“ในปี 1959” ,นาย ซี. เบอร์นาร์ด รัฟฟิน(C. Bernard Ruffin,) ผู้เป็นนักเขียนเล่าว่า “รูปปั้นพระแม่มารีย์แห่งฟาติมาได้เดินทางมาเยือนอิตาลี และในช่วงเวลาเดียวกันนี้,คุณพ่อปีโอป่วยหนักและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกมะเร็งชนิดร้ายแรง ในวันที่ 6 สิงหาคม 1959 พระรูปมาถึง San Giovanni Rotundo คุณพ่อปีโอได้สวดภาวนาต่อหน้าพระรูปและจูบเท้าของแม่พระ หลังจากพระรูปออกจากอารามโดยเฮลิคอปเตอร์ คุณพ่อปีโอกล่าวว่า "โอ้ พระแม่ของลูก เมื่อพระแม่มาที่อิตาลี ทรงพบว่าลูกป่วย พระแม่ทรงมาเยี่ยมลูกที่นี่และลูกก็ทุกข์ใจ และตอนนี้พระแม่กำลังจากไปโดยไม่ได้ช่วยลูกให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ”
“ขณะที่คุณพ่อปีโอสวดวิงวอนอยู่นั้น,อัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
“เฮลิคอปเตอร์บินสูงเหนืออารามพร้อมพระรูปบินวนรอบอาคารสามครั้ง ในภายหลัง,นักบินบอกว่าเขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น
“ในจังหวะเดียวกับที่เฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่,คุณพ่อปีโอรู้สึกตัวสั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าร่างกายของท่านถูกแสงทะลุทะลวงและท่านก็รู้สึกว่าเนื้องอกหายไปแล้ว”
และก็เป็นเช่นนั้น เมื่อหมอบอกว่าคุณพ่อปีโอเป็นมะเร็ง ท่านก็หัวเราะ เพราะโรคหายไปแล้ว.
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดของเรื่องนี้
สิ่งที่ยังไม่มีการบอกเล่าจนถึงขณะนี้ก็คือสาเหตุการที่พระรูปแม่พระแห่งฟาติมาถูกส่งไปที่นั่น — และที่อื่นๆในอิตาลี (ไปยังเมืองหลวง) — ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่ยาวนานถึงหนึ่งปีและสิ้นสุดด้วยการถวายประเทศอิตาลีแด่ดวงพระหฤทัยนิรมลของพระนางมารีย์พรหมจารีย์ในเมืองคาตาเนีย ประเทศอิตาลี พระสงฆ์ที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้คือ คุณพ่อกาเบรียล เอมอธ(Gabriele Amorth) — พระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจอันมีชื่อเสียงแห่งกรุงโรม
คุณพ่อเอมอธซึ่งเสียชีวิตในปี 2014 ในช่วงเวลาที่คุณพ่อปีโอป่วยหนักนั้น,คุณพ่อเอมอธยังไม่ได้เป็นพระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจ ท่านจะเป็นในปี 1986
ดังที่คุณพ่อเอมอธอธิบาย ในบทสัมภาษณ์ขนาดยาวหลายชุด (เผยแพร่ในหนังสือเล่มใหม่และน่าสนใจมากชื่อ Father Amorth: My Battle Against Satan) “ในปี 1958 และ 1959 ผมตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะทำพิธีถวายประเทศอิตาลีแด่พระหฤทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ เนื่องจากผมเป็นผู้จัดงานและเป็นลูกฝ่ายวิญญาณของคุณพ่อปีโออยู่แล้ว ผมจึงจัดการให้มีการนำพระรูปพระแม่มารีย์แห่งฟาติมาไปหาท่าน
“วันที่ 5 สิงหาคม ผมเขียนจดหมายถึงบิชอปแห่งเบเนเวนโตเพื่อขอใช้เวลาหนึ่งในสองวันที่นั่น ท่านบิชอปยอมรับข้อเสนอของผม ดังนั้นผมจึงได้รับกำหนดเวลาในการส่งพระรูปไปให้คุณพ่อปิโอที่ซาน จิโอวานนี รอตตอนโด”
อันที่จริง คุณพ่อเอมอธเคยไปที่ San Giovanni Rotundo และพบกับคุณพ่อปีโอบ่อยครั้ง การสนทนาของคุณพ่อเอมอธกับคุณพ่อปีโอเริ่มขึ้นในปี 1929 และดำเนินไปจนกระทั่งเวลาที่คุณพ่อปีโอถึงแก่กรรมในปี 1968
นั่นหมายความว่าคุณพ่อเอมอธอยู่ภายใต้การคุ้มครองของคุณพ่อปีโอเสมอ และยิ่งไปกว่านั้นคืออยู่ภายใต้การคุ้มครองของพระมารดามารีย์ผู้ซึ่งท่านได้มอบภารกิจของท่านไว้กับพระนาง,และมอบหัวใจทั้งหมดของท่านไว้ภายใต้เสื้อคลุมที่ปกป้องของพระนาง,ในขณะที่คุณพ่อเอมอธออกเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อประกอบพิธีขับไล่ปีศาจหลายร้อยครั้ง ในช่วงปี 1959 ท่านมีส่วนร่วมในการก่อตั้งสถาบัน Marian สามแห่งและช่วยดำเนินการสถาบันนั้นด้วย!
“ผมรู้ว่าไม่มีอะไรที่ผมสามารถทำได้ [ด้วยตัวเอง]!” คุณพ่อเอมอธกล่าว “ดังนั้นผมจึงฝากตัวไว้กับพระแม่มารีย์ และสวดภาวนาว่า ‘โปรดคุ้มครองลูกภายใต้เสื้อคลุมของพระแม่, แล้วลูกจะปลอดภัย!’ หลายครั้งหลังจากนั้น ปีศาจพูดกับผมว่า ‘พวกข้าไม่สามารถทำอะไรแกได้ แกได้รับการปกป้องมากเกินไป!' และผมก็เป็นเช่นนั้น ผมได้รับการคุ้มครองภายใต้เสื้อคลุมของพระแม่มารีย์!”
ในระหว่างการขับไล่ปีศาจ, ปิศาจยังพูดถึง "พระสงฆ์" องค์หนึ่งซึ่งอยู่ที่นั่นและรบกวนพวกมันด้วย - คุณพ่อเอมอธเชื่อว่าปีศาจกำลังพูดถึงความช่วยเหลือพิเศษของ ใช่: นักบุญคุณพ่อปีโอ
พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ทรงถวายพระองค์เองแด่ดวงพระหฤทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ด้วย ที่น่าสนใจคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระรูปเกิดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งกล่าวกันว่าพระแม่มารีย์ทรงประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ในวันเกิดของพระนาง ในเวลาต่อมา,คุณพ่อเอมอธไปเยี่ยมสถานที่แห่งการประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ ซึ่งต่อมาท่านประกาศว่าเป็น “อาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน” เพื่อต่อต้านความชั่วร้าย
พระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ,เพื่อประกอบพิธีถวายโลกแด่ดวงพระหฤทัยนิรมลของพระนางมารีย์เมื่อพระรูปแม่พระแห่งฟาติมาองค์จริงที่ตั้งอยู่ภายในโบสถ์น้อยที่ฟาติมาถูกนำไปยังกรุงโรมในปี 1984 คุณพ่อเอมอธก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย
“พวกเราผู้จัดงานอยู่ในแถวแรก!” ท่านเล่าไว้ในหนังสือ “ผมได้สัมผัสพระหัตถ์ของพระสันตะปาปาขณะที่พระองค์คุกเข่า,และพระองค์ได้ถวายโลกแด่ดวงพระหฤทัยนิรมลของพระแม่มารีย์
“ผมยื่นแขนออกไปแตะรูปปั้นแทน!”
คำพูดก้องอยู่ในหูของเรา: "ผมได้รับการคุ้มครองภายใต้เสื้อคลุมของพระแม่มารีย์!" คุณพ่อเอมอธผู้ซึ่งไม่เคยประสบผลร้ายในระหว่างการประกอบพิธีขับไล่ปีศาจกล่าว ท่านมีชีวิตอยู่จนอายุครบ 91 ปี
[resources: Father Amorth: My Battle Against Satan]
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น