โดยนักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์,
นักปราชญ์ของพระศาสนจักร
ที่มาของความไม่สมบูรณ์ครบครันของเราและวิธีแก้ไข
แหล่งที่มาของความไม่สมบูรณ์ครบครันของเราได้แก่...
1. การหลงลืมถึงจุดจบแห่งชีวิต: ประการแรกคือเราไม่ได้คิดถึงเลยหรือคิดถึงแต่เพียงเล็กน้อยถึงจุดจบของชีวิตและกระแสเรียกของเรา เราดำเนินชีวิตราวกับว่าเราถูกวางไว้ในโลกนี้เพื่อมีชีวิตอยู่เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อรับใช้พระเจ้าหรือเพื่อช่วยชีวิตของเราให้รอด ...สวรรค์ไม่ได้มาจากความปรารถนา แต่มาจากการกระทำ
วิธีแก้ไขความหลงลืมนี้: วิธีแก้ไขในเรื่องนี้คือให้พิจารณาบ่อยๆว่าท่านมาจากที่ไหนและกำลังจะไปที่ไหน ท่านมาจากพระเจ้า และท่านกำลังไปหาพระเจ้า นักเดินทางจะคิดถึงแต่จุดหมายปลายทางของเขาไว้ต่อหน้าเสมอ นักแม่นปืนจับจ้องไปที่เป้าหมาย จงให้ดวงตาแห่งวิญญาณของท่านจับจ้องไปที่จุดจบแห่งชีวิตของท่านเสมอ และถามตัวเองบ่อยๆว่า ฉันเข้ามาในโลกนี้เพื่อทำอะไร? ฉันอยู่ในพระศาสนาเพื่อทำอะไร? เพื่อใช้เวลาไปเปล่าๆหรือ หรือเพื่อค่าจ้างที่ดี?
2. การไม่ใส่ใจในวิธีการ: แหล่งที่มาประการที่สองของความไม่สมบูรณ์ครบครันและการหลงละเลิงใจของเราคือแม้ว่าเราจะนึกถึงจุดจบแห่งชีวิตของเราและปรารถนาที่จะไปสู่มันด้วยดี แต่เราไม่ได้ใช้วิธีการที่จำเป็น การกระทำของเราทำให้เราสมบูรณ์ครบครันและได้รับสวรรค์ การกระทำที่ดีไม่เพียงต้องสวยงามและดูดีเท่านั้น แต่ยังต้องดูดีจากภายในด้วย นั่นคือ จะต้องกระทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ เที่ยงธรรม มีความตั้งใจที่ดี; จะต้องเคลื่อนไหวโดยจิตวิญญาณภายใน ซึ่งหมายถึงการที่วิญญาณกระทำในร่างกาย ชีวิตของเราก็คือการกระทำของเรา และความสมบูรณ์ครบครันแห่งชีวิตของเราขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ครบครันแห่งการกระทำของเรา
วิธีแก้ไขสำหรับการไม่ใส่ใจ: เพื่อแก้ไขความผิดนี้ให้หมั่นพิจารณาการกระทำของท่านด้วยแรงจูงใจที่ดี,ด้วยเจตนาที่เที่ยงตรงบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์,ด้วยความตั้งใจทั้งหมดของท่านและด้วยความรักทั้งหมดของหัวใจของท่าน ราวกับว่าการกระทำแต่ละอย่าง เป็นวาระสุดท้ายในชีวิตของท่าน เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าสายพระเนตรของพระเจ้ากำลังจับจ้องมาที่ท่าน และพระองค์กำลังรอคอยการรับใช้ของท่าน
จงไตร่ตรองความคิดต่อไปนี้บ่อยๆ, ซึ่งจะช่วยให้ท่านทำมันได้ดี: พระเจ้าทรงประสงค์ให้ท่านมีส่วนร่วมในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ด้วยการกระทำนี้; ...พระองค์ทรงมีพระหรรษทานที่จะทรงประทานให้เป็นพิเศษสำหรับการกระทำนี้ ...โดยการกระทำนี้พระองค์จะทรงรับรู้ว่าท่านรักพระองค์หรือไม่ ...ท่านกำลังรับใช้พระองค์ด้วยการกระทำนี้อย่างดี ...พระปรีชาญาณของพระองค์ได้ควบคุมการกระทำนี้ตั้งแต่ชั่วนิรันดร์ ...ความยิ่งใหญ่อันไร้ขอบเขตของพระองค์ทำให้การกระทำนี้สูงส่งยิ่งขึ้น ....ความศักดิ์สิทธิ์ที่น่ารักของพระองค์ทำให้การกระทำนี้ศักดิ์สิทธิ์ ...โดยอาศัยพระราชอำนาจของพระองค์จะกำหนดการกระทำนี้ ...ให้ท่านตอบสนองความรักของพระองค์ด้วยการกระทำนี้อย่างดี ...การมีใจสงบของท่านขึ้นอยู่กับการกระทำนี้ ...บุญกุศลของท่านมีอยู่ในการกระทำนี้ ...ท่านจะทำให้พระเจ้าทรงขุ่นเคืองพระทัยหากท่านล้มเหลวในการดำเนินการนี้ ...ท่านจะขาดจากพระหรรษทานซึ่งควรได้รับจากการกระทำนี้ ...บางทีความรอดของท่านอาจขึ้นอยู่กับการกระทำนี้ ดังนั้นท่านควรคิดแต่เพียงว่าจะทำสิ่งนี้ให้ดี
3. ต้องการความทรงจำ: แหล่งที่สามของความไม่สมบูรณ์ครบครันของเราคือต้องการความทรงจำและความสนใจในตัวเรา ...จิตใจโบยบินไปสู่สมบัติของตน “สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน จิตใจของท่านก็อยู่ที่นั่น” จงคิดแต่สิ่งที่ปรารถนา หากเรารักพระเจ้า เราจะนึกถึงพระองค์อย่างไม่หยุดยั้งและเต็มใจที่จะอยู่ร่วมกับพระองค์ และในขณะที่พระองค์อยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณของเรา หากเรารักพระองค์ จิตใจของเราจะไม่ออกไปไหน หรือจะกลับมาทันทีหากมันพเนจรไป ...เราไปต่างประเทศเพื่อแสวงหาการปลอบประโลมจากสัตว์โลกอยู่เสมอ วิญญาณที่สลายไปก็เหมือนแกะที่พเนจร ซึ่งสุดท้ายก็ถูกหมาป่ากิน
#Catholic 4 Life
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น