วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2567

ก้อนหิน 5 ก้อน

 



พระแม่มารีย์ทรงประทานสาส์นแก่เราทุกคนที่เมดจูกอเรจ์ ทรงแสดงให้เราเห็นถึงการเป็นคริสตชนที่แท้จริงและหนทางสู่สันติภาพ พระแม่มารีย์ตรัสว่าเราต้องตระหนักว่าซาตานมีอยู่จริงและมันกำลังใช้เราเพื่อจุดประสงค์ของมันเอง จุดประสงค์หลักของมันก็คือการทำลายล้าง อันได้แก่ ทำลายความรัก, สันติภาพ, ความเชื่อ, ครอบครัว, และชีวิต เช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงประทานหิน 5 ก้อนแก่ดาวิดเพื่อใช้ในการเอาชนะโกลิอัท(1ซามูเอล 17:40) พระแม่มารีย์ก็ทรงประทานก้อนหิน 5 ก้อนแก่เราด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถใช้เอาชนะซาตานได้ หิน 5 ก้อนมีดังนี้:
 
สวดภาวนา(สายประคำ)ทุกวัน
 
อดอาหารในวันพุธและวันศุกร์
 
ร่วมพิธีมิสซา (รับศีลมหาสนิท)
 
อ่านพระคัมภีร์
 
สารภาพบาปเดือนละครั้ง
 
การสวดภาวนา – พระนางทรงขอให้เราสวดสายประคำ พระนางตรัสว่า “สวดภาวนา,สวดภาวนา,สวดภาวนา การสวดภาวนาเป็นพื้นฐานของสันติภาพ”
 
การสวดภาวนาเป็นหินก้อนแรก คุณต้องเริ่มสวดภาวนาตั้งแต่ตอนนี้เพื่อที่คุณจะได้เปลี่ยนแปลงตัวเองและยกระดับตัวเองขึ้นพร้อมกับคนอื่นๆ เช่นกัน พระสงฆ์, พ่อแม่, และทุกคนต้องสวดภาวนา การสวดภาวนาเป็นพระพรและอาวุธหลักที่มอบให้กับพระศาสนจักร พระศาสนจักรไม่ใช่แนวคิดหรือพรรคการเมือง แต่เป็นครอบครัวแห่งการสวดภาวนา ครอบครัวที่มีความรักกันและกัน นี่คือเหตุผลที่พระแม่มารีย์ทรงยืนกรานว่าการสวดภาวนาเป็นสิ่งจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงโลก ดังนั้นให้เราเริ่มสวดสายประคำ
 
การอดอาหาร – แม่พระตรัสว่า “ให้ประชาชนทำพลีกรรมอดอาหารอย่างเคร่งครัดในวันพุธและวันศุกร์ ยกเว้นคนป่วย” และ “การอดอาหารที่ดีที่สุดคือกินขนมปังและน้ำ”
 
การอดอาหารเป็นหินก้อนที่สอง: มันอาจหมายถึงการอดบุหรี่ งดเว้นการดูโทรทัศน์ งดเว้นความคิดชั่วร้าย งดเว้นที่จะทำแผนการณ์บางอย่างที่ไม่ดี และงดเว้นอาหารบางอย่าง การอดอาหารแสดงให้เห็นถึงความสามารถส่วนตัวของคุณที่จะรักและยืนยันว่าคุณสำคัญต่อทุกคน การอดอาหารเป็นยาและการเสียสละ ด้วยการอดอาหาร,คุณชนะความเห็นแก่ตัว ผู้ที่รู้จักการพลีกรรมอดอาหารจะยอมรับฟังเพื่อนบ้าน ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น และเข้าใจวิธีที่จะรักโลก ผู้ที่พลีกรรมอดอาหารจะมองเห็นตนเองและผู้อื่นตามที่เป็นจริง และรู้วิธีที่จะชำระล้างจิตใจภายในของตน
 
ศีลมหาสนิท (พิธีมิสซา) – “พิธีมิสซาเป็นจุดสูงสุดของการสวดภาวนา”
 
ศีลมหาสนิทเป็นก้อนหินก้อนที่สาม ในพิธีมิสซา,พระเยซูเสด็จมา สภาพของขนมปังและเหล้าองุ่นเปลี่ยนไป นี่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงของเราเช่นกัน เราเปลี่ยนจากความตาย,กลับมีชีวิตใหม่ พิธีมิสซาเปลี่ยนแปลงชีวิตคริสตชน เปลี่ยนแปลงพระศาสนจักร เพราะในพิธีมิสซา,พระเยซูถูกถวายแด่พระศาสนจักรอย่างสมบูรณ์ พิธีมิสซาเป็นต้นกำเนิดของพระศาสนจักร-พระกายลึกลับของพระคริสตเจ้า พิธีมิสซาทำให้พระศาสนจักรกลายเป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ในพิธีมิสซา บุคคลจะเกิดใหม่ เราเป็นหยดน้ำที่เทลงในเหล้าองุ่น พระศาสนจักรเป็นหนึ่งเดียวกับพระโลหิตของพระเยซู ดังนั้น คุณไม่ควรเพียงแค่ฟังพิธีมิสซา แต่จงดำเนินชีวิตตามพิธีนี้ หากไม่มีพิธีมิสซา พระศาสนจักรจะไม่มีอยู่ หากไม่มีพิธีมิสซา พระศาสนจักรก็จะเป็นเด็กกำพร้า
 
พระคัมภีร์ – อ่านพระคัมภีร์ทุกวัน: “ลูกลืมพระคัมภีร์ไปแล้วหรือ?”
 
พระคัมภีร์คือก้อนหินก้อนที่สี่ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่หนังสือเล่มหนึ่งเท่านั้น แต่พระคัมภีร์เป็นธงชัยประจำคริสตศาสนา พระคัมภีร์ถือกำเนิดจากดวงพระทัยของพระเจ้า เป็นพระวาจาของพระองค์ ดังนั้น พระคัมภีร์จึงต้องอยู่ในครอบครัวเป็นอันดับแรก พระคัมภีร์ต้องถูกวางไว้ในที่ที่มีเกียรติ และที่นั้นต้องศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา พระคัมภีร์ต้องเป็นแหล่งที่มาของคำภาวนาของเรา พระคัมภีร์ช่วยให้คริสตชนดำเนินชีวิตท่ามกลางความสงสัยและอุดมการณ์ที่ขัดแย้งกันในปัจจุบันได้ชัดเจนขึ้น
 
ารสารภาพบาป – จงไปสารภาพบาปเดือนละครั้ง: “การสารภาพบาปทำให้ลูกได้รับพระพรมากมาย”
 
การสารภาพบาปคือก้อนหินก้อนที่ห้า พระแม่มารีย์ทรงขอให้เราไปรับศีลอภัยบาปทุกเดือน จุดประสงค์ของการสารภาพบาปไม่ใช่การพูดถึงการกระทำของตนเอง ไม่ใช่การวิเคราะห์ทางจิต แต่เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของความสงบภายในตนเองในการพบกับพระเจ้า ในการสารภาพบาป ทำให้เราดำรงอยู่ในพระหรรษทานของพระเจ้า เราได้รับความสงบจากพระเจ้าเพื่อที่เราจะได้ถ่ายทอดไปยังผู้อื่น ในการสารภาพบาป เราเปิดใจของเราต่อพระเจ้า ขอให้พระองค์เปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูจิตใจของเรา การสารภาพบาปเป็นทั้งศีลศักดิ์สิทธิ์และความลึกลับ
 
เมื่อรวมกันแล้ว หินทั้งห้าก้อนที่พระแม่มารีย์ทรงประทานให้เราผ่านทางสาส์นของพระแม่ที่เมดจูกอเรจ์, ถือเป็นอาวุธในการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว และเป็นยาที่ช่วยให้เรารักษาและค้นพบความสงบภายในที่แท้จริง
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น