วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2567

ความฝันของคุณพ่อบอสโก 1

 
 

ในเวลาเดียวกันนี้,คุณพ่อรูฟิโนได้เขียนว่า คุณพ่อบอสโกได้เล่าความฝันนี้,ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับรูปถ่าย,แต่ผมเพียงแต่จะบอกคุณเท่านั้น คุณพ่อบอสโกบอกว่า พ่อดูเหมือนกำลังอยู่กับเด็กบางคนในทุ่งข้าวสาลีคาสเติล นูโว(Castle Nuevo),
 

เรากำลังถกเถียงกันว่าจะให้ของขวัญอะไรแก่พระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ในโอกาสฉลองศาสนนามของพระองค์ ทันใดนั้น,จากทางทิศของอูตูเลียรา(Utuliera),เราเห็นต้นสนใหญ่โตมหึมา,ทั้งใหญ่และสูง,ลอยอยู่ในอากาศเคลื่อนมาที่เรา แล้วมันก็ตั้งตรงและดูเหมือนจะลงมาปะทะเหนือพวกเรา ด้วยความตกใจกลัว,พวกเราสวดและวิ่งหนี ในขณะที่มีลมแรงพัดมาทำลายต้นไม้ในท่ามกลางฟ้าร้องฟ้าผ่า ต่อมาไม่นานนัก,มีต้นสนอีกต้นหนึ่ง,ไม่ใหญ่เท่ากับต้นแรก,ลำต้นนอนราบลอยมาในทิศทางเดียวกันและมาหยุดอยู่ที่พวกเรา และเริ่มลอยต่ำลง พวกเราตกใจกลัว,คิดว่าจะต้องถูกทับตาย พวกเราวิ่งหนีอีกครั้งหนึ่งและทำสำคัญมหากางเขน ต้นไม้ลงมาอยู่ใกล้พื้นดินและลอยอยู่กลางอากาศ กิ่งไม้ของมันเพียงแต่สัมผัสพื้นดินเท่านั้น ขณะที่พวกเราจ้องมอง มีลมอ่อนๆพัดมาและละลายต้นสนให้กลายเป็นฝน
 

ผมไม่รู้ความหมายของเรื่องนี้ มีบางคนพูดไว้ว่า “Hacc est pluvial quam dabit Deus tempore suo” (นี่คือฝนที่พระเจ้าจะทรงประทานให้ในเวลาที่กำหนด) และมีบางคนซึ่งผมจำได้ยังพูดต่ออีกว่า “Hic est pinus ad ornandum locum habitationis meae” (นี่คือต้นสนซึ่งจะนำความสวยงามมาสู่ที่พักอาศัยของฉัน) เขายังอ้างอิงถึงข้อความในพระคัมภีร์ด้วย(อิสยาห์ 60:13)
 
ผมเชื่อว่าต้นสนต้นแรกหมายถึงการเบียดเบียนข่มเหงที่กระทำต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระศาสนจักร ในขณะที่ต้นสนต้นที่สองหมายถึงพระศาสนจักรเองซึ่งจะส่งความสดชื่นเหมือนสายฝนลงมาสู่พวกเขา
 
ในตอนสุดท้ายของความฝัน,คุณพ่อบอสโกไม่ได้อธิบายหรือขยายความในเรื่องความฝันนี้
 
ในการแสวงหาการแปลความหมายเพิ่มเติม,เราจะลองเปรียบเทียบต้นสนมหึมาต้นนี้ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 330 ฟุตที่ลอยอยู่เหนือพื้นดิน ทำให้เราคิดถึงเรื่องของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ผู้ซึ่งได้เห็นต้นสนใหญ่เช่นกัน และดาเนียลได้บันทึกไว้ว่า มันสูงจรดท้องฟ้า,มีใบหนาทึบดูเหมือนกับป่าเมื่ออยู่ระยะไกล มันเป็นสัญญลักษณ์ของความเย่อหยิ่งในการมีอำนาจเหลือล้นซึ่งได้ขัดขืนเป็นกบฏต่อพระเจ้าและพยายามทำลายผู้รับใช้ของพระองค์ ด้วยพระพิโรธของพระเจ้า,ต้นสนถูกทำลายไปจากโลกด้วยลมพัดกระหน่ำทำลายกิ่งก้านของมัน ลมได้ทำลายมันและไฟได้เผามันจนเป็นเถ้าถ่าน ต้นสนต้นที่สองไม่ใหญ่เท่าต้นแรก อาจไม่ได้หมายถึงพระศาสนจักรทั้งหมดเสียทีเดียวแต่อาจหมายถึงส่วนหนึ่งของพระศาสนจักรอย่างเช่นคณะนักบวช อาทิเช่น คณะนักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ (ซาเลเซียน)
 
นี่เป็นความฝันที่บอกว่าเกิดบริเวณ คาสเติล นูโว ต้นสนต้นที่สองอยู่ในแนวนอนแทนที่จะเป็นแนวตั้ง หมายถึงความถ่อมตนและข้อความในพระคัมภีร์กล่าวว่า “ความรุ่งโรจน์ของเลบานอน จะมายังเจ้า พร้อมกับต้นสนไซปรัส ต้นยางและต้นสน เพื่อทำให้สักการสถานของเรางดงาม ทำให้ที่วางเท้าของเรารุ่งโรจน์”(อิสยาห์ 60:13)
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น