By Michel H Brown
แม่พระได้เปิดเผยต่อมีรยานา เกี่ยวกับอนาคตหลายเรื่องซึ่งมากกว่าที่เปิดเผยกับผู้เห็นแม่พระคนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอรายงานสิ่งที่มีรยานาได้บอกกับผมในการสัมภาษณ์ ผมขอสรุปในเรื่องที่สำคัญจากเรื่องราวของเธอโดยไม่อ้างถึงจดหมาย:
- ก่อนเครื่องหมายที่มองเห็นได้จะถูกมอบให้กับมนุษยชาติ จะมีการเตือนสามอย่างต่อโลก การตือนนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนโลก มีรยานาจะเป็นพยานเรื่องนี้ สามวันก่อนการเตือนอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น, เธอจะแจ้งกับพระสงฆ์ที่เธอเลือก การแจ้งต่อพระสงฆ์เป็นการล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเป็นการยืนยันถึงการประจักษ์มาของแม่พระและกระตุ้นให้เกิดการกลับใจของโลก:
หลังจากเหตุการณ์การเตือน, เครื่องหมายที่มองเห็นได้จะปรากฏบนสถานที่แห่งการประจักษ์ในเมดจูกอเรจ์สำหรับมนุษยชาติทั้งหมด เครื่องหมายจะมอบให้เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ของการประจักษ์มาของแม่พระและเป็นการเชื้อเชิญให้มีความเชื่อ
- ความลับข้อที่เก้าและข้อที่สิบมีความร้ายแรงมาก มันเป็นการลงโทษบาปของโลก การลงโทษนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่อาจคาดหวังได้ว่าโลกทั้งมวลจะกลับใจ การลงโทษสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการสวดภาวนาและการชดเชญใช้โทษบาป แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สำหรับความลับข้อที่เจ็ดซึ่งเป็นสิ่งคุกคามโลกนั้นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากการสวดภาวนาและการพลีกรรมอดอาหาร ด้วยเหตุนี้พระแม่มารีย์จึงยังคงเชื้อเชิญเราให้สวดภาวนาและทำพลีกรรมอดอาหารต่อไป: - อย่าลืมว่าด้วยการสวดภาวนาและและการอดอาหาร เราสามารถยับยั้งไม่ให้เกิดสงครามและระงับกฎของธรรมชาติได้
- หลังจากการเตือนครั้งแรก การเตือนอื่นๆจะติดตามในไม่ช้า มนุษย์จะยังมีเวลาที่จะกลับใจ
- เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานและการกลับใจ หลังจากเครื่องหมายที่มองเห็นได้ปรากฏขึ้น, คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะมีเวลาน้อยสำหรับการกลับใจ ด้วยเหตุนี้แม่พระจึงทรงเรียกร้องให้มีการกลับใจและการประนีประนอมกันอย่างเร่งด่วน
- คำเชื้อเชิญให้สวดภาวนาและทำการใช้โทษบาปถูกกำหนดไว้เพื่อกำจัดความชั่วร้ายและสงครามและเหนือสิ่งอื่นใดเพื่อช่วยวิญญาณให้รอด
- ตามที่มีรยานาบอก เราพบว่าตัวเรากำลังอยู่ใกล้เหตุการณ์ที่แม่พระทรงทำนายไว้ จากประสบการณ์ของเธอ มีรยานาบอกมนุษยชาติว่า:
– จงเปลี่ยนแปลงตัวคุณเองโดยเร็วที่สุด จงเปิดใจให้กับพระเจ้า
นอกจากนี้แล้ว ยังมีข้อความเพิ่มเติมของแม่พระซึ่งตรัสว่า
- ขอโทษสำหรับสิ่งนี้ แต่ลูกต้องรู้ว่าซาตานมีอยู่จริง; วันหนึ่งมันได้ไปอยู่เบื้องหน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้าและขออนุญาตให้มันทดสอบพระศาสนจักรในช่วงเวลาหนึ่ง พระเจ้าทรงอนุญาตให้มันทดสอบเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ ศตวรรษนี้อยู่ภายใต้อำนาจของปีศาจ แต่เมื่อความลับที่แม่ได้มอบให้แก่ลูกสำเร็จสมบูรณ์แล้ว อำนาจของมันจะถูกทำลาย ตอนนี้มันก็เริ่มสูญเสียอำนาจแล้วและมันแสดงความก้าวร้าวมากขึ้น: มันทำลายการแต่งงาน, ทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันระหว่างพระสงฆ์, สร้างความลุ่มหลง, การฆาตกรรม ลูกต้องปกป้องตัวเองด้วยการสวดภาวนาและการอดอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจงสวดภาวนาเป็นหมู่คณะในชุมชน นำศาสนภัณฑ์ติดตัวไว้เสมอ ตั้งไว้ในบ้านของลูก นำน้ำศักดิ์สิทธิ์กลับมาใช้ใหม่”
******************************
โรคระบาดจากโคโรน่าไวรัสที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้จะเป็นการเตือนครั้งแรกใช่หรือไม่? เราคิดว่าอาจจะเป็นเช่นนั้น
ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดก็มีการเตือนมาล่วงหน้าแล้ว
นั่นคือในวันที่ 6 ตุลาคม 2019 ซิสเตอร์อักเนส ซาซากาว่า แห่งอะกิตะ ในญี่ปุ่น ก็ได้รับสาส์นจากอารักขเทวดาของเธอซึ่งแจ้งกับเธอว่า
“จงโรยด้วยขี้เถ้า และขอให้สวดสายประคำเพื่อการสำนึกผิดชดเชยใช้โทษบาปทุกวัน เธอ(ซิสเตอร์อักเนส) จงกลับกลายเป็นเหมือนเด็กและขอให้ทำพลีกรรมทุกวัน"
อีกคำเตือนหนึ่งมาจากการาบังดัล แม่พระทรงบอกคอนชิตาว่า จะมีการประชุมไซนอดก่อนที่เหตุการณ์การเตือนของแม่พระจะเกิดขึ้นตามมาในไม่ช้า??? (ดูบทความนี้ได้ที่นี่)
มีการประชุมไซนอดอะเมซอนระหว่างวันที่ 6-27 ตุลาคม 2019 เดือนเดียวกับที่ซิสเตอร์อักเนสได้รับสาส์นจากทูตสวรรค์
นี่เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า การเตือนครั้งแรกได้เกิดขึ้นแล้ว? และสิ่งที่เราควรปฏิบัติในเวลานี้ก็คือการสวดภาวนาและกลับใจใช้โทษบาปของเราเองและของคนอื่นซึ่งอาจจะยังไม่รู้ตัว บางคนจะเชื่อการเตือน แต่หลายคนจะไม่เชื่อ
แม้แต่พระศาสนจักรเองก็อาจไม่ตระหนักรู้ในการเตือนนี้
ซึ่งทำให้เราคิดถึงพระวาจาของพระเยซูที่เตือนเปโตรว่า “ในวันนี้ก่อนไก่ขัน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง”
เราควรวอนขอพระเมตตาของพระเจ้าเหมือนสมัยประกาศกโยนาห์ ที่เตือนชาวนีนาเวห์ว่า “อีก 40 วัน เมืองนี้จะถูกทำลาย” ด้วยคำเตือนนี้ชาวเมืองนีนาเวห์ทุกคนพากันสวมเสื้อกระสอบ โรยตัวด้วยขี้เถ้า เป็นทุกข์เสียใจในบาปของตน เมื่อพระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น พระองค์จึงทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษพวกเขา โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยความชั่วร้ายมากมาย เช่น การทำแท้ง การฆาตกรรม ความลามก การคอร์รัปชั่น ความเห็นแก่ตัว สงคราม การก่อการร้าย การรวมตัวของกลุ่มรักร่วมเพศ ฯลฯ แม้แต่ในพระศาสนจักรเองก็ยังมีข่าวอื้อฉาวของพระสงฆ์ ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงมาก นอกจากนี้มนุษย์ยังได้ทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ด้วยการสร้างขยะจำนวนมหาศาลทิ้งลงในมหาสมุทร ขยะพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ มนุษย์สร้างมลพิษในอากาศด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ส่งผลให้เกิดความผันผวนของธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมใหญ่, ไฟไหม้ป่า, ความแห้งแล้ง
โรคระบาดโคโรน่า จะทำให้มนุษย์ได้มีเวลามากขึ้นที่จะพิจารณาไตร่ตรองถึงการกระทำของตน ทำให้พวกเราสำนึกว่า เราไม่ได้มีความสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ แม้จะมีวิทยาการก้าวหน้าสักเพียงใดก็ตาม เราจำเป็นต้องพึ่งพาพระเมตตาของพระเจ้า ผู้ทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งและควบคุมทุกสิ่งไว้ พระเมตตาของพระองค์มีไม่สิ้นสุด ถ้าเพียงแต่เราจะกลับใจหันมาหาพระองค์เท่านั้น
ขอพระเมตตาของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ทรงปกป้องรักษาทุกท่านเทอญ
*****************
ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ