วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2567

การดูหมิ่นความไร้สาระทั้งหลายของโลก

 


จำลองแบบพระคริสต์
 
“ผู้ที่ติดตามเราจะไม่เดินในความมืด” พระเยซูเจ้าตรัส, ยอห์น 8:12. โดยพระวาจาเหล่านี้ของพระคริสต์ เราได้รับคำแนะนำให้เลียนแบบพระชนม์ชีพและกิจการของพระองค์ ถ้าเราปรารถนาที่จะได้รับความเข้าใจอย่างแท้จริงและรอดพ้นจากจิตใจที่มืดบอดทั้งมวล
 
เพราะฉะนั้น,ความพยายามหลักของเราคือต้องศึกษาพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์ คำสอนของพระคริสต์นั้นประเสริฐกว่าคำแนะนำทั้งหมดของบรรดานักบุญ และผู้ที่มีพระจิตของพระองค์จะพบมานาที่ซ่อนอยู่ในนั้น
 
มีหลายคนที่ได้ยินพระวรสารบ่อยๆแต่ใส่ใจพระวาจานั้นเพียงเล็กน้อย เพราะพวกเขาไม่มีพระจิตของพระคริสต์ แต่ใครก็ตามที่ปรารถนาจะเข้าใจพระวาจาของพระคริสต์อย่างถ่องแท้ต้องพยายามจัดรูปแบบชีวิตทั้งหมดของเขาตามชีวิตของพระคริสตเยซู
 
จะมีประโยชน์อะไรที่จะเทศน์สอนอย่างเชี่ยวชาญเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพ, ถ้าหากขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน, อันทำให้ท่านไม่เป็นที่พอพระทัยของพระตรีเอกภาพ? แท้จริงแล้วหาใช่ความรอบรู้ที่ทำให้บุคคลหนึ่งเป็นผู้ศักดิ์สิทิธิ์และชอบธรรม, แต่ชีวิตที่มีคุณธรรมต่างหากที่ทำให้เขาเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
 
ข้าพเจ้าอยากมีความทุกข์ถึงบาปอย่างสมบูรณ์มากกว่าอยากรู้ถึงคำนิยามของมัน จะเป็นประโยชน์อะไรถ้าเรารู้พระคัมภีร์ทั้งเล่มจนขึ้นใจและรู้หลักการของปรัชญาทั้งหมด,ถ้าหากเราดำเนินชีวิตโดยปราศจากพระหรรษทานและความรักของพระเจ้า?
 
ไร้สาระแห่งความไร้สาระและทุกสิ่งล้วนไร้สาระ, ยกเว้นแต่ความรักพระเจ้าและรับใช้พระองค์เพียงผู้เดียว นี่คือปรีชาญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด - การแสวงหาอาณาจักรสวรรค์ด้วยการดูหมิ่นโลก เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องไร้สาระที่จะแสวงหาและวางใจในความมั่งคั่งที่นำไปสู่ความพินาศได้ เป็นความไร้สาระเช่นกัน,การแสวงหาเกียรติยศและการพองตัวด้วยความเย่อหยิ่ง เป็นความไร้สาระในการทำตามราคะตัณหาของร่างกายแล้วต้องได้รับการลงโทษอย่างสาหัสในภายหลัง เป็นความไร้สาระ, การปรารถนาให้มีอายุยืนยาวและไม่สนใจที่จะใช้เวลาอย่างเหมาะสม เป็นเรื่องไร้สาระ,ที่จะกังวลกับปัจจุบันเท่านั้นและไม่พิจารณาถึงสิ่งที่จะมาถึง เป็นการไร้สาระที่จะรักสิ่งที่ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วและไม่มองดูความยินดีชั่วนิรันดร์ซึ่งดำรงอยู่ในชีวิตหน้า
 
จงระลึกถึงสุภาษิตนี้บ่อยๆ “ตาไม่เพียงพอกับสิ่งที่เห็น และหูไม่อิ่มหนำกับสิ่งที่ได้ยิน” พยายามให้มากขึ้นในการหันเหหัวใจของท่านจากความรักในสิ่งที่มองเห็นและนำตัวเองไปสู่สิ่งที่มองไม่เห็นเถิด เพราะผู้ที่ทำตามราคะตัณหาชั่วของตนย่อมทำให้มโนธรรมของตนหม่นหมองและสูญเสียพระหรรษทานของพระเจ้า
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น