วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566

พิจารณาไตร่ตรองเรื่องพระเจ้า

 


ผู้มีความเชื่อในพระเจ้าพึงพิจารณาไตร่ตรองความจริงของพระเจ้าในเรื่องต่อไปนี้ ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยให้เรามีความยำเกรงพระเจ้า และมีความรักมั่นคงในพระองค์ยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยขจัดความสงสัยออกไปเมื่อเราได้พิจารณาในเรื่องนี้ ความจริงดังกล่าวได้แก่
 
1 พระเจ้าทรงอยู่เหนือธรรมชาติ 
2 ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าไม่มีที่สิ้นสุด 
3 แผนการณ์ของพระเจ้าไม่อาจคาดเดาได้
 
ให้เราเริ่มต้นพิจารณาในประเด็นแรก
 
พระเจ้าทรงอยู่เหนือธรรมชาติ - และพระเจ้าทรงสร้างธรรมชาติขึ้นมา อันได้แก่ จักรวาลทั้งมวล สิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต สิ่งที่มองเห็นได้และมองเห็นไม่ได้ พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่งตั้งแต่สิ่งที่เล็กที่สุด ไปจนถึงสิ่งที่ใหญ่ที่สุด สิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นมีมากมายเหลือคณานับ และยังแตกต่างกันมากมาย พระองค์ยังได้วางระบบระเบียบไว้ให้แก่ธรรมชาติ พระองค์ทรงล่วงรู้ถึงสิ่งที่ทรงสร้างและจำนวนทุกสิ่งที่ทรงสร้างอย่างแท้จริงแน่นอน พระเจ้ามิได้ทรงอยู่ในธรรมชาติแต่อยู่เหนือธรรมชาติ พระองค์จึงเป็นผู้เดียวที่สามารถบังคับหรือเปลี่ยนแปลงธรรมชาติให้เป็นตามที่ทรงประสงค์ และนี่นำเราไปสู่ประเด็นที่สอง
 
ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าไม่มีที่สิ้นสุด – ให้เราดูที่รูปภาพต่อไปนี้
 
นัยน์ตาของมนุษย์มีองค์ประกอบที่เรียกว่า Eye Ball (ดวงตา) เป็นรูปกลมๆมีขนาดประมาณ 6 ลูกบาศก์เซนต์และหนัก 7.5 กรัม ดวงตาเป็นอวัยวะหนึ่งที่มีความซับซ้อนซึ่งทำหน้าที่ตอบสนองต่อแสง นอกจากนี้ตายังแยกแยะสีได้ถึง10ล้านสี และมีการเคลื่อนไหวมากกว่า 200,000 ครั้งต่อวัน จอประสาทตาของมนุษย์(Retina)มีขนาดพื้นที่น้อยกว่า 1ตารางนิ้วแต่ประกอบด้วยเซลส์รับแสงถึง 137,000,000 เซลส์
 
มาดูรูปที่ 2
 
นี่คือดาราจักร หรือ Galaxy ดาราจักรของเราเป็นดาราจักรขนาดใหญ่ จัดอยู่ในชนิดก้นหอยมีคาน มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 30 กิโลพาร์เซก และหนาประมาณ 1 กิโลพาร์เซก มีดาวฤกษ์อยู่ประมาณ 200,000 ล้านดวง และมีมวลรวมประมาณ 600,000 ล้านเท่าของมวลดวงอาทิตย์
 
ยิ่งเราค้นหาจักรวาลลึกซึ้งมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งพบกาแล็กซี่มากขึ้นเท่านั้น งานศึกษาเมื่อปี 2016 ประมาณการณ์ว่าจักรวาลที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ประกอบไปด้วย 2 ล้านล้านกาแล็กซี่
 
สิ่งนี้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่เราค้นพบ ในจักรวาลยังมีความลับอีกมากมายซึ่งใช้เวลาเป็นล้านปีก็คงไม่สามารถค้นพบได้หมด
 
เมื่อเราพิจารณาถึงจำนวนของเซลส์ในดวงตาที่มีอยู่อย่างมากมายในพื้นที่น้อยกว่า 1 ตารางนิ้ว,แล้วจำนวนเซลส์ในร่างกายเล่าจะมีมากมายสักเท่าไร เมื่อพิจารณาดวงดาวในกาแล็กซี่,และจำนวนกาแล็กซี่ในจักรวาลซึ่งมากมายนับไม่ถ้วนเกินจินตนาการของมนุษย์ ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าด้วยพระปรีชาญาณและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ทุกสิ่งเกี่ยวโยงกับพระเจ้า,ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าฤทธิ์อำนาจของพระเจ้านั้นไม่มีที่สิ้นสุด
 
ประเด็นที่ 3
 
แผนการณ์ของพระเจ้าไม่อาจคาดเดาได้ – พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาไม่ใช่เพื่อความสนุกสนาน หรือเพื่อเป็นการทดสอบทดลองแต่อย่างใด พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์มีเป้าหมายที่ชัดเจน พระองค์มีจุดประสงค์เฉพาะในการสร้างสิ่งต่างๆแต่ละชนิด สิ่งที่ไม่มีชีวิตและสิ่งที่มีชีวิต ตั้งแต่สิ่งเล็กน้อยอย่างเช่นจุลินทรีย์ เซลส์อะมีบา ไปจนถึงสิ่งที่ใหญ่โตเช่น พืช,สัตว์,และมนุษย์ ทุกอย่างอยู่ในระบบของธรรมชาติที่พระเจ้าทรงออกแบบสร้างขึ้นด้วยพระปรีชาญาณ 
แต่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์อย่างพิเศษแตกต่างจากสิ่งอื่นๆ โดยสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ มนุษย์จึงอยู่เหนือทุกสิ่งในธรรมชาติ เราไม่อาจรู้ถึงแผนการณ์ในการทรงสร้างของพระเจ้าได้ แต่พระเจ้าเองทรงเปิดเผยแผนการณ์ให้เรารู้ในพระคัมภีร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระคริสตเยซู นั่นคือพระเจ้าทรงรักมนุษย์มากจนถึงกับทรงส่งพระบุตรของพระองค์,พระวจนาตถ์,พระเยซู,มาบังเกิดเป็นมนุษย์ และมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา พระเจ้าผู้อยู่เหนือธรรมชาติ,ได้มาอยู่ในธรรมชาติ และพระเยซูทรงเปิดเผยแผนการณ์ของพระเจ้าให้เราทราบว่า เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้าและเมื่อเราเป็นบุตร,เราก็เป็นทายาท เมื่อเป็นทายาทเราก็มีสิทธิที่จะรับมรดกของพระเจ้าได้ มรดกของพระเจ้าก็คือสง่าราศีรุ่งเรืองในสวรรค์
 
ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้ามักมีคำถามเสมอว่า ในเมื่อพระเจ้าสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมา แล้วใครล่ะที่สร้างพระเจ้า? นี่ถือเป็นคำถามยอดฮิตของคนเหล่านี้ ซึ่งคำตอบย่อมมีอยู่อย่างแน่นอน
 
เรามนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาให้มีสติปัญญาหาเหตุผล แต่เหตุผลของเรานั้นอ้างอิงกับสิ่งที่เป็นอยู่ในธรรมชาติ เพราะเรามีประสบการณ์แต่สิ่งที่อยู่ในธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งจากประสบการณ์ของเรา สิ่งต่างๆล้วนมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวัฏจักร เขาจึงคิดว่าพระเจ้าก็อยู่ในวัฏจักรนี้ด้วย  แต่ตรงกันข้าม,พระเจ้าทรงอยู่เหนือธรรมชาติ พระองค์เองเป็นผู้สร้างธรรมชาติในระบบวัฏจักรนี้ และพระองค์ไม่ได้อยู่ในธรรมชาตินี้ พระองค์ทรงมีธรรมชาติของพระองค์เอง นั่นคือ ทรงเป็นชีวิตนิรันดร พระเจ้าไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ทรงเป็นชีวิตในพระองค์เอง มนุษย์ผู้อยู่ในธรรมชาตืจึงไม่สามารถเข้าใจถึงพระเจ้าผู้ทรงอยู่เหนือธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ พระเจ้าทรงเป็นนิรันดร ทรงเป็นพระตรีเอกภาพ ทรงเป็นชีวิต เป็นองค์ความจริง เป็นความสว่าง เป็นองค์ความรักความเมตตา ความยุติธรรม ปรีชาญาณ เป็นการให้อภัย พระองค์ทรงเป็นองค์ความดีครบบริบูรณ์ ทรงฤทธานุภาพไม่สิ้นสุด และพระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้เรามีส่วนร่วมในพระธรรมชาติของพระองค์ด้วย
 
ผู้ที่เชื่อในพระเจ้า,เชื่อในองค์พระเยซูเจ้าย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้มีส่วนร่วมกับพระองค์ในสง่าราศีรุ่งเรืองของพระองค์ในสวรรค์ ซึ่งทรงจัดเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์
 
อาแมน
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น