วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

แนวปฏิบัติฝ่ายจิตของนักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล

 


การพลีกรรมในร่างกายและจิตวิญญาณ 
“ผู้ที่รักชีวิตของตนย่อมจะเสียชีวิตนั้น ส่วนผู้ที่พร้อมจะสละชีวิตของตนในโลกนี้ ก็ย่อมจะรักษาชีวิตนั้นไว้สำหรับชีวิตนิรันดร ผู้ใดรับใช้เรา ผู้นั้นจงตามเรามา และเราอยู่ที่ใด ผู้รับใช้ของเราก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ผู้ใดรับใช้เรา พระบิดาประทานเกียรติแก่เขา” 
ยอห์น 12:25-26
 
คณะนักบวชพยายามแสดงออกถึงจิตวิญญาณของตนด้วยคุณธรรม 5 ประการที่มาจากการลียนแบบพระคริสต์ในแบบพิเศษของตนเอง ได้แก่ ความเรียบง่าย, ความอ่อนน้อมถ่อมตน, ความอ่อนโยน, การพลีกรรมเพื่อควบคุมตนเอง, และความกระตือรือร้นต่อจิตวิญญาณ เมื่อพูดถึงคุณธรรมทั้งห้านี้ นักบุญวินเซนต์กล่าวว่า: 'คณะนักบวชควรให้ความสนใจเป็นพิเศษในการพัฒนาและดำเนินชีวิตตามคุณธรรมทั้งห้านี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นจิตวิญญาณของทั้งคณะ พวกเราแต่ละคนอาจได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขาเสมอ' (กฎทั่วไป ii, 14) ธรรมนูญ, 7
 
นักบุญวินเซนต์ไม่ได้บังคับให้ทำพลีกรรมที่ความเข้มงวดหรือยากลำบาก แต่ท่านเชื้อเชิญให้เราทำพลีกรรมทั้งภายนอกและภายใน และให้ปฏิบัติทั้งสองอย่างด้วยจิตวิญญาณแห่งการชดเชยใช้โทษบาป ท่านชอบการพลีกรรมภายในมากกว่า นั่นคือการควบคุมเจตจำนงและการตัดสินผู้อื่น ด้วยประสาทสัมผัสและความโน้มเอียงที่ขโมยอิสรภาพของเราที่จะติดตามพระเยซูและทำงานเพื่อสถาปนาอาณาจักรของพระองค์
 
1. การพลีกรรม: เป็นเงื่อนไขหนึ่งในการติดตามพระเยซู
 
พระเยซูเจ้าทรงแนะนำผู้ที่ปรารถนาจะติดตามพระองค์ให้ถวายตัวแด่พระองค์ 'ท่านต้องการติดตามเราไหม? ดีแล้ว ท่านต้องการเปลี่ยนชีวิตของท่านให้เป็นเหมือนเราไหม? ดีแล้ว. อย่างไรก็ตาม ท่านต้องตระหนักว่าท่านต้องเริ่มต้นด้วยการละทิ้งตัวเองและแบกกางเขนของท่าน’ พระพรนี้มอบให้กับบางคนเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด ในบรรดาคนนับพันที่ติดตามพระเยซูเพื่อฟังพระวาจาของพระองค์ ส่วนใหญ่ละทิ้งพระองค์และปฏิเสธพระองค์ โดยพบว่าเขาไม่คู่ควรที่จะเป็นสาวกของพระองค์ สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะพวกเขาไม่มีจิตใจตามที่พระเยซูเจ้าตรัสว่าจำเป็นต้องมี พวกเขาเลือกที่จะไม่เอาชนะตัวเอง ไม่ปฏิเสธตัวเอง ไม่แบกกางเขน 'เราปรารถนา' พระเยซูตรัสว่า 'ให้ท่านติดตามเรา' แต่มีสองสิ่งที่จำเป็น ประการแรก ปฏิเสธตัวเอง นั่นคือ ละทิ้งอาดัมคนเก่า ประการที่สอง แบกกางเขนของตนและทำเช่นนี้ทุกวัน ตามหลักการเหล่านี้ พิจารณาดูสิว่าท่านสามารถติดตามเราและอยู่ในโรงเรียนแห่งความรักของเราได้ไหม?
 
2. ด้วยเครื่องมือตัดแต่งกิ่งที่อยู่ในมือ
 
สำหรับนักบุญวินเซนต์ การพลีกรรมเป็นสิ่งจำเป็นเสมอในชีวิต แม้เท้าข้างหนึ่งจะอยู่ในสวรรค์แล้ว, ก็ยังมีความจำเป็น ท่านอธิบายเรื่องนี้ให้เราฟังโดยใช้อุปมาเรื่องคนตัดแต่งต้นองุ่น:
 
พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะประทานพระหรรษทานให้เราเป็นเหมือนคนตัดแต่งต้นองุ่นที่ดี ซึ่งมักจะพกมีดไว้ในกระเป๋าเพื่อตัดแต่งกิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นอันตรายต่อต้นองุ่นของเขา เนื่องจากมันแตกกิ่งมากเกินกว่าที่เขาต้องการหรือแตกกิ่งที่ไร้ประโยชน์ออกมา มีดของเขาจึงพร้อมเสมอและมักจะอยู่ในมือเสมอ เพื่อตัดกิ่งเหล่านี้ทันทีที่เขาเห็นมัน ดังนั้นพลังทั้งหมดของสารอาหารจึงสามารถขึ้นสู่กิ่งก้านที่จะเกิดผลได้ เราเองก็เช่นกัน ควรใช้มีดแห่งการพลีกรรมเพื่อตัดกิ่งก้านที่ชั่วร้ายในตัวเราออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเป็นธรรมชาติที่ตกต่ำของเราที่พยายามแตกกิ่งก้านออกมาอย่างต่อเนื่อง พระเยซูคริสต์ทรงเปรียบเทียบพระองค์เองกับลำต้นองุ่น และพระองค์ทรงเปรียบเรากับกิ่งก้านสาขา—กิ่งก้านที่ชั่วร้ายเหล่านี้ในตัวเราขัดขวางไม่ให้พระองค์ทำให้เราบังเกิดผลอย่างมากมายผ่านการประพฤติพรหมจรรย์อันศักดิ์สิทธิ์ คนแต่งสวนองุ่นที่ดีทำงานในสวนองุ่นเป็นเวลานาน เราก็จะเป็นศิษย์ที่ดีของพระเยซูคริสต์เช่นกัน หากเราฝืนความรู้สึกที่ไม่ดีของเราอยู่เสมอ หากเราทำงานเพื่อข่มกิเลสตัณหาของเรา หากเราพยายามทำตามมโนธรรมของเราและควบคุมเจตจำนงของเรา
 
3. ความกล้าหาญ! ความสุขที่ตามมาด้วยความเจ็บปวด
 
ด้วยความกระตือรือร้น,นักบุญวินเซนต์สนับสนุนบรรดามิชชันนารีของท่านให้ทำพลีกรรมทรมานตนเองเพื่อเป็นการควบคุมตนเอง:
 
ความกล้าหาญ! ความสุขตามมาด้วยความเจ็บปวด และยิ่งผู้ซื่อสัตย์ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ทำพลีกรรมทรมานต่อตนเอง รางวัลของพวกเขาก็ยิ่งใหญ่พอๆกับความพยายามของพวกเขา พี่น้องทั้งหลาย ขอให้เราทำงาน เพื่อว่าไม่มีวันใดผ่านไปโดยที่เราไม่ได้ทำพลีกรรมอย่างน้อยสามหรือสี่ครั้ง แล้วเราจะพูดได้อย่างแท้จริงว่าเราติดตามพระเยซูเจ้า เราสมควรจะได้ชื่อว่าเป็นสาวกของพระองค์ เราจะเดินในทางแคบซึ่งนำไปสู่ชีวิต และพระเยซูคริสต์จะปกครองร่วมกับเราในชีวิตที่ตายได้นี้ และเราจะร่วมกับพระองค์ในชีวิตนิรันดร
 
ทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่คำว่าการทำพลีกรรมเท่านั้น แต่แนวคิดเรื่องการทำพลีกรรมเองก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ทันสมัยเสียแล้ว ไม่มีใครเห็นคุณค่าทางจิตวิญญาณของการรับความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานโดยสมัครใจ เราคิดอย่างไรเกี่ยวกับการพลีกรรมรับความทรมานทั้งภายในและภายนอก.
 
เราได้ทำพลีกรรมจริงหรือ? อย่างไร?
 
บทภาวนา:
 
ข้าแต่พระเยซูเจ้า ตลอดชีวิตของพระองค์,พระองค์ต่อสู้กับโลก, เนื้อหนัง, และปีศาจ พระองค์ไม่เคยทำตามน้ำใจของพระองค์เองเลย พระองค์ไม่ทรงให้ความสำคัญกับความต้องการของพระองค์เอง ในพระองค์มีแต่เพียงความทรมานอย่างต่อเนื่องและการละทิ้งทุกสิ่งอย่างเด็ดขาด ขอทรงโปรดประทานพละกำลังแก่เราในการแบกกางเขนแห่งการทำพลีกรรมรับความทุกข์ทรมาน เพื่อติดตามพระองค์อย่างใกล้ชิดและมีชีวิตในพระองค์ทั้งปัจจุบันและตลอดนิรันดร เราวอนขอในพระนามขององค์ พระเยซูผู้ทรงพระชนม์และครองราชย์ร่วมกับพระบิดาและพระจิต พระเจ้าองค์เดียวตลอดไปเป็นนิตย์ 
อาเมน
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น