วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พระจิตเจ้าในชีวิตของเรา

 
 
เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีพระจิตเจ้าในจิตวิญญาณของเรา เฉกเช่นเดียวกับที่วิญญาณขาดชีวิตฝ่ายร่างกายไม่ได้ พระจิตเจ้าก็ขาดไม่ได้กับชีวิตของวิญญาณฉันนั้น ร่างกายไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าได้หากปราศจากวิญญาณ วิญญาณก็ไม่สามารถใช้ความสามารถทางวิญญาณได้หากไม่มีพระจิตเจ้า วิญญาณไม่สามารถเห็น ได้ยิน พูด ลิ้มรส หรือทำงานฝ่ายจิตได้โดยปราศจากพระจิตเจ้า
 
วิญญาณไม่สามารถเห็นบาปและความมุ่งร้ายที่แท้จริงของมันได้ วิญญาณไม่สามารถรับรู้โอกาสบาปและอันตรายของบาป หรือโทษอันน่าสะพรึงกลัวของนรก หรือความชั่วร้ายของโลก และไม่สามารถรับรู้คุณค่าแห่งคุณธรรม, คุณค่าของความดี, ความยิ่งใหญ่ของศีลมหาสนิท, ความงามและความรุ่งโรจน์ของสวรรค์
 
วิญญาณไม่สามารถได้ยินหากไม่มีพระจิตเจ้า วิญญาณไม่สนใจที่จะฟังพระวาจาของพระเจ้า วิญญาณจะพยายามหลีกเลี่ยงคำแนะนำที่ดีของศาสนา หรือถ้าหากได้ยิน,วิญญาณก็จะไม่ยอมเชื่อ, ไม่ประทับใจ,และไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต
 
ปราศจากพระจิตเจ้า, วิญญาณจะพูดไม่ได้ คนที่ปราศจากพระจิตเจ้าจะไม่รักการสวดภาวนา, ไม่ได้รับการบรรเทาใจในการสารภาพบาป ไม่มีความตั้งใจที่จะติดตามพระเยซู ไม่รู้สึกรสชาติทางวิญญาณ ในวิญญาณที่ปราศจากพระจิตเจ้า,บุคคลเช่นนี้ไม่เพลิดเพลินในสิ่งที่เป็นของพระเจ้า, ไม่มีความศรัทธา, ไม่แรงดึงดูดใจที่จะดำเนินชีวิตศักดิ์สิทธิ์
 
หากปราศจากพระจิตเจ้า (นั่นคือ หากไม่อยู่ในสถานะพระหรรษทาน) มนุษย์ก็ไม่สามารถทำงานอันเอื้อต่อความรอดของเขาได้ เขาไม่สามารถละทิ้งนิสัยที่ไม่ดีหรือไม่สามารถดำเนินชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่ว่าเขาจะทำดีอะไรก็ไม่สมควรได้รับชีวิตนิรันดร์ เขาจะไม่ได้รับรางวัลในสวรรค์จากการสวดภาวนา,การอดอาหาร,หรือการทำความดีอื่นๆ
 
การกระทำของพระจิตเจ้าในวิญญาณของมนุษย์คืออะไร? 
และพระหรรษทานใดที่พระองค์ทรงประทานให้?
 
พระจิตเจ้าทรงส่องสว่างความเข้าใจ หากพระจิตเจ้าไม่ส่งแสงแห่งสวรรค์เข้ามาในใจเรา,พระวาจาที่เราอ่านหรือได้ยินก็จะมีประโยชน์เพียงเล็กน้อย
 
พระจิตเจ้าทรงทำให้ความรักของเราศักดิ์สิทธิ์ “โดยทางพระจิตเจ้า” นักบุญยอห์น ไครซอสตอมกล่าวว่า “เราได้รับการอภัยโทษบาปของเรา โดยทางพระองค์ เราได้รับการชำระให้บริสุทธิ์จากรอยมลทินของบาปหนักทั้งหมด โดยพระพรของพระองค์,ผู้ที่ยอมจำนนต่อพระหรรษทานของพระเจ้า จะกลายเป็นทูตสวรรค์ หาใช่พวกเขาเปลี่ยนธรรมชาติของพวกเขา แต่วิเศษไปกว่านั้น,พวกเขายังคงเป็นมนุษย์,ดำเนินเบื้องพระพักตร์พระเจ้าอย่างบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์เหมือนทูตสวรรค์โดยอาศัยพระหรรษทานของพระจิตเจ้า มนุษย์ซึ่งเมื่อก่อนจมอยู่ในโคลนตมแห่งบาป บัดนี้เปล่งประกายมากขึ้น เจิดจรัสยิ่งกว่าดวงอาทิตย์"
 
พระจิตเจ้าทรงเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้กับความตั้งใจที่ดีของเขา ตามพระดำรัสของพระผู้ช่วยให้รอดของเราซึ่งตรัสว่า "แต่พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเรา" (กิจการ 1:8) นักบุญเบอร์นาร์ดกล่าวว่า: "โดยพระพรแห่งพระจิตเจ้า, มนุษย์จะได้รับการปกป้องจากการประจญล่อลวงต่างๆและการเบียดเบียน เขาจะเป็นผู้ที่ไม่อาจเอาชนะได้และปราศจากความกลัว"
 
พระจิตเจ้าทรงปลอบโยนผู้แสวงบุญบนแผ่นดินโลกในการทดลองของพวกเขา,ในความยากลำบาก และความทุกข์ทรมานของพวกเขา ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงทรงเรียกพระจิตเจ้าว่า "พระผู้บรรเทา"
 
พระจิตเจ้าทรงชำระร่างกายของเราให้บริสุทธิ์ และโดยการสถิตอยู่ในวิญญาณของเรา พระองค์ทรงทำให้เราเป็น "พระวิหาร" ของพระองค์ พระจิตเจ้าทรงยกจิตใจของเขาให้สูงส่ง เหตุใดบรรดานักบุญจึงแยกตัวออกจากโลกเล่า? เพราะพวกเขาปล่อยให้พระจิตเจ้าทรงนำทางพวกเขา ผู้ที่พระจิตเจ้าทรงนำทางมีความคิดที่กระจ่างแจ้ง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนโง่เขลาของโลกจำนวนมากจึงฉลาดกว่าผู้รู้ของมัน พระองค์ทรงเป็นกำลังและความสว่างของเรา พระองค์สอนให้เราแยกแยะระหว่างความจริงกับความเท็จ ระหว่างความดีและความชั่ว"
 
ที่มา: Devotion to the Holy Ghost
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น