วันเสาร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2567

ความรอดคืออะไร?

 
 



ความรอดคือการเชื่อในพระเยซูคริสต์
 
ความรอดคือการได้อยู่กับพระเจ้าในสวรรค์ปราศจากความทุกข์มีแต่ความสุขชั่วนิรันดร
 
ความรอดเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่ทรงประทานให้เปล่าๆและเราไม่สามารถได้รับความรอดได้ด้วยตัวของเราเอง พระเยซูทรงไถ่กู้เราบนไม้กางเขน และพระหรรษทานจากพระโลหิตของพระองค์ที่หลั่งลงมาจากไม้กางเขนคือสิ่งที่ช่วยเราให้รอด นี่เป็นวิธีเดียวที่จะไปสู่สวรรค์!
 
ถ้าหากเราไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์,เราไม่สามารถไปสู่สวรรค์ได้เพราะ
 
พระเยซูตรัสไว้ว่า “เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้ นอกจากผ่านทางเรา” (ยอห์น 14 :6)
 
พระศาสนจักรในอดีตก็เคยสอนว่า ไม่มีความรอดนอกพระศาสนจักร ซึ่งหมายถึงผู้ที่จะได้รับความรอด,เขาต้องเชื่อในพระเยซูและรับศีลล้างบาปจากพระศาสนจักร,ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซู,เขาจึงจะมีโอกาสได้รับความรอด,ได้เข้าสู่สวรรค์
 
ด้วยเหตุนี้จึงมีประเด็นคำถามว่า แล้วคนที่ไม่เชื่อในพระเยซู,คนที่ไม่รู้จักพระเยซู,คนที่นับถือศาสนาอื่น,หรือคนที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย,พวกเขาจะไม่มีทางได้ไปสวรรค์กระนั้นหรือ?
 
ด้วยความสงสัย,เราจึงลองค้นดูในพระคัมภีร์ว่า มีกล่าวอะไรไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่หรือมีอะไรที่เป็นเบาะแสในเรื่องนี้หรือไม่  และเราก็พบคำตอบ......
สำหรับคนที่ไม่เชื่อในพระเยซู,คนที่นับถือศาสนาอื่น,หรือคนที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย ซึ่งอาจสืบเนื่องมาจากความเชื่อ,สังคม,วัฒนธรรม,ประเพณีดั้งเดิมของพวกเขา พวกเขาอาจไปสวรรค์ได้ถ้าพวกเขามีคุณลักษณะดังต่อไปนี้
 
1. มีใจยากจน 
2. ได้รับความทุกข์ร้อน 
3. มีใจอ่อนโยน 
4. หิวกระหายความยุติธรรม 
5. มีใจเมตตากรุณา 
6. มีใจบริสุทธิ์ 
7. สร้างสันติ 
8. ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม
 
จาก มัทธิว 5:1 พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนจำนวนมาก,จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์เริ่มตรัสสอนว่า........พระเยซูทรงสอนเรื่องที่เราเรียกกันว่า คำเทศนาบนภูเขา หรือ มหาบุญลาภ 8 ประการ อันได้แก่
 
เป็นบุญของผู้ที่มีใจยากจน เพราะพระอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
 
เป็นบุญของผู้ที่ได้รับความทุกข์ร้อน เพราะเขาจะได้รับความบรรเทา (เขาได้รับความบรรเทา เพราะเขาได้อยู่ในสวรรค์)
 
เป็นบุญของผู้ที่มีใจอ่อนโยน เพราะเขาจะได้แผ่นดินเป็นมรดก (คือแผ่นดินสวรรค์)
 
เป็นบุญของผู้ที่หิวกระหายความยุติธรรม เพราะเขาจะอิ่มหนำ (เขาอิ่มหนำเมื่อได้ไปอยู่ในสวรรค์แล้ว)
 
เป็นบุญของผู้ที่มีใจเมตตากรุณา เพราะเขาจะได้รับความเมตตากรุณาเช่นเดียวกัน (เขาได้รับความเมตตาจากพระเจ้าในสวรรค์)
 
เป็นบุญของผู้ที่มีใจบริสุทธิ์ เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า (เขาได้เห็นพระเจ้าในสวรรค์)
 
เป็นบุญของผู้ที่สร้างสันติ เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า (เขาเป็นบุตรของพระเจ้าในสวรรค์)
 
เป็นบุญของผู้ที่ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
 
นี่คือคำตอบต่อความสงสัยของเราในเรื่องนี้ พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่า อาณาจักรสวรรค์เป็นของผู้ที่มีคุณลักษณะดังที่กล่าวมานี้ (ทั้งผู้ที่เชื่อในพระเยซูเจ้า และผู้ที่ไม่เชื่อด้วย)
 
อย่างไรก็ตาม,การมีความเชื่อในพระเยซูเจ้าในเวลาที่มีชีวิตอยู่บนโลก,ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะดังที่พระเยซูตรัสไว้ต่อไป เป็นบุญของผู้ที่ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะนามของเรา “รางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่นัก” (มัทธิว 5:12) ผู้ที่เชื่อในพระเยซูและยอมทนต่อความทุกข์เพราะพระนามของพระองค์,จะมีรางวัลยิ่งใหญ่รออยู่
 
นอกจากนี้,ในพระคัมภีร์ซึ่งกล่าวถึงวันพิพากษาครั้งสุดท้าย,พระเยซูเจ้าตรัสว่า การกระทำของผู้มีใจเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ เช่น ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย, ให้น้ำแก่ผู้กระหาย,ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ไม่มีเสื้อผ้า,ให้ที่พักแก่ผู้เดือดร้อน,ไปเยี่ยมผู้เจ็บป่วยและผู้ติดคุก การกระทำเหล่านี้เท่ากับได้กระทำต่อพระองค์เอง และพระเจ้าทรงรับพวกเขาไว้ในพระอาณาจักรสวรรค์ พวกเขาคือทุกคนที่มีคุณลักษณะดังกล่าวไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด (มัทธิว 25:31)
 
พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ไถ่กู้มนุษย์ทุกคนโดยไม่เว้นใครเลย อย่างไรก็ตาม,ขึ้นอยู่กับคนผู้นั้นด้วยว่าจะยอมรับพระคริสต์เป็นพระเจ้าของเขาหรือไม่ ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น,ผู้ไม่รู้จักพระเยซูขณะที่มีชีวิตบนโลก,หรือผู้ไม่นับถือศาสนาใดเลย เมื่อถึงเวลาแห่งความตาย,วิญญาณของเขาจะไปอยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้า ผู้ที่มีคุณลักษณะดังกล่าว,เมื่อเห็นพระเยซูเจ้า,เขาจะรู้ได้ทันทีว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ไถ่กู้พวกเขาให้รอด เขาจะมีความเชื่อในพระองค์,ไว้วางใจในพระเมตตาของพระองค์ แล้วนั้น,พระหรรษทานจากพระโลหิตของพระเยซูเจ้าจะหลั่งไหลมาสู่เขา เขาจะได้รับความรอด
 
#Catholic 4 Life
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น