วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2566

แม่พระแห่งน็อค,ไอร์แลนด์

 



วันที่ 21 สิงหาคม เราระลึกถึงการประจักษ์ของแม่พระที่หมู่บ้านน็อคในประเทศไอร์แลนด์ อ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงของผู้ที่เห็นการประจักษ์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1879
 
บ่อยครั้งเมื่อแม่พระทรงปรากฏต่อบุคคลในการเปิดเผยเป็นการส่วนตัว พระนางจะเปิดเผยพระองค์ต่อคนจำนวนไม่มากนัก พระมารดามักจะประจักษ์แก่คนเพียง 1 หรือ 2 คนเท่านั้น
 
อย่างไรก็ตาม ในเมืองน็อค ประเทศไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1879 พระแม่มารีย์ทรงประจักษ์ต่อผู้คนจำนวนมาก การประจักษ์ของพระนางมารีย์อย่างเปิดเผยต่อสาธารณะและมีหลายคนที่ได้เห็นพระนางในคืนที่น่าอัศจรรย์นั้น
 
คนที่ได้เห็นแม่พระนั้นจะถูกสัมภาษณ์และเรื่องราวของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ The Apparitions and Miracles at Knock ซึ่งจัดพิมพ์ในปี 1880 ไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากการประจักษ์ครั้งแรก
 
ด้านล่างนี้คือตัวอย่างบางส่วนที่นำมาจากหนังสือเล่มนั้น โดยเน้นเรื่องราวต่างๆของเหตุการณ์ที่น่าสนใจ
 
ผมชื่อแพทริค ฮิลล์(Patrick Hill) ผมอาศัยอยู่ที่ Claremorris แต่ป้าของผมอาศัยอยู่ที่น็อก(Knock) ผมจำวันที่ 21 สิงหาคมปีที่แล้วได้เป็นอย่างดี ในวันนั้นผมกำลังดึงหญ้าหรือพีทออกจากบึง ขณะอยู่ที่บ้านป้าของผมเวลาประมาณ 8 โมงเย็น โดมินิค เบียร์น์ได้เข้ามาในบ้าน เขาร้องออกมาว่า “มาที่โบสถ์น้อยเร็วและดูแสงอันน่าอัศจรรย์และภาพที่สวยงามที่จะมองเห็นได้ที่นั่น” … เราวิ่งไปด้วยกัน ไปทางโบสถ์ เมื่อเราวิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มาไกลจากหมู่บ้านมาก พอเลี้ยวบริเวณหน้าจั่วก็มองเห็นแสงไฟทันที มีแสงสีขาวใสปกคลุมหน้าจั่วตั้งแต่พื้นจนถึงหน้าต่างและสูงขึ้นไป มันเป็นแสงเจิดจ้าที่เปลี่ยนไปซึ่งบางครั้งขึ้นสูงแล้วก็ลงต่ำไม่สูง เราเห็นพระแม่มารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ นักบุญยอแซฟ และนักบุญยอห์น และแท่นบูชาที่มีลูกแกะอยู่บนแท่นบูชาและมีไม้กางเขนอยู่ด้านหลังลูกแกะ
 
ผมเห็นพระนางมารีย์พรหมจารีย์,ขนาดเท่าคนจริงยืนเหนือพื้นดินประมาณ 2 ฟุต ทรงอาภรณ์เสื้อคลุมสีขาว,ซึ่งผูกตั้งแต่ที่คอ, มือของพระนางทรงยกขึ้นจนสูงเท่ากับไหล่ ราวกับว่ากำลังอธิงษฐานถาวนาโดยให้ฝ่ามือหันเข้าหากัน แต่เอียงเข้าด้านในเข้าหาใบหน้า ฝ่ามือไม่ได้หันเข้าหาผู้คน แต่หันหน้าเข้าหากันดังที่ผมได้อธิบายไปแล้ว ดูเหมือนพระนางกำลังสวดภาวนาดวงตาของพระนางมองขึ้นไปสู่สวรรค์ พระนางทรงสวมมงกุฎอันวิจิตรงดงามบนศีรษะของพระนางและเหนือหน้าผากซึ่งมงกุฎนั้นประดับด้วยดอกกุหลาบอันสวยงามที่ส่วนของหน้าผาก มงกุฎนั้นดูเจิดจ้าและมีสีทองเจิดจรัสที่มีเฉดสีเข้มกว่า ค่อนข้างไปทางสีเหลืองอ่อนกว่าเสื้อคลุมสีขาวอันโดดเด่นที่พระนางทรงสวม ส่วนบนของมงกุฎดูเหมือนจะเป็นชุดของประกายไฟหรือไม้กางเขนที่แวววาว
 
ฉัน, Mary M. Loughlin อาศัยอยู่ที่ Knock ฉันเป็นแม่บ้านประจำโบสถ์ของคุณพ่อคาวานาห์(Rev Archdeacon Cavanagh.) ฉันจดจำตอนเย็นของวันที่ 21 สิงหาคม เวลาประมาณเจ็ดโมงหรือประมาณนั้นเล็กน้อยในขณะที่ยังเป็นวันที่สดใส ฉันเดินผ่านจากบ้านของคุณพ่อซึ่งอยู่ข้างโบสถ์น้อย,ไปยังบ้านของหญิงม่ายนางเบียร์น เมื่อเดินผ่านโบสถ์น้อยและอยู่ห่างจากโบสถ์เล็กน้อย ฉันเห็นรูปแปลกๆจำนวนมากหรือรูปร่างหน้าตาแปลกๆมากมายที่หน้าจั่ว เช่น พระนางมารีย์พรหมจารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ และคนหนึ่งเหมือนนักบุญยอแซฟ พระสังฆราชอีกคนหนึ่งที่ฉันเห็นและแท่นบูชา ตอนนั้นฉันบอก Miss Beirne ให้ไปหาลุงของเธอ Bryan Beirne และป้าของเธอ Mrs Bryan Beirne หรือเพื่อนบ้านคนใดก็ตามที่เธอควรไปพบเพื่อที่พวกเขาจะได้เห็นภาพซึ่งจะทำให้พวกเขายินดีในขณะนั้น
 
ผมเป็นน้องชายของแมรี่ เบียร์น ซึ่งได้ให้บอกเล่าสิ่งที่เธอได้เห็นไปแล้ว ผมอาศัยอยู่ใกล้โบสถ์น็อค ผมมีอายุยี่สิบปี ผมเห็นรูปภาพสามรูปที่ได้พรรณนาไว้แล้ว คือ แม่พระ นักบุญยอแซฟ นักบุญยอห์น ตามที่พี่สาวของผมเรียกว่าเป็นพระสังฆราช ซึ่งมีลักษณะเหมือนผู้เทศน์สอนโดยยกมือชี้ไปที่ไหล่ นิ้วชี้และนิ้วกลางก็ชี้ด้วย อีกสองนิ้วถูกทับด้วยนิ้วหัวแม่มือ ด้านซ้ายของเขาถือหนังสือ เขาหันหน้าไปมอง,ครึ่งหนึ่งมองไปทางแท่นบูชาและอีกครึ่งหนึ่งมองไปทางผู้คน สามารถมองเห็นตาของเขาได้,ดูเหมือนรูปคน,แต่เขาไม่ได้พูดอะไร ผมเต็มไปด้วยความประหลาดใจกับภาพที่เห็น ผมรู้สึกประทับใจมากจนน้ำตาไหล ผมมองดูต่อไปอีกหนึ่งชั่วโมงเต็มแล้วจึงไปเยี่ยมคุณนายแคมป์เบลล์ซึ่งอยู่ในสภาพกำลังจะตาย เมื่อเรากลับมา ภาพนิมิตนั้นก็หายไป
 
เรื่องราวของพยานผู้เห็นเหตุการณ์อื่นๆยังมีอีกจำนวนมากซึ่งได้เพิ่มรายละเอียดต่างๆเข้ามา แต่ทั้งหมดมีความสอดคล้องกันอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนชราหรือเด็กก็ตาม ทุกคนเห็นนิมิตอันอัศจรรย์และชีวิตพวกเขาเปลี่ยนไปจากประสบการณ์นั้น
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น