วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

การลงทัณฑ์

 
 

เหตุการณ์ต่างๆเป็นไปตามที่คาดไว้, มีกลุ่มเฟมมินนิสต์(กลุ่มสตรี Feminism)และกลุ่มระเบียบโลกใหม่(New World Order)เกิดขึ้นแล้ว สงครามที่เกิดขึ้นทั้งในยูเครนและกาซา ทำให้หลายคนคาดว่าจะลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม  เหตุการณ์ในโลกอยู่ในขั้นวิกฤต 
 
นอกเหนือจากนั้น,ก็คาดหวังได้ถึงการลงทัณฑ์ ('ซึ่งจะเลวร้ายยิ่งกว่าสิ่งใดๆที่มนุษย์จะนำมาให้กับตัวเอง') คอนชิตาแห่งการาบังดัลเชื่อว่าแม้หลังจากเหตุการณ์คำเตือนทั่วโลกและอัศจรรย์ครั้งใหญ่แล้ว,ประชาชนก็ยังคงดำเนินชีวิตต่อไปในสภาวะของบาปอันเลวร้ายโดยไม่กลับใจ หากพวกเขายังคงทำเช่นนั้นต่อไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็จะตามมาอันได้แก่:
 
“เกี่ยวกับการลงทัณฑ์(Chastisement): “โอ้! มันน่ากลัวที่ได้เห็น เราตกใจมาก...ไม่รู้จะหาคำมาอธิบายอย่างไรได้เลย เราเห็นน้ำในแม่น้ำกลายเป็นเลือด...ไฟตกลงมาจากสวรรค์...และยังมีบางสิ่งที่แย่กว่านั้นซึ่งฉันไม่สามารถเปิดเผยได้ในเวลานี้ มาริ โลลิ(Mari Loli) กล่าวต่อไปว่า "ในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่มีมอเตอร์หรือเครื่องจักรสักตัวเดียวที่จะทำงาน คลื่นความร้อนอันเลวร้ายจะตกลงมาบนพื้นโลก และมนุษย์จะเริ่มประสบกับความกระหายอย่างมาก พวกเขาจะค้นหาน้ำอย่างสิ้นหวัง แต่เนื่องจากความร้อนอันมหาศาล น้ำจะระเหยไป คนส่วนมากจะหมดหวังและพยายามจะฆ่ากันแต่ไม่มีกำลังที่จะทำ พวกเขาล้มลงกับพื้นทีละคน นั่นคือเวลาที่พวกเขาจะรู้ตัวว่าพระเจ้าทรงอนุญาตให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น “สุดท้าย เราก็เห็นคนจำนวนมากถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิง พวกเขาวิ่งไป,โยนตัวเองลงทะเลและทะเลสาบ แต่ในขณะที่พวกเขาลงไปในน้ำ น้ำดูเหมือนจะเดือดและแทนที่จะดับไฟกลับทำให้แย่ลง “เป็นเรื่องน่าสยดสยองมาก,ฉันขอให้พระแม่มารีย์พาบรรดาเด็กเล็กๆของเราไปกับพระนางด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับพวกเขา แต่พระแม่มารีย์ทรงบอกเราว่าเมื่อวันนั้นมาถึง เด็กๆก็จะเติบโตขึ้นแล้ว...”
 
คอนชิตา: "แม่พระจะทรงวอนขอให้พระเจ้าทำอัศจรรย์เพื่อหลีกเลี่ยงการลงทัณฑ์ แต่การลงทัณฑ์นั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะว่าเราได้สูญเสียแม้แต่ความรู้ในความหมายของบาปไปแล้ว บัดนี้เราได้มาถึงจุดสุดยอดจนพระเจ้าไม่มีทางเลือกนอกจากส่งการลงทัณฑ์มาสู่โลก แต่เราต้องการมันเพื่อประโยชน์ของเราเอง ผลจากการลงทัณฑ์,ผู้รอดชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แล้วเราจะมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าอย่างแท้จริงจนถึงวาระสุดท้ายซึ่งจะมาถึงเช่นกัน…” ในจดหมายอีกฉบับหนึ่ง คอนชิตาเขียนว่า: "ยิ่งไปกว่านั้น, ฉันเห็นการลงทัณฑ์และขอรับรองกับคุณได้ว่าถ้ามันเกิดขึ้น มันจะเลวร้ายยิ่งกว่าการที่เราถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ, เลวร้ายยิ่งกว่าการที่เรามีขี้เถ้าหรืออิฐร้อนอยู่ใต้เท้าและบนศีรษะของเรา ฉันไม่รู้ว่าระยะเวลาระหว่างอัศจรรย์กับการลงทัณฑ์จะผ่านไปนานแค่ไหน…”
 
เขียนถึงคุณพ่อลัฟฟิเนอร์(Fr Laffineur): " ลูกไม่สามารถเปิดเผยลักษณะของการลงทัณฑ์ได้ แม้ว่าพระแม่มารีย์จะทรงเปิดเผยสิ่งนี้แก่ลูกเช่นเดียวกับโลลิและยาซินทาก็ตาม ลูกพูดได้เพียงเท่านี้ว่า: มันจะเป็นการแทรกแซงโดยตรงจากพระเจ้า ซึ่งจะน่ากลัวยิ่งขึ้น,น่ากลัวเกินกว่าสิ่งใดๆที่เราจินตนาการได้ เด็กเล็กๆที่ต้องตายตามธรรมชาติจะน่ากลัวน้อยกว่าการตายอันเนื่องมาจากการลงทัณฑ์ คาทอลิกทุกคนควรไปสารภาพบาปก่อนที่มันจะมาถึง - คนอื่นๆควรกลับใจจากบาปของพวกเขา การลงทัณฑ์นี้,ถ้ามาถึง – และลูกเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น -- จะเกิดขึ้นภายหลังอัศจรรย์..."
 
ใช่ มันเลวร้ายจริงๆ
 
ความสำคัญของสาส์นของพระแม่มารีย์ที่มีต่อโลกจึงไม่ถูกควรมองข้ามไป
 
เชิญชวนพวกเราทำตามแบบอย่างของชาวนินะเวห์  เมื่อพวกเขาได้ฟังประกาศกโยนาห์ทำนายว่า อีก 40 วันพระเจ้าจะทำลายเมืองของพวกเขา ชาวเมืองได้สำนึกผิดกลับใจใช้โทษบาปด้วยการใช้ขึ้เถ้าโรยศีรษะ เรา,เมื่อเห็นเหตุการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นก็ให้ช่วยกันยับยั้งความเลวร้ายต่างๆ  ด้วยการสวดภาวนา,ทำพลีกรรมอดอาหาร,การปฏิบัติศาสนกิจด้วยใจศรัทธา เพื่อที่แม่พระจะทรงนำกิจการเหล่านี้ทั้งหมดรวมกันถวายแด่พระเยซูเพื่อวอนขอให้ทรงช่วยเหลือโลกให้รอดพ้นจากความพินาศ



 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น