วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ความยิ่งใหญ่ของพระนางมารีย์

 


โดย : Gino Velasco II
 
ความรักของผู้เป็นแม่ทุกคนในโลกนี้รวมกัน,ยังไม่เพียงพอที่จะแข่งขันกับความรักของพระนางมารีย์ที่มีต่อมนุษยชาติและต่อพวกเราผู้เป็นลูกๆของพระนาง ความรักเยี่ยงมารดาของพระนางมารีย์,คอยปกป้องลูกๆของพระนางอยู่เสมอ และดูแลความปลอดภัยในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ และไม่ละเลยต่อความต้องการใดๆของลูกของพระนางเลย
 
ปีศาจตนหนึ่งเคยพูดในพิธีขับไล่ปีศาจซึ่งทำโดยหัวหน้าผู้ขับไล่ปีศาจคนใหม่แห่งโรม, เมื่อบทภาวนาถูกสวดว่า “วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้ได้รับพระพรกว่าสตรีใดๆ…” เมื่อปีศาจได้ยินคำภาวนาเหล่านี้ – “หยุด หยุด หยุด” หยุดเถิด มันทรมานพวกเรา พระนางเป็นแค่ผู้หญิง!” “ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยหยุดสวดภาวนาเพื่อพวกแก” และเมื่อบทภาวนา วันมาพระราชินีหรือ Salve Regina ถูกสวด, ปีศาจก็พูดว่า "พระนางไม่ใช่ราชินีสำหรับเรา! สำหรับพวกแกเท่านั้น แต่พลังอำนาจของพระนางขยายไปถึงพวกเรา!”
 

ความลับของการสวดสายประคำ
 
เจสซี โรเมโร, ผู้แพร่คำสอนคาทอลิกที่มีชื่อเสียงในอเมริกา,เคยเล่าถึงการขับไล่ปีศาจในครั้งหนึ่งว่า ในตำบลแห่งหนีง,มีแม่ชีในทีมขับไล่ปีศาจของตำบลนั้นที่สวดบทวันทามารีย์ในใจของเธอเท่านั้นต่อหน้าผู้ที่ถูกปีศาจสิง,ไม่ได้เปล่งเสียงออกมา ผู้ที่ถูกสิงซึ่งตอนแรกยังคงสงบอยู่, เริ่มตะโกนคำรามอย่างแปลกประหลาด และบอกแม่ชีให้หยุดสวดภาวนา ใครๆก็สามารถจินตนาการได้ว่าแม้แต่บทภาวนาวันทามารีย์ Hail Mary ก็มีพลังอำนาจมากเพียงใด แม้ว่าจะไม่ได้เปล่งเสียงออกมาก็ตาม ลองนึกภาพสิ่งนี้ ถ้ามีปีศาจอยู่ตรงหน้าคุณหรือในบ้านของคุณ(ซึ่งเป็นไปได้มากว่าจะมี) - เนื่องจากพวกมันอยู่ทั่วทุกที่เพื่อล่อลวงผู้คนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน คุณคิดว่าพวกมันจะไม่มีปฏิกิริยาแบบเดียวกับปีศาจ,ต่อหน้าแม่ชีคนนั้นหรอกหรือ? ปกติเราไม่รู้เรื่องนี้ แต่สายประคำเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพ นักบุญคุณพ่อปิโอได้พูดขณะที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงว่า “อาวุธของพ่ออยู่ที่ไหน? ส่งอาวุธของพ่อมาให้พ่อ!” แต่บรรดาบราเดอร์ของท่านไม่พบสิ่งใดยนอกจากสายประคำที่อยู่ใกล้ท่าน พวกเขาจึงมอบสายประคำให้แก่คุณพ่อปีโอ แล้วคุณพ่อปีโอก็ตอบว่า "พวกคุณคิดว่านี่ไม่ใช่อาวุธหรือ" สิ่งที่ผู้คนเห็นเมื่อคุณถือสายประคำนั้นไม่มีอะไรนอกจากสายประคำ,อาจทำด้วยพลาสติก แต่สิ่งที่พระนางมารีย์พรหมจารีย์ทรงเห็นคือช่อดอกกุหลาบ และสิ่งที่ปีศาจเห็น,เมื่อพวกคุณถือสายประคำ,คือดาบ
 
ครั้งหนึ่ง,ปีศาจตัวหนึ่งเคยกล่าวในพิธ๊ขับไล่ปีศาจกับคุณพ่อริปเปอร์เกอร์(father Ripperger)ว่า เมื่อคนบาปตกนรก,พวกมันจะได้รับความยินดีชนิดซาดิสม์(วิกลจริต) แต่เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น,ความทุกข์ทรมานและการลงโทษของพวกมันจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ลองคิดให้ดี, ปีศาจมีแต่ความชั่ว, พวกมันไม่มีคำว่าเมตตาอยู่ในคำพูดและการกระทำของมัน, และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกมันถูกปฏิเสธจากพระเจ้า และมันรู้เรื่องนี้อยู่แล้วตั้งแต่อยู่ในสวรรค์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมันชั่วนิรันดร์เมื่อพวกมันกบฏต่อพระเจ้า พวกมันมีสิ่งที่เราเรียกว่า SUPRA INTELIGENTIA หรือมีความฉลาดมาก เรากำลังต่อสู้กับปีศาจเหล่านี้ที่มีจำนวนนับไม่ถ้วนทุกวัน การต่อสู้ของเราทุกวันไม่ได้เป็นเพียงเรื่องธรรมชาติแต่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ดังนั้น,เราต้องการความช่วยเหลือเหนือธรรมชาติ และไม่มีวิธีอื่นใดที่ช่วยได้อย่างแน่นอนที่สุดและง่ายที่สุด,นั่นคือการสวดภาวนา,ที่ปีศาจกล่าวว่า - แม้แต่บางส่วนของคำภาวนานั้น - (วันทามารีย์บทหนึ่ง) ทำให้เกิดคลื่นกระแทกและแผ่นดินไหวในนรก - และถ้าเราสวดสายประคำทั้งสายเล่า
 
สายประคำกำหราบมาร
 
นักบุญเทเรซาแห่งลีซีเออร์กล่าวว่า ถ้าเธอเสียชีวิตและได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งแม้จะในช่วงเวลาสั้นๆ,เธอจะรีบสวดบทวันทามารีย์แม้ว่าทำได้เพียงครั้งเดียว
 
ปีศาจเคยพูดว่า“ไม่มีบทภาวนาใดที่สามารถแย่งดวงวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนไปจากพวกมันได้ นอกจากสายประคำ” แม้กระนั้น,บางคนบอกว่าเขาไม่ได้สวดสายประคำเพราะเจ็บป่วยอยู่ หรือไม่มีสมาธิจึงไม่ได้สวดสายประคำ นี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ปีศาจใช้มากที่สุดในการหยุดมนุษยชาติให้สวดภาวนาหรือสวดสายประคำ คุณคุ้นเคยกับคำพูดเหล่านี้หรือไม่ “โอ้ เอาไว้ค่อยสวดครั้งหน้า, หรือวันหน้า, หรือสัปดาห์หน้าก็แล้วกัน วันนี้ฉันไม่สบายใจ, ความคิดไม่แจ่มใส,เอาไว้สวดคราวหน้าก็แล้วกัน ตอนนี้ทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่าก่อน” อย่างเช่น ซักเสื้อผ้า, ดูหนังสือเรียน ฯลฯ คุณแค่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการสวดภาวนา, เพราะรู้สึกไม่มีสมาธิ, คุณเพียงแต่หลอกตัวเองเท่านั้น” นั่นเป็นเสียงของปีศาจ และคำกล่าวอ้างเหล่านี้ก็ไม่เป็นความจริงเลย
 
ในพิธีขับไล่ปีศาจครั้งหนึ่งของคุณพ่อ ริชาร์ ริปเปอร์เกอร์(Fr. Richar Ripperger) พระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา,มีปีศาจตัวหนึ่งพูดกับท่านว่า “ข้าคือทูตสวรรค์ที่ควรจะได้เป็นผู้นำของเหล่าทูตสวรรค์ทั้งหมด,ที่ควรจะเป็นผู้พิทักษ์ผู้หญิงคนนั้น, พระนางมารีย์”
 
ปีศาจตัวหนึ่งพูดในพิธีขับไล่ปีศาจว่า เพียงแต่ได้ยินชื่อของพระนางมารีย์,ก็ทรมานพวกมันเป็นอย่างมาก ดังนั้น, ปีศาจจะถูกทรมานอย่างที่สุดเมื่อคุณสวดภาวนาหรือสวดสายประคำ
 
ความรักของแม่ล้านคนก็ไม่อาจเทียบได้
 
นักบุญ หลุยส์ มาเรีย เดอ มงฟอร์ต กล่าวว่า พระนางมารีย์,เพียงกระซิบวอนขอต่อพระจิตเจ้าเบาๆ, พระเจ้าก็ทรงประทานทุกสิ่งที่พระนางวอนขอ
 
นักบุญเบอร์นาดีนกล่าวว่าพระนางมารีย์ประทานพระหรรษทานตามที่พระนางทรงประสงค์,แก่ผู้ที่พระนางทรงประสงค์ ดังนั้นถ้าเรามีความศรัทธาหรือใกล้ชิดกับพระนางมารีย์, เราก็เหมือนกับอยู่ใกล้แหล่งน้ำ หรืออยู่ใกล้กับองค์ราชินีหรือนักการเมืองผู้ใจดีที่สุด, ที่จะให้ทุกสิ่งที่พระนางประสงค์จะให้กับผู้ที่พระนางทรงประสงค์ เนื่องจากพระนางมารีย์ทรงเป็นคนกลางแห่งพระหรรษทานทั้งปวง นักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอ มงฟอร์ต (นักปราชญ์ของพระศาสนจักร) กล่าวว่า ไม่มีพระหรรษทานใดแม้แต่สิ่งเดียวที่ถูกประทานให้โดยไม่ผ่านทางพระนางมารีย์ และเนื่องจากพระนางมารีย์มีตำแหน่งเป็นผู้แจกจ่ายพระหรรษทานทั้งหมด และในขณะที่เราได้รับพระหรรษทานจากพระเจ้าเพื่อทำให้เราสามารถยืนหยัดต่อสู้ความยากลำบากในชีวิตได้ พระนางมารีย์จึงทรงปกป้องและเฝ้าดูเราทุกวินาที ปีศาจตัวหนึ่งกล่าวครั้งหนึ่งในพิธีขับไล่ปีศาจโดยคุณพ่อ ริชาร์ด ริปเปอร์เกอร์ ว่า “ถ้าพระนางสวดภาวนาเพื่อแก มั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าแกจะรอด, มั่นใจได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่แกจะหลีกเลี่ยงเปลวเพลิงแห่งนรก
 
บุญราศี มารีย์แห่งอาเกรดากล่าวในหนังสือ Mystical City of God ของเธอว่า ก่อนที่พระนางมารีย์จะสิ้นพระชนม์, พระนางได้ทูลขอต่อพระเจ้า ขอให้รางวัลจากบุญกุศลตลอดชีวิตของพระนางถูกมอบให้กับผู้คนทั่วโลกแทน สำหรับมนุษย์ทุกเชื้อชาติและทุกภาษาทั้งหมดในปัจจุบันและในยุคที่กำลังจะมาถึง โอ้,พระนางมารีย์ผู้ทรงพระทัยเมตตาและความรักต่อเราจริงๆ! ในช่วงวินาทีสุดท้ายของพระนางบนโลกนี้, สิ่งที่พระนางทรงคิดถึง,ไม่ใช่อะไรนอกจากความรอดของผู้อื่นและมนุษย์ทุกคน
 
นักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอ มงฟอร์ต กล่าวว่า ถ้าข้าพเจ้าจำไม่ผิด,ไม่เป็นการกล่าวเกินเลยที่จะบอกว่า ถ้าพระเจ้าทรงเลือกระหว่างสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างไว้ทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งเทวดา, ดาวเคราะห์, ดวงดาว, สัตว์และสรรพสิ่งในจักรวาลกับเลือกพระนางมารีย์ พระองค์ก็จะเลือกพระนางมารีย์อย่างแน่นอน 
คุณพ่อ ริปเปอร์เกอร์กล่าวว่าพระนางมารีย์คือจุดสุดยอดของการเนรมิตสร้างสรรค์ทั้งหมดของพระเจ้า
 
ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของพระมารดาของเรา,ดังที่เขียนไว้โดยบุญราศี มารีย์แห่งอาเกรดา, คือตอนที่พระนางมารีย์ทรงจูบรอยเท้าของคนขอทาน, คนยากจน, และผู้ที่ถูกทอดทิ้งจากสังคม พระนางทรงกระทำเช่นนี้เพื่อแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ต่อบรรดาคนต่ำต้อยเหล่านี้ เมื่อคนยากจนและคนต่ำต้อยจากไปแล้วและเมื่อไม่มีใครอยู่, พระนางมารีย์จะเดินตามรอยเท้าของคนเหล่านี้และจะจูบมันที่พื้น
 
คุณพ่อ ริปเปอร์เกอร์เคยถามปีศาจในพิธีขับไล่ปีศาจว่าช่วงเวลาใดยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตพระแม่มารีย์
 
คุณพ่อ ริปเปอร์เกอร์เคยพยายามหาคำตอบของคำถามนี้ด้วยตัวเอง และท่านต้องการคำยืนยันจากปีศาจ ท่านพูดว่า "เป็นการเสด็จสู่สวรรค์ของพระนางมารีย์ใช่หรือเปล่า?" เหล่าปีศาจตอบว่า “ไม่ใช่, แต่เป็นช่วงเวลาแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระนาง เพราะพระนางสามารถเอาชนะพวกเราและจากโลกนี้ไปโดยปราศจากบาปแม้แต่เล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นมันคืออะไร” คุณพ่อริปเปอร์เกอร์ถามต่อ “คือการรับมงกุฏของพระนางในสวรรค์ในฐานะราชินีของเราทุกคนใช่หรือเปล่า” “ไม่ใช่, แต่เป็นการเปิดเผยถึงความเป็นเลิศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระนาง”
 
“แล้วมันคืออะไร?” คุณพ่อริปเปอร์เกอร์ถาม
 
ปีศาจตอบว่า “เป็นช่วงเวลาที่พระนางที่ยืนอยู่ที่เชิงไม้กางเขนในคุณธรรมอันสมบูรณ์ครบครัน และเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และการสร้างสรรค์ทั้งหมด นอกเหนือจากการตรึงกางเขนของพระคริสต์” ผมพูดไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งนี้
 
ในกรณีการขับไล่ปีศาจครั้งหนึ่งของคุณพ่อ, ซาตานเองได้เข้าสิงเหยื่อแล้วพูดกับคุณพ่อว่า "ตั้งแต่วินาทีแรกที่ข้าเห็นพระนาง (ทางจิต) ข้ารู้ทันทีว่าไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด,ข้าจะเป็นเพียงอันดับสองจากพระนางเสมอ" “พระนางช่างงดงามจริงๆ, คุณธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ของพระนางงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ และในความงามนั้น,ข้าเห็นภาพสะท้อนของความงามของพระเจ้า ข้าปรารถนาอย่างที่สุดให้ความงามนั้นมาอยู่ในตัวข้าเอง!”
 
คุณรู้ไหมว่าเราสามารถบรรลุความตั้งใจของเราในการสวดสายประคำได้โดยการสวดสายประคำวันละ 4 ครั้งเท่านั้น? เพราะเลขนี้เป็นเลขมาตรฐานและวิธีสวดสายประคำที่ถูกต้อง เมื่อคุณเพิ่งเริ่มทำ คุณสามารถสวดสายประคำได้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คุณสามารถทำได้โดยการสวดภาวนา 1 ครั้งในตอนเช้าและ 1 ครั้งในตอนเย็น
 
ถึงแม้ความตั้งใจจะลดลงแต่คุณจะสังเกตเห็นไม่เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของคุณด้วย
 
นั่นคือสิ่งที่นักบุญผู้ยิ่งใหญ่กล่าวไว้ มันเป็นสิ่งที่นักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอ มงฟอร์ตกล่าว และสิ่งที่พระแม่มารีย์ผู้ทรงบุญทรงประสงค์ เมื่อพระแม่มารีย์ประจักษ์ที่เมืองฟาติมา สิ่งที่พระนางทรงพูดถึงเกี่ยวกับการสวดลูกประคำทุกวันคือการสวดสายประคำสี่ครั้งต่อวันจริงๆ ตั้งแต่เริ่มต้น, นักบุญรู้ ,พระศาสนจักรรู้, และนักบุญดอมินิกก็รู้ดีว่าวิธีที่ถูกต้องในการสวดสายประคำและการสวดภาวนาแบบมาตรฐานคือการสวดภาวนาโดยรำพึงถึงพระธรรมล้ำลึกทั้งหมด ใช่แล้ว,พระธรรมล้ำลึกสี่ประการ พระธรรมล้ำลึกแห่งความปิติยินดี, พระธรรมล้ำลึกแห่งความสว่าง,พระธรรมล้ำลึกพระมหาทรมาน,และพระธรรมล้ำลึกพระสิริรุ่งโรจน์(แต่เดิมมีเพียงสามประการ พระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงเพิ่มประการที่สี่ คือพระธรรมล้ำลึกแห่งความสว่าง) 

 “พระแม่มารีย์ผู้บริสุทธิ์ยิ่ง, ได้ทรงประทานสายประคำอันทรงประสิทธิภาพให้แก่พวกเรา พระนางได้ประทานประสิทธิภาพนี้,จนไม่มีปัญหาใดๆไม่ว่าจะยากเพียงใด, ไม่ว่าจะฝ่ายร่างกายหรือฝ่ายจิตใจ, ปัญหาในชีวิตส่วนตัวของเราแต่ละคน, ครอบครัวของเรา … ปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้โดยอาศัยการสวดสายประคำ ไม่มีปัญหาใดเลยที่ไม่อาจแก้ไขได้,ฉันขอบอกคุณ,ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม, เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการสวดสายประคำศักดิ์สิทธิ์”
 
--- ซิสเตอร์ลูซีอา, หนึ่งในผู้เห็นแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา, โปรตุเกส ----
 
จงสวดสายประคำเถิดบรรดาลูกๆของพระนางมารีย์ และมั่นใจได้ว่าพระนางจะทรงดูแลทุกสิ่งที่คุณต้องการและจะเป็นแม่ของคุณ
 

“แม่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกหรือ,แม่เป็นแม่ของลูกมิใช่หรือ?”
 
--- พระแม่มารีย์ตรัสกับฮวน ดิเอโก ----
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น