชาวยิวและคนต่างศาสนา พวกเขาเทศนาในธรรมศาลา, ริมฝั่งแม่น้ำ, และในตลาด
ปัจจุบันนี้, มีความสะดวกสบายมากขึ้น มีความเป็นส่วนตัวในบ้านของเราหรือในที่สาธารณะ เรามีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ดิจิทัล ข่าวดีจะเป็นที่รู้จักในโลกดิจิทัลด้วย ถึงแม้ว่าประสบการณ์ความยากลำบากอาจจะขาดหายไปในชีวิตของหลายๆคน พื้นที่นี้มีความสำคัญมากขึ้น สภาพแวดล้อมของดิจิทัลไม่ได้อยู่คู่ขนานกับโลกเสมือน แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตประจำวันของหลายๆ คน โดยเฉพาะหนุ่มสาว
การเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้าอาจมองได้ว่าเป็นวันฉลองความสำเร็จของงานของพระเจ้าบนโลก ในทางกลับกัน,ก็อาจถูกมองว่าเป็นวันฉลองการเริ่มต้นงานของพระศาสนจักร พระเจ้าทรงทำในสิ่งที่พระองค์ประสงค์จะทำ พระเยซูเจ้าทรงกล้าหาญและยอมตายเพื่อมนุษย์ทุกคน
สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือพระศาสนจักรยังคงทำงานที่พระเยซูเจ้าตรัสสั่งต่อไป เราถูกเรียกให้ประกาศพระวาจาที่พระเยซูทรงนำมาจากพระบิดาเจ้า พระองค์ทรงรับรองเราในเวลานั้นและยืนยันกับเราอีกครั้งว่าพระองค์อยู่กับเราเสมอ "เราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ" (มธ.28.20)
ในหนังสือแห่งสวรรค์(the Book of Heaven)ของลุยซ่า ปิการ์เร็ตต้า เราเรียนรู้ว่าในการลงมาจากสวรรค์สู่โลก พระเยซูตรัสว่า “เราจากไปและเราอยู่” เมื่อพระองค์เสด็จสู่สวรรค์ พระองค์ตรัสว่า - 'เราอยู่และเราจะจากไป' พระเยซูเจ้าทรงจากไปสู่สวรรค์ขณะที่อยู่บนโลก,ในตู้ศีล,เพื่อบรรลุอาณาจักรแห่งพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์(Kingdom of Divine Will.) พระเยซูทรงรับรองกับเราว่า ผู้ที่อยู่ในพระประสงค์แห่งสวรรค์สามารถพูดกับพระเยซูว่า: "'เราจากไปและเราจะอยู่' เราจากไปสู่สวรรค์เพื่อรับรางวัล,เราไปยังบ้านแท้ของเรา และเพื่อไปพบกับพระเยซูผู้เป็นสุดที่รักของเรา, ผู้ซึ่งเรารับใช้พระองค์เพื่อทำให้ทุกคนจะได้รู้จักและมีความยินดีในพระองค์และรักพระองค์ เราอยู่บนโลกนี้เพื่อช่วยชีวิตและปกป้องบรรดาพี่น้องของเรา ช่างงดงามเหลือเกินที่ได้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์" -- Book of Heaven Volume 35 วันที่ 24 มกราคม 1938
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น