วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

การช่วยวิญญาณให้รอด

 


นักบุญแอนโทนี(แห่งปาดัว)มีวิธีในการฟื้นฟูจิตใจของผู้คน เขาสร้างแท่นบูชาในที่โล่งและประกอบพิธีมิสซาบนแท่นบูชาที่ตั้งไว้ เขาถือไม้กางเขนขนาดเล็กไว้ในมือทุกครั้งที่ประกอบพิธีมิสซา การประกอบพิธีมิสซาวิธีนี้สัมผัสหัวใจของประชาชนทุกคนและคำเทศน์ที่เขาพูดออกไปก็เต็มไปด้วยความรัก,พระพร,ความเห็นอกเห็นใจ,และความอบอุ่น ทุกคนที่ได้ฟังต่างก็ประทับใจ ประชาชนเป็นจำนวนมากพากันมาหาเขาเพื่อสารภาพบาป เมื่อเขาแจกศีลมหาสนิทแก่คริสตชน, เขาทำให้จิตใจของผู้นั้นดีขึ้น และ ผู้มีความเชื่อก็เพิ่มพูนความสัมพันธ์ที่ดีต่อเขาโดยธรรมชาติ
 
คณะโดมินิกันมีจุดมุ่งหมายและรูปแบบการทำงานเหมือนกับคณะฟรังซิสกัน แอนโทนี,ศิษย์ของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี,รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างสองคณะนี้ สิ่งที่เขาไม่ได้คิดถึงก็คือเขามีความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเห็นอกเห็นใจของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีในระดับที่สูง พร้อมทั้งมีทักษะการเทศน์และความรอบรู้ของนักบุญโดมินิก,ตลอดจนความบริสุทธิ์ของจิตใจและความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ในการปลดปล่อยวิญญาณจากบาปของนักบุญทั้งสอง. เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนมาชุมนุมกันต่อหน้าเขาเพื่อฟังคำเทศน์ของเขา เขาประเมินความยึดติดในบาปของประชาชนและเทศน์ตามลักษณะเช่นนั้น เขามักจะเน้นย้ำถึงคุณค่าของความจริง ดังนั้นเขาจึงแยกแยะความจริงออกจากความเชื่อผิดๆ
 
แอนโทนี่เปรียบเทียบนักเทศน์กับชาวนา คันไถของชาวนาเป็นพระวาจาของพระเจ้า และผืนดินที่เขาไถก็เป็นจิตวิญญาณของมนุษย์
 
เขาเตือนสติบรรดาพระสงฆ์ดังนี้ “ท่านทั้งหลายที่ออกไปประกาศพระวรสารควรอ่านทั้งพระคัมภีร์เดิมและพันธสัญญาใหม่ของพระคัมภีร์อย่างถี่ถ้วน ชีวิตของท่านควรเป็นแบบอย่างตามพระวาจาของพระเจ้า ท่านต้องเอาใจใส่ให้มากขึ้นเพื่อช่วยวิญญาณให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มากกว่าที่จะพัฒนาทักษะในการเทศน์ ยิ่งท่านเติบโตในคุณธรรมมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งส่งผลต่อคำเทศน์ของท่าน,ต่อชีวิตที่ดีและความชอบธรรมของท่านมากเท่านั้น ท่านควรจะเป็นพยานในการเทศน์ของท่าน ท่านควรแสดงความสนใจอย่างมากในการยื่นมือช่วยเหลือผู้ที่ตกต่ำในชีวิตและปลอบโยนผู้ที่ร้องไห้ ท่านควรสนใจเป็นพิเศษในการประกอบพิธีมิสซาด้วยความศรัทธาและความอ่อนน้อมถ่อมตนสูงสุด"
 
แอนโทนีเคยสวดภาวนาต่อไปนี้ก่อนที่เขาจะเริ่มเทศน์ และยังส่งเสริมให้พระสงฆ์สวดด้วย: "โอ องค์แสงสว่างของโลก พระบิดานิรันดร พระองค์ทรงเป็นผู้ประทานปรีชาญาณและฤทธิอำนาจ! พระองค์ทรงมีพระเมตตากรุณาประทานพระพรแก่เราด้วยพระเมตตาและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ พระองค์ทรงสร้างความสว่างและความมืดโปรดยื่นพระหัตถ์ของพระองค์แตะลิ้นของข้าพเจ้าและทำให้มันคมเหมือนดาบที่ชักออกมา โปรดประทานพลังแห่งพระจิตของพระองค์และทำให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าใจสิ่งดีๆได้ โปรดประทานพละกำลังฝ่ายจิต พลังแห่งความจำ และความแน่วแน่ในความเชื่อของข้าพเจ้าที่จะสวดภาวนาต่อพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจของข้าพเจ้าและเทศน์สอนพระวรสารของพระองค์แก่ผู้มีความเชื่ออย่างซื่อสัตย์,อย่างฉลาดและอย่างรอบคอบด้วยเถิด อาแมน"
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น