วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2566

นักบุญบาร์โธโลมิว อัครสาวก

 



นักบุญบาร์โทโลมิวอัครสาวก, ฉลองวันที่ 24 สิงหาคม
 
แม้ว่านักบุญโทมัสอัครสาวกจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการเดินทางไปแพร่ธรรมในอินเดียก็ตาม แต่ก็มีอัครสาวกอีกท่านหนึ่งที่มีการเดินทางเผยแพร่ศาสนาที่คล้ายกัน ตามธรรมประเพณีที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 4,นักบุญบาร์โธโลมิวก็ไปอินเดียด้วย
 
ในการเดินทางเผยแพร่ศาสนาของนักบุญบาร์โธโลมิวยังประเทศอินเดีย เมื่อท่านพบว่าบรรดาวิหารในอินเดียมีปีศาจอาศัยอยู่มากมาย ดังนั้นท่านจึงทำการไล่ผีปีศาจเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เรื่องราว.oยุคกลางที่เรียกว่า The Golden Legend เล่าถึงตำนานหนึ่งที่นักบุญบาร์โธโลมิวทำการชำระวิหารของอินเดียให้บริสุทธิ์ ตามตำนานเล่าว่า...
 
อัครสาวกบาร์โธโลมิวเดินทางไปอินเดีย … ท่านเข้าไปในวิหารแห่งหนึ่งซึ่งมีรูปเคารพชื่อแอสทารอธ(Astaroth,)และเริ่มพักอยู่ที่นั่นเหมือนผู้แสวงบุญ ในเทวรูปนี้มีปีศาจตนหนึ่งสิงอยู่ซึ่งกล่าวว่ามันรักษาคนป่วย แม้ว่ามันจะไม่ได้รักษาผู้คนอย่างแท้จริงๆ แต่เพียงหยุดทำร้ายพวกเขาเท่านั้น
 
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของบาร์โธโลมิวได้ขัดขวางแผนการของปีศาจ และผู้คนก็พากันสับสน
 
เมื่อวิหารเต็มไปด้วยคนป่วย และมีการถวายเครื่องบูชาทุกวันสำหรับคนอ่อนแอที่ถูกนำมาจากดินแดนห่างไกล แต่พวกเขาไม่ได้รับการตอบสนองจากรูปเคารพ ดังนั้นพวกเขาจึงไปยังอีกเมืองหนึ่งซึ่งมีการบูชารูปเคารพชื่อ Berith และถามรูปเคารพนี้ว่าทำไม Astaroth ถึงไม่โต้ตอบสนองคำวอนขอของพวกเขา เบริทตอบว่า “เทพเจ้าของเราถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ไฟ และไม่กล้าหายใจหรือพูดตั้งแต่วินาทีที่อัครสาวกบาร์โธโลมิวเข้ามา”
 
สิ่งนี้ทำให้คนในท้องถิ่นออกตามล่าเพื่อพยายามตามหาบาร์โธโลมิวและขับไล่เขาออกจากวิหารของพวกเขา ขณะที่พวกเขาค้นหา,บาร์โธโลมิวได้พบกับกษัตริย์ท้องถิ่นองค์หนึ่งและเริ่มเทศนาข่าวดี(พระวรสาร)แก่พระองค์ กษัตริย์ทรงฟังอย่างตั้งใจ เมื่อบาร์โทโลมิวเทศน์เรื่องความลึกลับแห่งความเชื่อต่อกษัตริย์ บาร์โธโลมิวบอกพระองค์ว่าถ้าพระองค์เลือกที่จะรับศีลล้างบาป, เขาจะให้พระองค์ดูเทพเจ้าของพระองค์ที่ถูกล่ามด้วยโซ่ไฟ วันรุ่งขึ้น, เมื่อสมณะฮินดูถวายสักการะแก่รูปเคารพใกล้พระราชวัง, ปีศาจก็เริ่มร้องตะโกนว่า "เจ้าคนโง่เขลาที่น่าสงสาร หยุดเสียเถิด เลิกบูชาเราเสีย มิฉะนั้น เจ้าจะได้รับความทรมานยิ่งกว่าคนเหล่านั้นที่ฉันทรมานพวกเขาอยู่ ทูตสวรรค์ของพระเยซูคริสต์พันตัวฉันไว้ด้วยโซ่เพลิง” … จากนั้นทุกคนก็เอาเชือกดึงรูปเคารพให้ล้มลง,แต่ทำไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม, อัครสาวกได้สั่งให้ปีศาจออกมาจากรูปเคารพและทำลายมันทิ้ง เจ้าปีศาจก็ออกมาจากรูปเคารพและทำลายรูปเคารพทั้งหมดในวิหารโดยตัวมันเอง อัครสาวกอธิษฐานภาวนาและรักษาผู้ป่วยทุกคน แล้วจึงอุทิศถวายวิหารแด่พระเจ้า และสั่งให้ปีศาจออกไปในถิ่นทุรกันดาร
 
ต่อมากษัตริย์และครอบครัวของพระองค์ได้รับศีลล้างบาป และหลังจากการผจญภัยอีกสองสามครั้งในอินเดีย, อัครสาวกบาร์โธโลมิวก็ออกเดินทางไปอาร์เมเนีย ซึ่งในที่สุดท่านก็จะพบกับความทุกข์ทรมานและกลายเป็นมรณสักขี
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น