วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

คุณพ่อปีโอช่วยเด็กที่ถูกปีศาจเข้าสิง

 

ปีศาจอยู่ใกล้คนที่ชอบพูดคำสาปแช่ง
 
บางครั้งเราได้ยินบางคนพูดคำสาปแช่ง เช่น ไปตายซะ ไปลงนรกซะ ไอ้..... บางทีเขาพูดคำพูดเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว แต่เป็นความเคยชินที่ติดเป็นนิสัย พระคัมภีร์เตือนเราว่าอย่าพูดคำสาปแช่งเลย
 
"คนที่ชอบพูดสาปแช่งจะเต็มไปด้วยความชั่ว(บาป) และการเฆี่ยนตีจะไม่พรากไปจากบ้านของเขา" (Eccl. 23:12)
 
ในโรงแรมแห่งหนึ่งในจีโอวันนี รอตตอนโด(Giovanni Rotondo) ผู้เข้ามาพักไม่สามารถพักผ่อนได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกปีศาจเข้าสิงและเธอร้องตะโกนอยู่หลายชั่วโมง
 
ทุกคนต่างกลัวเธอ แม่ของเด็กพาเธอไปโบสถ์ทุกวัน เธอหวังว่าคุณพ่อปีโอจะช่วยปลดปล่อยเด็กให้พ้นจากวิญญาณชั่วร้าย เด็กคนนั้นยังตะโกนเสียงดังในโบสถ์อีกด้วย วันหนึ่ง,เมื่อคุณพ่อปีโอเสร็จสิ้นการฟังสารภาพบาปของผู้เป็นแม่เรียบร้อยแล้ว ท่านก็มาพบกับเด็กหญิงที่กำลังหอนอย่างน่าหวาดกลัวต่อหน้าคุณพ่อ ผู้ชายสองหรือสามคนช่วยกันจับตัวเด็กไว้อย่างยากลำบาก คุณพ่อปีโอรู้สึกรำคาญกับเสียงที่วุ่นวายโกลาหล จึงใช้เท้าของท่านเตะเด็ก จากนั้น,ท่านาก็ตบศีรษะเด็กแล้วพูดว่า "หยุด, พอได้แล้ว!"
 
เด็กล้มลงกับพื้นราวกับว่าเธอนอนหลับ คุณพ่อปีโอบอกหมอที่ยืนอยู่ตรงนั้นให้พาเด็กไปหานักบุญมีคาแอล ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งมอนเต ซานต์ แองเจโล(Monte Sant’Angelo) เมื่อพวกเขาไปถึงสถานที่นั้น,พวกเขาเข้าไปในถ้ำที่นักบุญมีคาแอลเคยประจักษ์มา
 
เด็กหญิงฟื้นขึ้นมาแต่ไม่มีใครสามารถพาเธอเข้าไปใกล้แท่นบูชาของทูตสวรรค์มีคาแอลได้สำเร็จ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย พระสงฆ์ท่านหนึ่งได้จับมือเด็กสัมผัสที่แท่นบูชา เธอล้มลงราวกับว่าเธอถูกฟ้าผ่า ไม่กี่นาทีต่อมา,เธอตื่นขึ้นและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอถามแม่ของเธอว่า "คุณแม่ช่วยซื้อไอศกรีมให้หนูหน่อยได้ไหม"
 
เมื่อถึงจุดนั้น กลุ่มคนเหล่านั้นได้กลับไปที่จีโอวันนี รอตตอนโด เพื่อแจ้งข่าวให้คุณพ่อปีโอและขอบคุณคุณพ่อ แต่คุณพ่อปิโอบอกแม่ของเด็กว่า "จงบอกสามีของลูกว่าอย่าพูดสาปแช่งอีกต่อไป มิฉะนั้นปีศาจจะกลับมา"
 
ปีศาจเป็นเหมือนสุนัขที่ถูกล่ามโซ่ไว้ ตราบใตที่เราอยู่ในระยะห่างจากความยาวโซ่,มันก็ทำร้ายเราไม่ได้ แต่ถ้าเราอยู่ใกล้มันมากเกินไป,เราก็จะถูกมันกัด จำไว้ว่ามีเพียงประตูเดียวที่ปีศาจจะเข้ามาสู่จิตวิญญาณได้ นั่นคือจิตใจของเรา  
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น