การช่วยเหลือวิญญาณในไฟชำระ— ถือเป็นภาระหน้าที่ที่ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นกิจการแห่งความรักเท่านั้น แต่ยังเถือป็นการกระทำตามความยุติธรรมด้วย—
เราพิจารณาว่าการช่วยเหลือวิญญาณในไฟชำระเป็นกิจการแห่งความรัก การสวดภาวนาเพื่อผู้ตายเป็นงานศักดิ์สิทธิ์,เพราะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและถือเป็นคุณธรรมและความรักที่ดีเยี่ยม การแสดงความรักต่อผู้จากไปนี้ไม่ใช่เป็นทางเลือกและคำแนะนำให้ทำเท่านั้น แต่ยังเป็นความดีที่ต้องทำและมีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าการให้ทานแก่ผู้ยากไร้
เหตุการณ์ต่อไปนี้ซึ่งเรานำมาจากเรื่องราวของโทมัสแห่งกันติมเปร(Thomas of Cantimpre)ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าทายาทที่ฉ้อโกงคนตายมีความผิดมากเพียงใดในสายพระเนตรของพระเจ้า
ในช่วงสงครามของชาร์ลมาญ, ทหารผู้กล้าหาญผู้หนึ่งได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งที่สำคัญและมีเกียรติที่สุด เขาเป็นคริสตชนที่แท้จริง เมื่อมีอายุมากแล้ว,เขาได้ล้มป่วย เมื่อเห็นว่าวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงแล้ว,เขาจึงเรียกหลานชายกำพร้า,ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นพ่อ,ให้เข้ามาที่ข้างเตียง และบอกความปรารถนาก่อนตายแก่หลานชายว่า “ลูกเอ๋ย” เขาพูด “ลูกก็รู้ว่าลุงไม่มีทรัพย์สมบัติที่จะยกมรดกให้แก่ลูก ลุงไม่มีอะไรนอกจากอาวุธและม้าของลุง อาวุธของลุงมีไว้เพื่อเจ้า ส่วนม้าของลุงนั้น,จงขายมันไปเมื่อลุงได้คืนดวงวิญญาณแด่พระเจ้าแล้ว และแจกจ่ายเงินแก่พระสงฆ์และคนยากจน เพื่อที่พระสงฆ์จะได้ถวายเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับลุง และคนยากจนอาจช่วยลุงด้วยการสวดภาวนาของพวกเขา"
หลานชายร้องไห้และสัญญาว่าจะดำเนินการตามความปรารถนาสุดท้ายของลุงผู้มีพระคุณที่กำลังจะตายโดยไม่ชักช้า ชายชราได้เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน หลานชายก็ครอบครองอาวุธและนำม้าออกไป มันเป็นสัตว์ที่สวยงามและมีค่ามาก แทนที่จะขายมันทันทีตามที่เขาสัญญากับลุงผู้ล่วงลับของเขา เขาเริ่มใช้มันสำหรับการเดินทางระยะสั้น และด้วยความที่เขาพอใจกับมัน เขาจึงไม่ต้องการที่จะขายมันในเวลานั้น
หกเดือนผ่านไป เช้าวันหนึ่ง,วิญญาณผู้ตายปรากฏตัวต่อเขาโดยดุด่าเขาอย่างรุนแรง “เจ้าคนไม่มีความสุข” เขาพูด “เจ้าละเมิดสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ไว้ตอนที่ลุงเสียชีวิต พิธีมิสซาที่เจ้าควรจะขอให้อยู่ที่ไหน? ทานที่เจ้าควรจะแจกจ่ายให้คนยากไร้เพื่อเป็นบุญกุศลให้แก่ลุงอยู่ที่ไหน? เพราะความประมาทเลินเล่อของเจ้า ลุงจึงถูกทรมานอย่างไม่เคยได้รับมาก่อนในไฟชำระ ในที่สุด,พระเจ้าทรงสงสารลุง วันนี้ลุงมีความสุขที่ได้อยู่ร่วมกับผู้ได้รับพระพรในสวรรค์แล้ว แต่เจ้าจะถูกพิพากษาลงโทษอย่างยุติธรรมโดยพระเจ้า เจ้าจะตายในอีกไม่กี่วันและถูกทรมานแบบเดียวกับที่ลุงได้รับถ้าหากพระเจ้าไม่เมตตาลุง เจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานเป็นระยะเวลาเดียวกับที่ลุงควรได้รับ หลังจากเสียชีวิตเจ้าจะเริ่มต้นรับความทุกข์ทรมานเพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง
ไม่กี่วันต่อมา หลานชายก็ล้มป่วยอย่างหนัก เขาเรียกหาพระสงฆ์ทันทีเพื่อเล่านิมิตให้พระสงฆ์ฟัง และสารภาพบาปของเขาพร้อมกับร้องไห้อย่างขมขื่น "ผมจะต้องตายในไม่ช้า" เขาพูด "และผมก็ยอมรับความตายจากพระหัตถ์ของพระเจ้า,เป็นการตีสอนที่ผมสมควรได้รับแล้ว" เขาสิ้นใจด้วยความรู้สึกสำนึกผิดอย่างยิ่ง นี่เป็นเพียงส่วนน้อยของความทุกข์ซึ่งเกิดแก่เขาเพื่อลงโทษในความอยุติธรรมของเขา เราตัวสั่นด้วยความสยดสยองเมื่อนึกถึงการลงโทษส่วนที่เหลือซึ่งเขากำลังจะประสบในอีกชีวิตหนึ่ง
#Catholic 4 Life
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น