วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

แม่พระแห่งกิเบโฮ

 
 

ในการประจักษ์ของแม่พระแห่งกิเบโฮ,ราวันดา,อัฟริกา ซึ่งได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรแล้ว แม่พระประจักษ์แก่เด็กหญิง 3 คน ซึ่งเป็นนักเรียนมัธยมของโรงเรียนหญิงคาทอลิก
 
ในตอนแรก ผู้คนไม่เชื่อคำพูดของเด็กหญิงเหล่านี้ที่บอกว่า เธอได้เห็นแม่พระประจักษ์มา และจากคำบอกเล่าของแม่ชีที่สอนในโรงเรียนนี้บอกว่า มีเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ชื่อ มารี แคลร์(Marie Claire) เป็นเรื่องของพระสงฆ์ท่านหนึ่งในโรงเรียนนี้ซึ่งไม่เชื่อในคำพูดของเด็กหญิงเหล่านี้เลย มิหนำซ้ำท่านเรียกเด็กหญิงเหล่านี้ว่า “พวกโกหก” และท่านต้องการไล่เด็กหญิงเหล่านี้ออกจากโรงเรียน แต่มารี แคลร์ เข้าไปหาพระสงฆ์ท่านนี้พร้อมกับสาส์นของแม่พระที่ประทานแก่เธอและให้ส่งต่อไปยังพระสงฆ์ท่านนี้ มารี แคลร์พูดว่า
 
          มารี แคลร์,คนกลาง

“ขอโทษค่ะ คุณพ่อ ลูกไม่ได้ต้องการแสดงความไม่เคารพต่อคุณพ่อเลย” 
“แต่แม่พระ ประจักษ์แก่ลูกในวันนี้ และบอกลูกให้มาบอกคุณพ่อว่า คุณพ่อได้ทรมานลูกๆของพระนางอย่างไม่ยุติธรรม และคุณพ่อต้องทำกิจใช้โทษบาป” 
“แม่พระทรงต้องการให้คุณพ่อคุกเข่าลงในคืนนี้ และกางแขนเปิดออกต่อพระเจ้า และสวดสายประคำสามสาย”
 
พระสงฆ์เรียกมารี แคลร์ว่า คนพูดโกหกตัวเล็ก และสั่งให้เธอไปอยู่ในโรงอาหารของโรงเรียนจนถึงตอนเช้า ท่านคิดว่านี่เป็นการลงโทษที่เหมาะสมแล้ว
 
แต่ต่อมาพระสงฆ์มีความคิดว่า เพื่อเป็นการปลอดภัยไว้ก่อน,ถ้าหากคำพูดของเด็กหญิงเหล่านี้เป็นความจริง และท่านไม่คิดว่ามันจะเป็นอันตรายแต่อย่างใดในการสวดภาวนามากกว่าปกติสักหน่อย
 
ดังนั้นในคืนนั้น,พระสงฆ์ได้ปิดล็อกประตูในห้องของท่าน ดึงผ้าม่านปิดหน้าต่างเพื่อที่จะไม่มีใครเห็น ท่านคุกเข่าลงที่พื้น,กางแขนออก,ในมือถือสายประคำและสวด ท่านทำตามคำพูดของมารี แคลร์ทุกประการที่บอกว่าเป็นความต้องการของแม่พระ หลังจากที่พระสงฆ์ทำตามจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็เอาสายประคำเก็บไว้ในลิ้นชักของโต๊ะ แล้วเอาหนังสือและแมกกาซีนวางทับสายประคำไว้ แล้วก็ปิดลิ้นชัก
 
เข้าวันต่อมา พระสงฆ์สั่งให้มารี แคลร์มาหาในออฟฟิสของท่าน เพื่อต่อว่าเธออีกครั้ง มารี เข้าไปในห้องด้วยกิริยาร่าเริง ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด และก่อนที่พระสงฆ์จะพูดอะไร เธอได้พูดขึ้นว่า
 
“คุณพ่อคะ,แม่พระทรงพอพระทัยมาก ที่คุณพ่อสวดสายประคำตามที่พระนางทรงขอให้ท่านทำ” 
“แต่พระนางทรงบอกกับลูกในเช้าวันนี้ว่า คุณพ่อไม่ควรเอาหนังสือและแมกกาซีนหลายเล่มมาวางทับสายประคำ เมื่อตอนที่คุณพ่อนำสายประคำไปเก็บไว้ในลิ้นชัก” 
“พระนางทรงบอกว่า คุณพ่อควรมีสายประคำติดตัวตลอดเวลา และสวดทุกวัน”
 
ถึงจุดนี้ พระสงฆ์รู้สึกตัวกลับใจทันที และท่านได้กลายเป็นผู้สนับสนุนบรรดาเด็กหญิงเหล่านั้นอย่างเต็มที่
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น