วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567

สถานะพระหรรษทาน

 

 

สถานะพระหรรษทานคือสถานะของวิญญาณที่เป็นอิสระจากบาปหนักอันร้ายแรง เป็นสถานะที่วิญญาณสวยงามในสายพระเนตรของพระเจ้า!
 
ช่างงดงามจริงหนอ! การอยู่ในสถานะแห่งแสงสว่างของสวรรค์ วิญญาณเป็นอิสระจากความผิดและการพิพากษาของมโนธรรม วิญญาณนี้สามารถรับพระกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ได้อย่างเหมาะสมคู่ควร
 
วิญญาณที่อยู่ในสถานะพระหรรษทานคือวิญญาณที่มีความสุข ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสดุดีกล่าวว่า "ผู้ที่ได้รับอภัยความผิด,และบาปของเขาถูกลบล้าง ย่อมเป็นสุข ผู้ที่พระยาห์เวห์ไม่ทรงกล่าวหาว่าทำผิด และจิตใจของเขาไม่มีความคดโกง ย่อมเป็นสุข" สดุดี 32:1-2
 
วิญญาณที่ต่อสู้กับบาปอย่างสุดกำลังเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพระเจ้า เพราะวิญญาณนี้ไม่ได้พำนักอยู่ในอาณาบริเวณที่อันตราย แต่กำลังต่อสู้กับศัตรูของตน และพระเจ้าไม่ทรงละเลยวิญญาณเช่นนั้น!
 
แต่ช่างน่าสมเพชและน่าเกลียดจริงหนอ ! วิญญาณที่อยู่ในสถานะแห่งบาปหนัก เธอไม่ได้พักผ่อนเลย,เพราะไม่มีพระหรรษทานศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายใน: หลังจากที่ดาวิดทำบาปอย่างร้ายแรงด้วยการรับนางบัทเชบามาเป็นภรรยาและฆ่าอูรียาห์,สามีของเธอ เขาก็สูญเสียสถานะพระหรรษทานและจิตใจกระสับกระส่ายตลอดเวลาโดยไม่ได้รับการปลอบโยนใดๆจากพระจิตศักดิ์สิทธิ์ แต่ครั้นต่อมา,เขาได้กลับใจและได้แต่งเพลงสดุดีที่กินใจที่สุด คือ สดุดี 51.. โดยร้องออกมาดังๆในข้อ 11-12 "ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงผลักไสข้าพเจ้าไปจากพระพักตร์ ขออย่าทรงยกพระจิตศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ออกจากข้าพเจ้าเลย 
ขอพระองค์ประทานความชื่นชมที่ทรงช่วยให้รอดพ้นคืนให้ข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงค้ำจุนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไว้ในข้าพเจ้า!!!"
 
ผู้ประพันธ์เพลงสดุดียังเขียนไว้ว่า "เรื่องหนึ่งข้าพเจ้ายังจำได้ เมื่อระบายความในใจ คือข้าพเจ้าเคยเดินไปกับประชาชน นำหน้าเขาไปถึงบ้านของพระเจ้า ประชาชนกำลังเฉลิมฉลองโห่ร้องยินดีและสรรเสริญพระเจ้า" สดุดี 42:4 นั่นคือความทุกข์ที่วิญญาณที่อยู่ในสถานะแห่งบาปหนักต้องเผชิญ น้ำหนักของบาปที่ตกอยู่บนผู้นั้นจะบดขยี้วิญญาณและกดทับมากขึ้นเมื่อวิญญาณเห็นว่าความแห้งแล้งมีมากสักเพียงใด และเมื่อนึกถึงความยินดีก่อนหน้าที่เขาทำบาป, นึกถึงความสุขที่ได้รับศีลมหาสนิท แต่ "เหมือนกวางย่อมกระหายธารน้ำไหล" (สดุดี 42:1) วิญญาณของผู้ชอบธรรมก็จะโหยหาพระเจ้า แม้ว่าจะได้ทำบาปหนักไปแล้วก็ตาม!
 
เมื่อท่านไม่สามารถรับศีลมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ได้เพราะมโนธรรมของท่านพิพากษาและตำหนิท่าน ท่านก็ไม่ได้อยู่ในสถานะพระหรรษทานอีกต่อไปและท่านต้องการศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ชำระวิญญาณให้พ้นจากบาป, ศีลศักดิ์สิทธิ์นั้นคือ ศีลอภัยบาปหรือศีลแห่งการคืนดีนั่นเอง
 
วิญญาณที่ไม่มีความสุขคือวิญญาณที่ยังไม่คืนดีกับพระเจ้าโดยผ่านทางศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดี สำหรับเรื่องนี้ กษัตริย์ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสดุดีกล่าวว่า “แม้ข้าพเจ้าเงียบอยู่ กระดูกของข้าพเจ้าก็ผุกร่อนไป จากการคร่ำครวญตลอดวัน
 
พระหัตถ์ของพระองค์กดหนักอยู่บนตัวข้าพเจ้าทั้งวันทั้งคืน กำลังของข้าพเจ้าอ่อนลง เหมือนความแห้งแล้งในฤดูร้อน
 
ข้าพเจ้าทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะสารภาพความผิดต่อพระยาห์เวห์ พระองค์ก็ทรงอภัยบาปที่ข้าพเจ้าได้ทำ” สดุดี 32:3,5
 
โอ้สุดที่รักเอ๋ย, อย่ายอมให้บาปพรากความสัมพันธ์ฝ่ายวิญญาณกับพระเจ้าไปจากท่าน อนุญาติให้พระเจ้าสถิตอยู่ในวิญญาณของท่านจากความสัมพันธ์หนึ่งไปสู่อีกความสัมพันธ์หนึ่ง ศีลอภัยบาปมีความจำเป็นมากในการชำระวิญญาณของท่านให้พ้นจากบาปทั้งหมด ดังนั้น เมื่อท่านพบว่าตัวเองอยู่ในสถานะบาป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาปหนัก จงรีบไปที่ห้องสารภาพบาปและสารภาพบาปกับพระสงฆ์ด้วยความเชื่อและความวางใจ
 
ความชื่นชมยินดีของการอยู่ในสถานะพระหรรษทานคือความชื่นชมยินดีแห่งความรอดของเรา นั่นคือความชื่นชมยินดีที่ดาวิดวิงวอนขอในสดุดี 51:12 “ขอพระองค์ประทานความชื่นชมที่ทรงช่วยพ้นคืนให้ข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงค้ำจุนจิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไว้ในข้าพเจ้า”
 
สุดที่รัก, จงพากเพียรรักษาสถานะแห่งพระหรรษทานของท่านไว้ให้ดีที่สุด หลีกเลี่ยงโอกาสบาป และจงเป็นนักบุญตามที่ท่านได้รับเรียกให้เป็น
 
ขอพระเยซูเจ้าทรงช่วยเหลือท่าน 
🙏🙏🙏
 
#Catholic 4 Life
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น